พระยาวิชยาธิบดี_(แบน_บุนนาค)

พระยาวิชยาธิบดี (แบน) บุนนาค เป็นบุตร พระยาอรรคราชนารถภักดี (หวาด บุนนาค) กับคุณหญิงบัว ต.จ. (สกุลเดิม สมบัติศิริ) เป็นน้องร่วมบิดามารดากับ พระยาเดชานุชิต (หนา บุนนาค) เข้ารับราชการในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้รับตำแหน่งเป็นพระเทพสงคราม ตำแหน่งรักษาราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และอยู่ในตำแหน่งนี้ 12 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2436 - 2447 ระหว่างที่ประเทศฝรั่งเศสยึดครองจังหวัดจันทบุรี ได้ทำหน้าที่เป็นผู้รักษาบ้านเมืองในเวลาคับขันได้อย่างเรียบร้อย ครั้นเมื่อฝรั่งเศสถอนทหารออกไปจากจันทบุรีแล้ว ในปี พ.ศ. 2449 โปรดเกล้าฯ ให้รวมจังหวัดจันทบุรี จังหวัดระยอง และขลุง เป็นมณฑลจันทบุรี และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาวิชยาธิบดีเป็นสมุหเทศาภิบาลมณฑลจันทบุรีคนแรก พระยาวิชยาธิบดีเคยได้รับยศเป็นพระพิพิธภักดี กองส่วยวังหน้า ในสมัยรัชกาลที่ 5 ต่อมาได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นพระกำแหงฤทธิรงค์ ปลัดเมืองจันทบุรี และพระเทพสงคราม รักษาราชการเมืองจันทบุรีแทนผู้เป็นบิดาที่ย้ายไปรับราชการที่ กระทรวงการต่างประเทศ ต่อมาในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2443 ท่านได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระยาวิชยาธิบดี ถือศักดินา 3000[1]พระยาวิชยาธิบดี (แบน) บุนนาค เป็นหลานของ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ และ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ซึ่งสมรสกับ ท่านผู้หญิง กลิ่น บุนนาคพระยาวิชยาธิบดี เข้ารับราชการในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้รับตำแหน่งเป็นพระเทพสงคราม ตำแหน่งรักษาราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และอยู่ในตำแหน่งนี้ 12 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2436 - 2447 ระหว่างที่ประเทศฝรั่งเศสยึดครองจังหวัดจันทบุรี ได้ทำหน้าที่เป็นผู้รักษาบ้านเมืองในเวลาคับขันได้อย่างเรียบร้อย ครั้นเมื่อฝรั่งเศสถอนทหารออกไปจากจันทบุรีแล้ว ในปี พ.ศ. 2449 โปรดเกล้าฯ ให้รวมจังหวัดจันทบุรี จังหวัดระยอง และขลุง เป็นมณฑลจันทบุรี และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาวิชยาธิบดี เป็นสมุหเทศาภิบาลมณฑลจันทบุรีคนแรก

ใกล้เคียง

พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) พระยาพิชัยดาบหัก พระยามโนปกรณ์นิติธาดา (ก้อน หุตะสิงห์) พระยาทรงสุรเดช (เทพ พันธุมเสน) พระยาวิไชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) พระยาเทพหัสดิน (ผาด เทพหัสดิน ณ อยุธยา) พระยาภะรตราชา (หม่อมหลวงทศทิศ อิศรเสนา) พระยาอนิรุทธเทวา (หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ) พระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ) พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง)