สถาปัตยกรรมและพื้นที่ ของ พระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล

พระบรมราชวังแห่งกัมพูชาเป็นตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมเขมรที่มีอิทธิพลของฝรั่งเศสเล็กน้อยที่มีต่อรูปแบบของกำแพงป้องกันพระราชวัง (เขมร: កំផែង กํแผง), ท้องพระโรง (เขมร: ព្រះទីនាំង เปรี๊ยะตีเนียง), วัดพระแก้วมรกต (เขมร: វត្តព្រះកែវមរកត), สถูป (เจดีย์), หอคอยยอดแหลมสูงตระหง่าน (ปรางค์ปราสาท) และภาพจิตรกรรมฝาผนัง พระบรมราชวังแห่งกรุงพนมเปญครอบคลุมพื้นที่ 174,870 ตารางเมตร

ท้องพระโรง

พระที่นั่งเทวาวินิจฉัยมหัยมหาปราสาท

พระที่นั่งเทวาวินิจฉัยมหัยมหาปราสาท หรือ "ท้องพระโรง" (เขมร: ព្រះទីនាំងទេវាវិនិច្ឆ័យមហ័យមហាប្រាសាទ) แปลว่า "ที่นั่งแห่งการตัดสินที่ศักดิ์สิทธิ์"

พระที่นั่งเทวาวินิจฉัยเป็นสถานที่ที่กษัตริย์กัมพูชา แม่ทัพ เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์หรือขุนนางข้าราชบริพารมาปรึกษาการบริหารแผ่นดินและออกว่าราชการ ในปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้ ใช้สำหรับงานพระราชพิธีต่าง ๆ เช่น พระราชพิธีขึ้นครองราชย์[3] หรือพระราชพิธีอภิเษกสมรส รวมไปถึงใช้เป็นสถานที่รับแขกบ้านแขกเมืองด้วย พระที่นั่งแห่งนี้มีผังเป็นรูปกากบาทและมียอดปราสาท 3 ยอด ยอดปราสาทตรงกลางสูงราว 59 เมตร ประดับด้วยพรหมพักตร์ 4 หน้า ภายในท้องพระโรงเป็นที่ตั้งของพระราชบัลลังก์ซึ่งประกอบไปด้วย 3 บัลลังก์ (บัลลังก์หนึ่งเป็นแบบตะวันตกและอีกสองบัลลังก์เป็นแบบดั้งเดิม) และมีรูปปั้นครึ่งตัวสีทองของพระมหากษัตริย์และพระราชินีกัมพูชาในอดีตนับตั้งแต่สมัยสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดีเป็นต้นมา ท้องพระโรงแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งที่สอง โดยครั้งแรกท้องพระโรงสร้างด้วยไม้ ใน พ.ศ. 2412-2413 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตารแล้วถูกรื้อถอนใน พ.ศ. 2458 ท้องพระโรงองค์ปัจจุบันสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2460 แล้วเริ่มใช้ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์เมื่อปี พ.ศ. 2462 ท้องพระโรงมีขนาด 30x60 เมตร โดยมียอดสูง 59 เมตร ท้องพระโรงหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเช่นเดียวกับสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ในพระราชวัง

เมื่อเข้าเยี่ยมชมท้องพระโรง (พระราชบัลลังก์ในด้านหน้าและพระที่นั่งบุศบกที่ที่อยู่สูงกว่าในด้านหลัง) และจิตรกรรมฝาผนังเพดานที่สวยงามของเรียมเกร์ ไปทางทิศด้านเหนือของพระราชบัลลังก์จะมีพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ถือพระแสงขรรค์ชัยศรีตั้งอยู่ พระบรมรูปทำด้วยทองคำและฉลองพระองค์ตามแบบพระราชอัธยาศัย ขณะที่ทางทิซด้านใต้ของพระราชบัลลังก์มีพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ทรงประทับที่ พระที่นั่งบุษบก ทรงฉลองพระองค์และปกคลุมด้วยเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของกัมพูชา (พระองค์สวมพระมหาพิชัยมงกุฎ, ฉลองพระบาทเชิงงอนและในพระหัตถ์ขวาถือพระแสงขรรค์ชัยศรีของพระมหากษัตริย์ พระองค์ประทับบนพระที่นั่งบุษบก ซึ่งถูกสร้างขึ้นให้ดูเหมือนของจริงทางด้านขวา)

พระที่นั่งบุษบก

พระราชบัลลังก์ตามแบบดั้งเดิมตามโบราณราชประเพณี หรือ พระที่นั่งบุษบก (เขมร: ព្រះទីនាំងបុស្បុក) เป็นบัลลังก์รูปแบบเขมรคลาสสิกโบราณเก้าระดับ พระมหากษัตริย์เขมรแต่ละพระองค์จะต้องทรงประทับอยู่ในวันราชาภิเษกขณะสวมใส่เครื่องราชกกุธภัณฑ์ มันถูกปกคลุมไปด้วยงานแกะสลักดอกไม้ที่ซับซ้อนและมีรูปปั้นขนาดเล็กสองรูปของครุฑ ยกส่วนบนของบุษบก บัลลังก์สามในเก้าระดับเป็นตัวแทนของระดับนรก โลกอยู่ตรงกลางและสวรรค์ รอบ ๆ บุษบก เป็นร่มทองคำสี่ชั้นจากเก้าชั้น (ฉัตร 9 ชั้น) เรียกว่าอภิรมย์ (เขมร: អភិរម្យ) ในท้ายที่สุดบุษบกนั้นได้รับการประดับประดาด้วยร่มสีขาวของ หรือ (เขมร: ព្រះមហាស្វេតឆ័ត្រ) (พระมหาเศวตฉัตร คล้ายกับ "นพปฎลมหาเศวตฉัตร" ในประเทศไทย) หมายถึงพลังอำนาจสากลที่กษัตริย์มี ด้านหน้าของบุษบกเป็นพระราชบัลลังก์ โต๊ะที่ตั้งอยู่ติดกับบัลลังก์หลวงบรรจุชุดน้ำชาทองและพลูทองและหมากภาชนะบรรจุหมากซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องราชกกุธภัณฑ์และอยู่บนโต๊ะเสมอ หรือมักเรียกว่า "พานพระศรี" (เขมร:ពានព្រះស្រី) ถือเป็นหนึ่งในเครื่องราชูปโภค ด้านหลังของพระที่นั่งบุษบกเป็นอีกบุษบกหนึ่งคือ พระที่นั่งนิรยโสภา (เขมร: ព្រះទីនាំងនារីរ័ត្នសោភា), พระที่นั่งบุษบกเป็นพระที่นั่งสำหรับพระมหากษัตริย์และพระที่นั่งนิรยโสภาที่ด้านหลังสำหรับพระราชินี

พระที่นั่งจันทฉายา

พระที่นั่งจันทฉายา

พระที่นั่งจันทฉายา (เขมร: ព្រះទីន័ងច័ន្ទឆាយា) หรือ "ศาลาแสงจันทร์", เป็นศาลารูปแบบเปิดโล่งรับอากาศ ใช้เป็นสถานที่แสดงนาฏศิลป์เขมรโบราณ

ใกล้เคียง

พระบรมสารีริกธาตุ พระบรมมหาราชวัง พระบรมวงศานุวงศ์ พระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล พระบรมราชา (มัง) พระบรมบรรพต พระบรมรูปทรงม้า พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราชและสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี