การตั้งชื่อพรรค ของ พรรคคอมมิวนิสต์

องค์การคอมมิวนิสต์สากล รับเอาหลักการตั้งชื่อพรรคคอมมิวนิสต์ต่าง ๆ ให้เหมือนกันมาใช้ พรรคทุกพรรคจะต้องใช้ชื่อ "พรรคคอมมิวนิสต์แห่ง (ชื่อประเทศ)" ทุกวันนี้ มีพรรคคอมมิวนิสต์จำนวนมากที่ยังใช้ชื่อดังกล่าวอยู่ ในขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์อื่น ๆ ได้เปลี่ยนไปใช้ชื่ออื่น สาเหตุหลักคือเพื่อหลีกเลี่ยงการจำกัดห้ามปรามของรัฐ ตัวอย่างหนึ่งคือ พรรคแรงงานแห่งสวิส ซึ่งก่อตั้งใน ค.ศ. 1944 เพื่อแทนที่ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งถูกทำให้ผิดกฎหมาย หรือเพื่อบอกว่ายอมรับอุดมการณ์ทางการเมืองที่กว้างขึ้น ตัวอย่างทั่วไปของกรณีหลังก็คือ การเปลี่ยนชื่อของพรรคคอมมิวนิสต์ต่าง ๆ ในยุโรปตะวันออก หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ภายหลังการควบรวม กับพรรคสังคมนิยมประชาธิปไตยท้องถิ่น การควบรวมต่าง ๆ ดังกล่าว เกิดขึ้นในเยอรมนีตะวันออก (Socialist Unity Party of Germany), ฮังการี (Hungarian Working People's Party), โปแลนด์ (Polish United Workers Party) และ โรมาเนีย (Romanian Workers Party) ชื่อใหม่ ๆ ในยุคหลังสงคราม เช่น พรรคสังคมนิยม (Socialist Party), Socialist Unity Party, พรรคประชานิยม (Popular Party), พรรคกรรมกร (Workers Party) และ พรรคแรงงาน (Party of Labour)

หลักการตั้งชื่อของพรรคคอมมิวนิสต์เริ่มหลากหลายขึ้น เมื่อขบวนการคอมมิวนิสต์นานาชาติแตกออกเป็นส่วน ๆ จากการแยกกันของจีน - โซเวียต ในทศวรรษ 1960 พรรคที่อยู่ข้างจีนหรืออัลเบเนีย ที่วิพากษ์วิจารณ์การนำของโซเวียต มักจะเพิ่มคำอย่าง "ปฏิวัติ" หรือ "มาร์กซ-เลนิน" เข้าไปในชื่อ เพื่อแยกตัวเองออกจากพรรคที่สนับสนุนโซเวียต

ใกล้เคียง

พรรคความหวังใหม่ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย พรรคคอมมิวนิสต์อินโดนีเซีย พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา พรรคคอมมิวนิสต์จีน พรรคคอมมิวนิสต์ญี่ปุ่น พรรคคอมมิวนิสต์ (พม่า) พรรคคอมมิวนิสต์มลายา พรรคคอมมิวนิสต์ฮังการี