พระนางฮเยกย็องกุง (
เกาหลี: 혜경궁,
ฮันจา: 惠慶宮,
MC: Hyegyeonggung,
MR: Hyegyǒnggung) เป็นพระชายาของ
องค์ชายรัชทายาทซาโด และเป็นพระราชมารดาของ
พระเจ้าจองโจ หลังจากที่พระสวามีถูกลงพระอาญาจนสิ้นพระชนม์แล้วพระนางฮเยคย็องกุงก็ต้องมีพระชนม์ชีพที่ยากลำบาก เป็นแรงบันดาลใจให้พระนางทรงเขียนบันทึก เรียกว่า
ฮันจุงนก (한중록 閑中錄) เพื่อบันทึกเรื่องราวพระชนม์ชีพในฐานะพระชายาที่อาภัพ พระนางฮเยกย็องกุง ประสูติในปี
พ.ศ. 2278 สมัย
พระเจ้าย็องโจ เป็นธิดาของฮงพงฮัน สกุลฮงแห่งพงซาน เมื่อพระชนมายุ 9 ปี ได้อภิเษกสมรสกับองค์ชายรัชทายาทจางฮอน พระราชโอรสของพระเจ้าย็องโจ ตั้งแต่นั้นมาจึงมีพระยศเป็น
เซจาบิน (世子嬪) หรือ พระชายาขององค์ชายรัชทายาท ในพ.ศ. 2293 พระชายาก็ประสูติพระโอรสองค์แรก คือ องค์ชายรัชทายาทอึยโซ แต่ดำรงพระชนม์ชีพอยู่เพียงสองปีก็สิ้นพระชนม์ ในพ.ศ. 2295 พระชายาก็ประสูติพระโอรสอีกพระองค์ ได้รับแต่งตั้งเป็นวังเซซน (王世孫 พระนัดดารัชทายาท) ซึ่งภายหลังได้ขึ้นครองราชย์เป็น
พระเจ้าจองโจแต่องค์ชายรัชทายาทจางฮอนพระสวามีทรงเริ่มมีอาการทางพระสติ ทรงหวาดกลัวสิ่งต่างๆรอบตัวและเข่นฆ่าขันทีและนางรับใช้ต่างๆในวัง เป็นที่เดือดร้อนไปทั่ว จนในพ.ศ. 2305 ขุนนางถวายฎีกาให้พระเจ้าย็องโจลงพระอาญาองค์ชายจางฮอน พระเจ้าย็องโจยังลังเลอยู่ จนพระสนมอีย็องบิน พระมารดาขององค์ชายจางฮอนไปทูลขอให้พระเจ้าย็องโจลงพระอาญาพระโอรส โดยมีจดหมายถึงพระชายาว่า
[1]ข่าวลือที่ข้าได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นร้ายแรงกว่าทุกเรื่องที่ข้าเคยได้ยิน ให้ข้าตายเสียงยังจะดีกว่าต้องมาทนรับฟังเรื่องแบบนี้ แต่ถ้าข้าต้องอยู่ต่อไป สิ่งที่ข้าควรทำเท่านั้นคือปกป้องพระราชอาณาจักรและวังเซซน แม้ว่าข้าอาจจะสู้หน้าเจ้าต่อไปไม่ได้อีกเลยทั้งชีวิตพระเจ้าย็องโจมีพระราชโองการปลดองค์ชายจางฮอนจากตำแหน่งรัชทายาท และปลดพระชายาฮงจากตำแหน่ง และเนรเทศนางกลับบ้านเดิมคือบ้านของฮงพงฮัน องค์ชายจางฮอนเข้าไปอยู่ในกล่องไม้ใส่ข้าวตอกตะปูแน่น เป็นเวลาเจ็ดวันจึงสวรรคต ต่อมาพระเจ้าย็องโจทรงรู้สึกผิด ทรงคืนตำแหน่งให้อดีตองค์ชายรัชทายาทใหม่พระนามว่า องค์ชายรัชทายาทซาโด ส่วนอดีตพระชายาฮงนั้น ก็ได้คืนตำแหน่งเป็น
พระชายาฮเยบิน (惠嬪)แต่พระเจ้าย็องโจทรงให้วังเซซนเป็นพระโอรสบุญธรรมขององค์ชายรัชทายาทฮโยจาง และพระชายาฮโยซุน เพื่อจะได้ไม่ต้องมีพระราชบิดาที่ต้องโทษ เมื่อวังเซซนขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าจองโจในพ.ศ. 2319 จึงทรงแต่งตั้งพระราชบิดาและพระราชมารดาที่แท้จริงขึ้นเป็นกษัตริย์ไม่ได้เพราะความผิดขององค์ชายซาโดยังเป็นที่ประจักษ์ และก็มีพระราชบิดาและพระราชมารดาบุญธรรมที่ได้รับแต่งตั้งเป็นกษัตริย์อยู่แล้ว (องค์ชายรัชทายาทฮโยจาง เป็น พระเจ้าจินจง) แต่พระเจ้าจองโจก็ถวายพระนามใหม่แก่พระนางฮเยบิน ซึ่งเป็นพระราชมารดาแท้ๆว่า พระนางฮเยกย็องกุง(惠慶宮) อันจะเป็นชื่อสุสานของนางเมื่อสวรรคตแล้ว "กุง" เป็นสุสานระดับของพระสนมพระนางฮเยกย็องกุง สกุลฮงสวรรคตในพ.ศ. 2358 ในรัชกาลของพระเจ้าซุนโจ ซึ่งเป็นพระนัดดา ณ พระตำหนักคย็องชอนจอน(景春殿) ใน
พระราชวังชางกย็องกุง(昌慶宮) สิริพระชนมายุ 81 ปี พระนางมีพระนามเต็มอย่างเป็นทางการภายหลังสวรรคตว่า
พระนางฮโยคัง ชาฮี จ็องซ็อน ฮวีมก ฮอนกย็อง ฮเยบิน(孝康慈禧貞宣徽穆獻敬惠嬪) แต่โดยทั่วไปก็ยังออกพระนามว่าพระนางฮเยกย็องกุง สกุลฮง(惠慶宮 洪氏)อยู่นั่นเองในรัชกาล
พระเจ้าโคจง(พ.ศ. 2395-2462) ได้โปรดให้เฉลิมพระยศ
มกุฎราชกุมารซาโดและพระนางฮเยกย็องกุง สกุลฮง พระชายาขึ้นเป็นกษัตริย์และราชินี โดยพระนางฮเยกย็องกุง สกุลฮงนั้นได้รับการถวายพระนามว่า
พระมเหสีฮอนกย็องวังฮู(獻敬王后)ต่อมาเมื่อพระเจ้าโกจงทรงยกฐานะราชอาณาจักรโชซ็อนขึ้นเป็นจักรวรรดิ และเฉลิมพระยศพระองค์เองขึ้นเป็นฮวางเจซึ่งเทียบเท่ากับตำแหน่งฮ่องเต้ของราชสำนักต้าชิงแล้ว ได้โปรดเกล้าฯให้เฉลิมพระยศกษัตริย์และพระราชินีรัชกาลก่อนๆของโชซ็อนย้อนหลังขึ้นเป็นพระจักรพรรดิและพระจักรพรรดินีด้วย โดยพระราชินีฮอนกย็องได้รับการถวายพระนามว่า
พระจักรพรรดินีอึย (อึยฮวางฮู 懿皇后)