การก่อคดี ของ พรหมมาศ_เลื่อมใส

การปล้นร้านขายยาอี้เซ้ง

วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2528 พรหมมาศได้พาคนร้ายจำนวน 5 คนนั่งเรือหางยาวมาตามคลองลาดขวางแล้วจอดที่ท่าเรือห่างจากบ้านครอบครัวเจริญสุข 20 เมตร ถัดจากนั้นพรหมมาศและคนร้ายอีก 2 คนซึ่งใส่หมวกไหมพรมคลุมหน้าได้ลงจากเรือพร้อมกับมีด, ปืนขนาด.38 และปืนลูกซองยาว แล้วเดินเข้ามาหานางสาวศิริพร เจริญสุข อายุ 17 ปี ซึ่งกำลังแล้วขายของอยู่หน้าร้าน กลุ่มคนร้ายได้ใช้ปืนขู่ศิริพรเพื่อไม่ให้ขัดขืน ก่อนจะแยกย้ายกันรื้อค้นทรัพย์สิน[6] ระหว่างที่คนร้ายรื้อค้นทรัพย์สิน ศิริพรได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ นงนุชแม่ของศิริพรที่กำลังกินข้าวอยู่ในครัวหลังบ้านจึงกระโดดออกจากหน้าต่างแล้ววิ่งหนีไปปีนรั้วหลังบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและตะโกนว่า"ช่วยด้วย...ช่วยด้วย...ไฟไหม้" ทำให้ปราณีแม่ของศิริพรซึ่งนอนอยู่ชั้นสองได้รีบลงมายังชั้นล่างทำให้เธอถูกหนึ่งในคนร้ายใช้ปืนจ่อศรีษะ ในเวลาเดียวกันนายสุพจน์ ทองบริสุทธิ์ อายุ 32 ปี ชาวบ้านที่อยู่ห่างจากร้านขายยาเล็กน้อยได้คิดว่าได้เกิดไฟไหม้จริงๆ จึงวิ่งออกจากบ้านเพื่อมาช่วยดับไฟ พรหมมาศซึ่งถือปืนลูกซองและเป็นหัวหน้าสั่งการลูกน้องอยู่จึงใช้ปืนยิงออกจากร้าน ส่งผลให้สุพจน์เสียชีวิตในทันที เมื่อคนร้ายได้ทรัพย์สินมูลค่า 4,000 บาท ซึ่งประกอบด้วยเข็มขัดเงินน้ำหนัก 14 บาท จำนวน 1 เส้น แว่นตา 1 อัน กลุ่มคนร้ายจึงออกจากร้านไปพร้อมกับแบกเอาตู้เก็บเครื่องสำอางกับตู้ใส่แว่นไปด้วย ระหว่างที่ออกจากร้านกลุ่มคนร้ายได้ใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าจำนวน 5 นัดเพื่อขู่ชาวบ้าน ก่อนจะวิ่งกลับไปที่เรือหางยาวก่อนจะขับหลบหนีไป[7][8]

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอบ้านโพธิ์ทำให้ทราบชื่อผู้ก่อเหตุยิงสุพจน์คือพรหมมาศ เลื่อมใส ตำรวจจึงออกหมายจับพรหมมาศแต่เขาได้หลบหนีไปทำงานเป็นลูกเรือประมง เมื่อไม่ได้ออกเรือเขามักจะไปเล่นพนันตามวงไพ่หรือไฮโล[9]

การฆาตกรรมที่ร้านอาหารโต้รุ่ง ตลาดช่องแสมสาร

ในช่วงหลังเที่ยงคืนของวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 เขาได้ไปกินเหล้าที่ร้านอาหารโต้รุ่งตลาดช่องแสมสาร เขาได้มีปากเสียกับสมบูรณ์ พลอยประเสริฐและเกียรติ สุขประเสริฐ นายท้ายเรือประมงซึ่งมานั่งดื่มเหล้าที่โต๊ะตรงข้าม เมื่อพบว่าไม่น่าจะสู้ได้ เขาจึงกลับไปเอาปืนลูกซองจากบ้าน ในเวลา 01.00 น. เขากลับมายังร้านอาหารและใช้ปืนลูกซองยิงเกียรติจนได้รับบาดเจ็บสาหัส สมบูรณ์จึงลุกขึ้นมาแย่งปืนลูกซองจากพรหมมาศ เมื่อสมบูรณ์เสียหลักล้มลง เขาจึงใช้ปืนยิงที่ศรีษะของสมบูรณ์จนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานว่าคนร้ายน่าจะเคยมีเรื่องโกรธกันมาก่อน[10] จากการสืบสวนพยานที่เหตุการณ์ทำให้ทราบชื่อของคนร้ายคือพรหมมาศ เลื่อมใส[11]

การฆาตกรรมครั้งสุดท้ายและการจับกุม

วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2531 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอพานทองจำนวน 9 นายได้เข้าจับกุมผู้เล่นพนันรัมมี่ที่บ้านเนินไผ่ อำเภอพานทอง ระหว่างที่พลวิษณุ บุญเผย, สิบตำรวจตรีชาพุมาตร ศรีคุมแก้ว และดาบตำรวจถาวร สวัสดิผล กำลังวิ่งไล่ตามนักพนันจำนวน 3 คน เมื่อพรหมมาศหนึ่งในนักพนันจวนตัว เขาจึงหันกลับมาแล้วใช้ปืนยิงวิษณุจำนวน 2 นัด ทำให้วิษณุเสียชีวิต ถาวรและชาพุมาตรจึงเปลี่ยนจากการติดตามนักพนันคนอื่นมาติดตามเขา เมื่อเขาเห็นถาวรและชาพุมาตรเข้าใกล้จึงยิงใส่ทั้งสอง 2 นัดแต่กระสุนไม่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชาพุมาตรจึงใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าจำนวน 3 นัด เขาจึงโยนปืนลงคูน้ำและยอมจำนนเนื่องจากกลัวจะถูกวิสามัญฆาตกรรมและไม่มีกระสุนเหลือ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวเขามายังสถานีตำรวจภูธรพานทองเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายและแจ้งข้อหาพกอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่, พยามยามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน[12]

ใกล้เคียง

พรหมมาศ เลื่อมใส พรหมลิขิต พรหมโลก พรหมวิหาร 4 พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช พรหมพร ยูวะเวส พรหมจารีโดยสาบานในบอลข่าน พรหมพิริยะ ทองพุทธรักษ์ พรหมชาลสูตร (เถรวาท) พรหมธร กิ่งวรรณ