ครองราชย์ครั้งแรก ของ พระบาทสมเด็จพระนโรดม_สีหนุ

พระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชายุคใหม่
สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี
พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร
พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์
พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ (ครั้งที่ 1)
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ (ครั้งที่ 2)
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุในพระราชพิธีราชาภิเษกปีพ.ศ. 2484

หลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ ฝรั่งเศสจึงส่งราชสมบัติไปยัง นักองราชวงศ์นโรดม สีหนุ เชื้อพระวงศ์หนุ่มที่กำลังศึกษาอยู่ในลีเซ Chasseloup-Laubat ในไซ่ง่อน นักองราชวงศ์นโรมดม สีหนุ จึงเสด็จขึ้นครองราชสมบัติครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2484 ทำให้การสืบราชสันตติวงศ์ของกัมพูชากลับมายังสายของพระบาทสมเด็จพระนโรดม พรหมบริรักษ์ หรือนักองราชาวดีอีกครั้งหนึ่ง[20] ด้วยฝรั่งเศสมั่นใจอย่างยิ่งยวดว่าจะสามารถคุมสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ได้[19]

ต้นรัชกาล ผู้ที่ทรงอำนาจเหนือกว่าพระองค์กลับเป็น ออกญาวังวรเวียงชัย (จวน) เสนาบดีผู้ภักดีต่อการปกครองของฝรั่งเศส พระองค์เคยกล่าวถึงเขาว่า "[เป็น] ราชาองค์น้อย ๆ อย่างแท้จริง ทรงอำนาจดุจเรสิดังสุเปริเออร์ [Residents-Supérieur]"[21][22] แต่เขาก็พ้นจากตำแหน่งหลังการครองราชย์ของพระองค์ ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่ฝรั่งเศสเอาใจยุวกษัตริย์พระองค์ใหม่ แม้ฝรั่งเศสจะเหลือขุนนางที่ภักดีต่อตนบ้าง เช่น จวน ฮล บุตรของออกญาวังวรเวียงชัย แต่ก็ไม่ทรงอิทธิพลเท่าบิดา[17]

อย่างไรก็ตามช่วงที่พระองค์ครงราชย์นั้นเป็นช่วงที่มีการต่อต้านฝรั่งเศสและเกิดกระแสชาตินิยม แต่ฝรั่งเศสก็ยังมีความสามารถที่จะปกป้องระบบการปกครองของตน ดังเมื่อเกิดการประท้วงในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1942 เนื่องจากการที่ฝรั่งเศสจับกุมพระภิกษุรูปหนึ่งในข้อหาวางแผนรัฐประหารโดยมิให้ลาสิกขาเสียก่อน ฝรั่งเศสจึงใช้กำลังสลายกลุ่มผู้ชุมนุมกว่าพันคนอย่างรวดเร็ว[23] และช่วงปี ค.ศ. 1940 ก็มีการชุมนุมเรียกร้องเอกราชที่พระตะบองนำโดยปก คุณ (วิบูล ปกมนตรี) และรัฐบาลไทยในช่วง ค.ศ. 1940-1948 ก็ต่างสนับสนุนทุน, ฐาน และอื่น ๆ แก่เขมรอิสระ จึงมีการติดอาวุธต่อสู้กับฝรั่งเศสแถบชายแดนไทยอยู่เนือง ๆ [24] แต่ภายหลังเมื่อรัฐบาลไทยยุติการสนับสนุนเขมรอิสระจึงแตกเป็นหลายกลุ่ม เช่น ฝ่ายซ้ายเข้ากับเวียดมินห์ ส่วนฝ่ายขวาก็ทำการต่อต้านฝรั่งเศสและสีหนุ เป็นอาทิ[24]

วันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 1945 กองทหารญี่ปุ่นที่ยึดครองอินโดจีนของฝรั่งเศสอย่างหลวม ๆ ตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 1940 ได้เข้าปลดอาวุธฝรั่งเศสทั่วอินโดจีน และให้เจ้าหน้าที่ชาวฝรั่งเศสลาออกจากตำแหน่งการปกครอง[25] รวมทั้งมีการติดอาวุธให้แก่ชาวกัมพูชา และปลุกกระแสชาตินิยมต่อต้านฝรั่งเศสมาใช้เพื่อทานการรุกของฝ่ายสัมพันธมิตรที่คาดว่าจะเกิดในปีนั้น[25] โดยพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุทรงออกมาประกาศเอกราชและยกเลิกสนธิสัญญาและพันธะกรณีทั้งปวงที่มีต่อฝรั่งเศสออกเสีย และสร้างข้อตกลงกับญี่ปุ่นแทน[25]

ในวันที่ 9 สิงหาคม-10 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ได้มีการรัฐประหารต่อต้านกษัตริย์ซึ่งเป็นพวกของเซิง งอกทัญ ขณะที่เซิง งอกทัญ ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนเดียวกัน[26]หลังจากการรัฐประหารที่คลุมเครือ และไม่กี่วันต่อมาญี่ปุ่นก็ยอมแพ้แก่สัมพันธมิตรให้หยั่งเสียงการสนับสนุนเอกราช ซึ่งเป็นไปอย่างท่วมท้น แต่ภายหลังนายกเซิง งอกทัญ ก็ถูกปลดออก และฝรั่งเศสก็กลับมามีอำนาจแทนที่[27]

ใกล้เคียง

พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

แหล่งที่มา

WikiPedia: พระบาทสมเด็จพระนโรดม_สีหนุ http://thai.cri.cn/247/2013/01/28/123s206547.htm http://freepages.genealogy.rootsweb.ancestry.com/~... http://freepages.genealogy.rootsweb.ancestry.com/~... http://www.angelfire.com/pokemon2/stateless_it/pag... http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/... http://www.diacritica.com/sobaka/dossier/sihanouk.... http://www.imdb.com/ http://www.imdb.com/name/nm0797625/ http://hilight.kapook.com/view/81651 http://www.msnbc.msn.com/id/49423414#.UHySb650E2w