พระเจ้าฟ้ารั่ว (
พม่า: ဝါရီရူး, ออกเสียง: [wàɹíjú]; 20 มีนาคม ค.ศ. 1253 – ประมาณ 14 มกราคม ค.ศ. 1307) เป็นปฐมกษัตริย์ใน
เมืองเมาะตะมะ[1] ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในเขต
ประเทศพม่า ทรงครองราชสมบัติระหว่าง ค.ศ. 1287 ถึง 1307 พระองค์มีพระปรีชาสามารถทั้งด้านการต่างประเทศและการทหาร ทรงปกครองอาณาจักรมอญในพม่าตอนล่างช่วงการล่มสลายของ
อาณาจักรพุกามประมาณปี ค.ศ. 1280 กระทั่งพระองค์ถูกปลงพระชนม์ในปี ค.ศ. 1307 แต่สายราชสกุลที่สืบเชื้อสายจากพระองค์ก็ปกครองราชอาณาจักรหงสาวดีจนกระทั่งล่มสลายในช่วงกลาง
คริสต์ศตวรรษที่ 16พระเจ้าฟ้ารั่วประสูติ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1253 โดยมีพระนามเดิมว่า
มะกะโท (แมะกะตู) ต่อมาใน ค.ศ. 1272 ขณะพระชนมายุได้ 19 พรรษาก็ติดตามบิดาไปค้าขายที่
อาณาจักรสุโขทัยในรัชสมัย
พ่อขุนบานเมือง กษัตริย์รัชกาลที่ 2 แห่งราชวงศ์พระร่วง พระองค์ได้เข้ารับราชการในราชสำนักสุโขทัยโดยเริ่มจากตำแหน่งควาญช้างกระทั่งทำความดีความชอบเรื่อยมาจนได้รับปูนบำเหน็จเป็นขุนวังในรัชสมัย
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช กษัตริย์รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์พระร่วง
[2] และมีใจผูกพันรักใคร่กับ
เจ้านางสร้อยดาว พระราชธิดาของพ่อขุนรามคำแหงและได้พาเจ้านางสร้อยดาวหนีไป
[2][3]ใน ค.ศ. 1285 เมื่อพระองค์ออกจากสุโขทัยกลับมายังเมาะตะมะ ได้มีเรื่องกระทบกระทั่งกับ
อลิมามาง เจ้าเมืองเมาะตะมะที่ราชสำนักพุกามส่งมาปกครอง ในที่สุดพระองค์สามารถสังหารอลิมามางสำเร็จ
[4][5] พร้อมกับสถาปนาพระองค์เป็นกษัตริย์ และประกาศอิสรภาพจากอาณาจักรพุกามเมื่อ ค.ศ. 1287 เมื่อสถาปนาพระองค์เป็นกษัตริย์เมืองเมาะตะมะแล้ว พระองค์ได้ส่งพระราชสาส์นมาขอขมาพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ซึ่งพ่อขุนรามคำแหงมหาราชได้พระราชทานอภัยโทษ และได้พระราชทานพระนามกษัตริย์มะกะโท ตามจารึกในสุพรรณบัฏว่า
พระเจ้าฟ้ารั่ว แต่ชาวมอญเรียกว่า
พระเจ้าวาโรตะละไตเจิญภะตาน[6] หรือ
สมิงวาโร[7] พระองค์ใช้เวลาเกือบสิบปีจัดการศัตรูทางการเมืองจนหมดสิ้น กระทั่งสามารถรวบรวมแผ่นดินมอญให้เป็นปึกแผ่นได้สำเร็จใน ค.ศ. 1296 พระองค์ยังได้รับการยอมรับจาก
ราชวงศ์หยวนของจีนในปี ค.ศ. 1298
[8]พระเจ้าฟ้ารั่วเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 1307 เนื่องจากถูกปลงพระชนม์โดยพระราชโอรส 2 พระองค์ของ
พระเจ้าตะยาพยาแห่งกรุงหงสาวดี อดีตพันธมิตรของพระเจ้าฟ้ารั่ว เพื่อแก้แค้นให้กับพระบิดาที่ถูกพระเจ้าฟ้ารั่วจับสำเร็จโทษ
[9][10] และเนื่องจากพระเจ้าฟ้ารั่วสวรรคตโดยไร้รัชทายาททำให้มะกะตาพระอนุชาได้ขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อมาเป็น
พระเจ้ารามประเดิด[10]