พระเจ้าเอ็ดการ์ผู้รักสงบ (
อังกฤษ: Edgar the Peaceful หรือ Edgar the Peaceable) (ราว ค.ศ. 943 หรือ ค.ศ. 944 - ค.ศ. 975)
พระมหากษัตริย์อังกฤษใน
ราชวงศ์เวสเซกซ์พระเจ้าเอ็ดการ์ผู้รักสงบเสด็จพระราชสมภพเมื่อราวปี ค.ศ. 943 หรือปี ค.ศ. 944 ที่เวสเซ็กซ์ ใน
อังกฤษ เป็นพระราชโอรสพระองค์รองใน
พระเจ้าเอ็ดมันด์ที่ 1 แห่งอังกฤษและ
เอลฟ์จิฟูแห่งชาฟท์สบรี ทรงอภิเษกสมรสกับเอเธลฟรีด วูลฟธริธ และ
เอลฟ์ธรีธทรงราชย์ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 959 จวบจนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 975 ที่วินเชสเตอร์
ประเทศอังกฤษ พระเจ้าเอ็ดการ์ทรงปกครองบริเวณเหนือ
แม่น้ำเทมส์กับขุนนางของพระองค์กลุ่มหนึ่ง เมื่อ
พระเจ้าเอ็ดวีเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 959 พระเจ้าเอ็ดการ์ก็ทรงเรียกตัวมุขนายกดันสตัน (ต่อมาเป็น
นักบุญดันสตัน) กลับมาจากการลี้ภัยกลับมาและแต่งตั้งให้เป็นมุขนายกแห่งวูสเตอร์และต่อมาเป็น
มุขนายกแห่งลอนดอนและในที่สุด
อัครมุขนายกแห่งแคนเทอร์เบอรี ดันสตันเมื่อเริ่มแรกไม่ยอมสวมมงกุฏให้พระเจ้าเอ็ดการ์เพราะไม่ยอมรับวิธีดำเนินชีวิตของพระองค์เกี่ยวกับการมีพระสนม[
ต้องการอ้างอิง] เช่นวูลฟธริธ (ต่อมาเป็น
นักพรตหญิงที่วิลตัน) ซึ่งได้ให้กําเนิดพระราชธิดานอกสมรส
อีดจิธ แต่ดันสตันก็เป็นที่ปรึกษาที่พระเจ้าเอ็ดการ์ไว้วางพระทัยตลอดรัชสมัยรัชสมัยของพระเจ้าเอ็ดการ์เป็นรัชสมัยที่บ้านเมืองมีความสงบสุขและอาจจะเป็นสมัยที่เรียกได้ว่าเป็นสมัยที่รุ่งเรืองที่สุดของ
อังกฤษสมัยแองโกล-แซกซัน แม้ว่าการรวมตัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอังกฤษจะเป็นผลที่มาจากผู้ที่ครองบัลลังก์มาก่อนพระองค์ ในปลายรัชสมัยของพระเจ้าเอ็ดการ์ อังกฤษก็เกือบจะไม่มีศัตรูที่จะมาแบ่งราชอาณาจักรอย่างที่เคยเป็นมาก่อนในสมัยนี้ดันสตันก็มีบทบาทในการปฏิรูปอารามที่ออกจะเริ่มหย่อนยานให้กลับไปถือ
วินัยของนักบุญเบเนดิกต์อย่างที่เคยเป็นมา แต่บทบาทอันนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถึยงกันในบรรดาผู้รู้ในวงการศึกษาพระเจ้าเอ็ดการ์ได้ทำพิธีสวมมงกุฏที่
บาธในปี
ค.ศ. 973 ซึ่งมิใช่ราชาภิเศกในการฉลองการเริ่มรัชกาล พระราชพิธีครั้งนี้เตรียมการโดยดันสตันเองโดยมีโคลงเฉลิมพระเกียรติที่บันทึกใน
บันทึกเหตุการณ์ของชาวแองโกล-แซกซัน เป็นพระราชพิธีที่เป็นพื้นฐานในการทำพิธีบรมราชาภิเศกของอังกฤษมาจนถึงปัจจุบันนี้ พระราชพิธีเป็นพิธีสัญลักษณ์โดยมีเจ้าผู้ครองอาณาจักรในอังกฤษมาแสดงความสวามิภักดิ์ต่อพระองค์ที่เชสเตอร์ กษัตริย์หกพระองค์ในบริเตนและสกอตแลนด์ปฏิญาณว่าจะเป็นผู้ป้องกันพระองค์ไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางทะเล ต่อมาบันทึกเหตุการณ์ของชาวแองโกล-แซกซันกล่าวว่ามีแปดองค์ แต่พระราชพิธีประกาศการสวามิภักดิ์ที่เชสเตอร์ (submission at Chester) ดูเหมือนว่จะเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นพระเจ้าเอ็ดการ์มีพระราชโอรสธิดาเจ็ดพระองค์
พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดมรณสักขีพระราชโอรสพระองค์ใหญ่สืบราชบัลลังก์ต่อจากพระองค์ หลังจากที่เสด็จสวรรคตมาจนถึง
การพิชิตอังกฤษของชาวนอร์มันไม่มีราชบัลลังก์ใดที่ได้รับการสืบทอดโดยไม่มีปัญหาในการแก่งแย่ง