เดิมมีชื่อว่า ธนพร เมธีธนกุล และเปลี่ยนเป็น พัศชนันท์ เจีย​จิร​โชติ ในเวลาต่อมา[1] เธอสนใจและชื่นชอบแฟชั่นและการแต่งหน้ามาตั้งแต่เด็ก เมื่อจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ เธอได้ศึกษาต่อที่สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์[2]

พัศชนันท์ชื่นชอบศิลปินไอดอลเกาหลี เคยเข้าออดิชั่นจนเกือบได้เป็นศิลปินฝึกหัดที่เกาหลี แต่ก็พลาดโอกาสไป[2] ต่อมาพัศชนันท์ได้ก้าวเข้าสู่วงการไอดอลอีกครั้งด้วยการเข้าร่วมออดิชันสมาชิกวงบีเอ็นเคโฟร์ตีเอตของประเทศไทย ซึ่งเป็นวงน้องสาวต่างประเทศวงใหม่ของเอเคบีโฟร์ตีเอต เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2559 โดยเธอได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 29 คนในสมาชิกรุ่นแรก โดยขณะนั้นพัศชนันท์และสมาชิกทั้งหมดอยู่ในสถานะสมาชิกฝึกหัด[3] และเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในงาน BNK48 The Debut เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560[4]

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2560 พัศชนันท์ได้รับการเลื่อนขั้นจากสมาชิกฝึกหัดเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมบีทรี[5] ซึ่งเป็นทีมที่แสดงในโรงละครประจำวง ต่อมาพัศชนันท์ได้รับเลือกให้เป็นเซ็นเตอร์ในเพลง "ริเวอร์"[6] ซึ่งเป็นซิงเกิลในอัลบั้มแรกของวงบีเอ็นเคโฟร์ตีเอต และเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้แก่เอ.พี.ฮอนด้า[7]

พัศชนันท์มีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกจากค่าย ที โมเมนต์ เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ ชื่อเรื่อง App War แอปชนแอป กำกับโดย ยรรยง คุรุอังกูร กำหนดฉายเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561[8]พัศชนันท์ได้เข้าร่วมการเลือกตั้งทั่วไปเซ็มบัตสึบีเอ็นเคโฟร์ตีเอต ประจำซิงเกิลที่ 6 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2562 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ซึ่งพัศชนันท์ติดอันดับที่ 6 จากทั้งหมด 32 อันดับ ด้วยคะแนนทั้งหมด 46,126 คะแนน ส่งผลให้เธอติดเซ็มบัตสึในซิงเกิลที่ 6 ชื่อว่า "บีกินเนอร์"

ในวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 BNK48 ได้ก่อตั้งทีมเอ็นไฟว์เพิ่มจากทีมบีทรี สำหรับแสดงในโรงละครของวง ซึ่งพัศชนันท์ได้รับเลือกให้ย้ายไปอยู่ในทีมเอ็นไฟว์ (NV) วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2563 พัศชนันท์เข้าร่วมการเลือกตั้งทั่วไปเซ็มบัตสึบีเอ็นเคโฟร์ตีเอต ประจำซิงเกิลที่ 9 ซึ่งเธอได้อันดับที่ 12 ด้วยคะแนน 14,926 คะแนน ได้เป็นเซ็มบัตสึในซิงเกิลที่ 9 ชื่อว่า "เฮฟวีโรเทชัน" ต่อมาในวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2563 พัศชนันท์เข้าร่วมงานเป่ายิ้งฉุบเลือกเซ็มบัตสึ บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต ประจำปี 2563 ซึ่งเธอไปถึงรอบรองชนะเลิศ ทำให้ได้เป็นเซ็มบัตสึเพลงหลักของอัลบั้มที่สามของวง