พรีเมียร์ลีก_ฤดูกาล_2014–15

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014–15 (หรือเรียกว่า บาร์คลีส์พรีเมียร์ลีก ด้วยเหตุผลด้านผู้สนับสนุน) เป็นการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ 23 นับแต่เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1992 เริ่มต้นฤดูกาลวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 2014[4] และสิ้นสุดฤดูกาลวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 2015.[5] มีทีมเข้าร่วมแข่งขันในลีก 20 ทีม โดยมี 17 ทีมเดิมจากฤดูกาลก่อน และอีก 3 ทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาจากฟุตบอลลีกแชมเปียนชิพ โดยมี 2 ทีมที่ได้เลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติ ได้แก่ เลสเตอร์ซิตี, เบิร์นลีย์ และอีก 1 ทีมที่เป็นผู้ชนะในรอบเพลย์ออฟ คือ ควีนส์พาร์กเรนเจอส์นอกจากนี้แล้ว พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ยังทำสถิติมูลค่าการซื้อขายนักฟุตบอลในแต่ละทีมต่าง ๆ สูงมากเป็นประวัติการณ์ โดยเพียงแค่ในการซื้อขายรอบแรก (ก่อนถึงวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2014 เวลา 22.00 น. ตามเวลามาตรฐานกรีนิช) โดยมีมูลค่ารวมกันถึง 835 ล้านปอนด์ ซึ่งนอกจากจะทำลายสถิติสูงสุดของการซื้อขายรอบแรกที่เคยทำไว้เมื่อฤดูกาลก่อน คือ 630 ล้านปอนด์ เพียงเฉพาะยอดการซื้อขายเฉพาะแค่รอบแรกครั้งนี้ ยังมากกว่าสถิติซื้อขายทั้ง 2 รอบของฤดูกาลก่อนที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ คือ 760 ล้านปอนด์ อีกด้วย โดยทีมที่ทำสถิติซื้อตัวนักฟุตบอลสูงสุด คือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในราคาเกือบ 150 ล้านปอนด์[6] อีกทั้งแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้ซื้อตัวอังเคล ดี มารีอา นักฟุตบอลชาวอาร์เจนตินามาจากเรอัลมาดริดในลาลิกาของสเปน ด้วยค่าตัวเกือบถึง 60 ล้านปอนด์ นับว่าเป็นสถิติสูงสุดของการซื้อขายตัวนักฟุตบอลของวงการฟุตบอลอังกฤษ นอกจากนี้แล้วภาพโดยรวมยังถือว่า ใช้จำนวนเงินซื้อขายนักฟุตบอลแพงกว่าลีกอื่น ๆ ในทวีปยุโรปด้วยกัน (เช่น ลาลิกาของสเปน หรือเซเรียอาของอิตาลี) ถึงเกือบเท่าตัว[7]ผลการแข่งขัน เชลซี เป็นทีมที่ได้แชมป์ไป นับเป็นการครองตำแหน่งแชมป์เป็นสมัยที่ 5 โดยได้แชมป์ตั้งแต่การแข่งขัดนัดที่ 35 ซึ่งยังไม่จบฤดูกาล เนื่องจากทีมที่อยู่ตารางคะแนนอันดับ 2 และ 3 คือ แมนเชสเตอร์ซิตี และอาร์เซนอล ไม่สามารถทำคะแนนไล่ทันได้แล้ว โดยเชลซีเป็นฝ่ายเอาชนะ คริสตัลพาเลซ ไปได้ 1-0 ที่สนามสแตมฟอร์ดบริดจ์ จากซ้ำลูกจุดโทษของเอแดน อาซาร์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก นอกจากนี้แล้วเชลซียังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ คือ เป็นทีมที่ขึ้นนำในตารางคะแนนตั้งแต่เริ่มเปิดฤดูกาล จนถึงจบ โดยที่ไม่มีทีมใดสามารถแซงขึ้นนำได้ [8]นอกจากนี้แล้ว ในฤดูกาลนี้ยังมีสถิติใหม่เกิดขึ้น คือ การทำแฮตทริกเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก โดยซาดิโน มาเน นักฟุตบอลชาวเซเนกัล ของเซาแทมป์ตัน ที่เอาชนะ แอสตันวิลลา ไปได้ถึง 6-1 ที่สนามเซนต์แมรีส์ โดยใช้เวลาไปทั้งหมดเพียง 2.56 นาที ทำลายสถิติเดิมของร็อบบี ฟาวเลอร์ ของลิเวอร์พูล ที่ทำไว้ 4.33 นาที ตั้งแต่ฤดูกาล 1994–95 ที่พบกับ อาร์เซนอล[9]

พรีเมียร์ลีก_ฤดูกาล_2014–15

ทีมเหย้าชนะสูงสุด เซาแทมป์ตัน 8–0 ซันเดอร์แลนด์
(18 ตุลาคม 2014)
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เชลซี
แมนเชสเตอร์ซิตี
อาร์เซนอล
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ประตูสูงสุด เอฟเวอร์ตัน 3–6 เชลซี
(30 สิงหาคม 2014)
สถิติไม่แพ้ติดต่อกันสูงสุด 16 นัด[2]
เชลซี
ผู้เข้าชมโดยเฉลี่ย 36,175 คน[3]
ผู้เข้าชมมากที่สุด 75,454 คน[3]
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 0–1 เวสต์บรอมมิชอัลเบียน
(2 พฤษภาคม 2015)
สถิติแพ้ติดต่อกันสูงสุด 8 นัด[2]
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
ผู้เข้าชมน้อยที่สุด 16,163 คน[3]
ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 2–2 สโตกซิตี
(20 กันยายน 2014)
ชนะเลิศ เชลซี
ทีมเยือนชนะสูงสุด สวอนซี ซิตี 0–5 เชลซี
(17 มกราคม 2015)
ผู้เข้าชมทั้งหมด 13,746,753 คน[3]
จำนวนการแข่งขันทั้งหมด 380
จำนวนประตูทั้งหมด 975 (2.57 ต่อนัด)
สถิติไม่ชนะติดต่อกันสูงสุด 13 นัด[2]
เลสเตอร์ซิตี
สถิติชนะติดต่อกันสูงสุด 8 นัด[2]
อาร์เซนอล
ฤดูกาล 2014–15
ผู้ยิงประตูสูงสุด เซร์คีโอ อะกูเอโร
(26 ประตู)[1]
ตกชั้น ฮัลล์ซิตี
เบิร์นลีย์
ควีนส์พาร์กเรนเจอส์
ยูฟ่ายูโรปาลีก ทอตนัมฮอตสเปอร์
ลิเวอร์พูล
เวสต์แฮมยูไนเต็ด

ใกล้เคียง

พรีเมียร์ลีก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023–24 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022–23 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017–18 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021–22 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013–14 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014–15 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011–12 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012–13 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015–16

แหล่งที่มา

WikiPedia: พรีเมียร์ลีก_ฤดูกาล_2014–15 http://www.pcr-online.biz http://www.pcr-online.biz/news/read/veho-becomes-s... http://www.arsenal.com http://www.arsenal.com/news/news-archive/puma-and-... http://www.bbc.com/sport/0/football/29090529 http://www.bbc.com/sport/0/football/29580245 http://www.bbc.com/sport/0/football/31117098 http://www.bbc.com/sport/0/football/31470606 http://www.bbc.com/sport/0/football/32126419 http://www.bbc.com/sport/0/football/32180018