พระปราณีศรีมหาพุทธบริษัทหรืออาดยาหลวงปาดี พื้นพระบาทใช้ชาติออกนามเจ้าพระนมเมกเถ้า
[1] อนุสรณ์ ร้อยตำรวจตรี ประดิษฐ์ รามางกูร ๒๒ กันยายน ๒๕๒๘ ออกนามย่อว่าหลวงปรานีพุทธบริษัท
[2] นามเดิมท้าวเมฆหรือเมกทองทิบ (เมฆทองพิพย์) เป็นขุนโอกาส (เจ้าโอกาส) หรือนัยว่าเป็นเจ้าเมืองธาตุพนมลำดับ ๓ จากราชวงศ์เวียงจันทน์ เป็นหลานตาเจ้าพระรามราชฯ ขุนโอกาสธาตุพนมลำดับแรก
[3] บิดาเป็นเจ้าเมืองท่าแขก ปู่เป็นเป็นเจ้าเมืองนครพนม ภรรยาเอกชื่อนางกองสีเป็นธิดาพระอุปฮาตหูเลเมืองบังมุก
[4] พระอัคร์บุตร (บุนมี) หลานปู่เจ้าพระรามราชฯ ไม่สนับสนุนให้เป็นขุนโอกาสเนื่องจากเป็นหลานตาเจ้าพระรามราชฯ จึงเกิดเหตุวิวาททำให้พระอัคร์บุตร (บุนมี) หนีไปอยู่ฝั่งซ้ายน้ำโขง
[5]หลัง พ.ศ. ๒๓๗๑ ราชวงศ์เวียงจันทน์ล่มสลายถูกลดบทบาทปกครองจากปัญหาความขัดแย้งมูลนายธาตุพนมและหนีจากธาตุพนมอยู่เซบั้งไฟฝั่งซ้ายน้ำโขง จากนั้นตำแหน่งขุนโอกาสว่างลงและถูกลดฐานะเป็นนายกองข้าพระธาตุพนม บิดาข้ามไปอยู่ในอารักขาฝรั่งเศส มารดาอยู่ธาตุพนม พ.ศ. ๒๔๔๔ หลังธาตุพนมถูกลดฐานะเป็นเพียงหมู่บ้าน ได้กลับมาโดยนำชาวบ้านบูรณะพระธาตุพนมสมัย
พระครูวิโรจน์รัตโนบล (รอด นนฺตโร) พื้นเมืองพนมระบุสิ้นเงินส่วนตัวถึงหมื่นหนึ่ง พื้นพระบาทใช้ชาติระบุว่าสร้างพระพุทธรูปถวายวัดพระธาตุพนมพร้อมพระปิตตาเจ้าท่าแขกผู้เป็นบิดาคนละองค์ ปัจจุบันไม่พบพระพุทธรูป
[6] [7] และบูรณะวัดหัวเวียงรังษีซึ่งเป็นวัดประจำตระกูลผู้ปกครองธาตุพนมร่วมกับพระอุปราชา (เฮือง)
[8] พื้นพระบาทใช้ชาติหรือพื้นพระยาธรรมมิกราชระบุถึงพระองค์และเหตุการณ์ธาตุพนมเพียงสั้น ๆ ว่า ...สังกลาดได้ ๒ ฮ้อย ๖๐ ๒ ตัว อาดยาเจ้าพระปาดีเถ้าขว้ามคืนมาแต่ปากเซแล สังกลาดราซาได้ ๒ ฮ้อย ๖๐ ๓ ตัว เจ้าเมืองแสนแลเมืองจันเอาเจ้าหัวคูลอดมาซ่อมแปงทาดตุพระนม อาดยาเถ้าเมกเจ้าพระนมหยุดหยาวัดหัวเวียง แลหล่อพระเจ้าเมกทองทิบ พระปิตตาเจ้าท่าแขกหล่อพระเจ้าจันทองทิบถวายวัดพระนม สังกลาดราซาได้ ๒ ฮ้อย ๖๐ ๔ ตัว เดือน ๑๐ เจ้าพระนมเมกเถ้าตนหลานจุตติแล กำแพงโฮงหลวงเจื่อนลงของ...
[9]