พระยาพลเทพ

พระยาพลเทพ เป็นชื่อตำแหน่งของเสนาบดีกรมนาหรือเกษตราธิการ หนึ่งในเสนาบดีจตุสดมภ์ ราชทินนามเต็มตามทำเนียบพระไอยการนาพลเรือนคือ "ออกญาพลเทพราชเสนาบดีศรีไชยนพรัตนกระเสตราธิบดีอภัยพิรียบรมกรมภาหุ" ศักดินา ๑๐,๐๐๐ ไร่[1] ในสมัยรัตนโกสินทร์ยกขึ้นเป็นเจ้าพระยา ทำหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานผู้ดูแลไร่นา เก็บหางข้าวหรือข้าวจากนาของราษฏรสำหรับขึ้นฉางหลวง (สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเปลี่ยนให้จ่ายเป็นเงินเรียกว่าค่านาแทน) จัดซื้อข้าวขึ้นฉางหลวงสำหรับแจกจ่ายในพระราชวังและพระนคร ตั้งศาลพิจารณาความที่เกี่ยวข้องกับที่นาและสัตว์ที่ใช้ทำนาอย่างโคกระบือ ทำหน้าที่เป็นพระยาแรกนาในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และทำหน้าที่เป็นพระยายืนชิงช้าในพระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวาย[2][3]ในคำให้การชาวกรุงเก่า ได้บันทึกว่าผู้ดำรงตำแหน่งพระยาพลเทพในช่วงเวลานั้นเป็นไส้ศึกให้กับพม่าซึ่งมีส่วนทำให้กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าเป็นครั้งที่ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๐ กล่าวว่า "คราวนั้นพระยาพลเทพข้าราชการในกรุงศรีอยุธยาเอาใจออกหาก ลอบส่งเครื่องสาตราวุธเสบียงอาหารให้แก่พม่า สัญญาจะเปิดประตูคอยรับ พม่าเห็นได้ทีก็ระดมเข้าตีปล้นกรุงศรีอยุทธยา ทำลายเข้ามาทางประตูที่พระยาพลเทพนัดหมายไว้ ก็เข้าเมืองได้ทางประตูทิศตวันออกในเวลากลางคืน"[4] ต่างกับพระราชพงศาวดารไทยและพม่าว่ากองทัพพม่าทำการขุดอุโมงค์และเผารากกำแพงจนกำแพงถล่ม ทำให้พม่าเข้าเมืองได้ในที่สุด และในพงศาวดารทั้งไทยและพม่าไม่ได้พูดถึงบทบาทพระยาพลเทพเลย แต่มีชื่อภยาภลเทป (ဘယာဘလဒေပ พระยาพลเทพ) ปรากฏในมหาราชวงศ์พงษาวดารพม่าว่าเป็นหนึ่งในขุนนางอยุธยาที่ถูกกวาดต้อนไปอังวะ[5][6]ผู้ดำรงตำแหน่งพระยาพลเทพคนสุดท้าย คือเจ้าพระยาพลเทพ (เฉลิม โกมารกุล ณ นคร)