ยุคเริ่มต้น

อาฮิม ซาบัน ได้เยี่ยมประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1984 (บางสื่อกล่าวว่าเป็นปี ค.ศ. 1985) เขาได้สนใจและชมละครโทรทัศน์ชุดซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์

ในปี ค.ศ. 1985 ซาบัน เอนเตอร์เทนเมนต์ (หรือ ซาบัน โปรดักส์ชัน) ได้รับสิทธิ์ในการออกอากาศซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์ทั่วโลก (ยกเว้นประเทศในทวีปเอเชีย) ในราคา 1 หมื่นดอลลาร์สหรัฐต่อตอน โดยวางแผนที่จะนำ ขบวนการซูเปอร์อิเล็กตรอน ไบโอแมน มาทำในเวอร์ชันพากย์ภาษาอังกฤษ แต่ว่า Shuki Levy คัดค้านในการทำ และให้ทำถ่ายทำใหม่ในประเทศสหรัฐและนำฉากบางส่วนของต้นฉบับมาทำเป็นตอนไพล็อตโดยใช้ชื่อว่า Bioman[2] และได้เสนอขายให้กับสถานีในประเทศในการออกอากาศ[3][4] แต่ว่ายังไม่ผ่าน[3][5][6]

ในปีต่อมา มาร์กาเร็ต รอร์ช ประธานบริษัทเครือข่ายโทรทัศน์ฟ็อกซ์ จากช่อง Fox Kids ได้ขอเสนอให้กับ อาฮิม ซาบัน ออกอากาศด้วยเหตุผลว่า ต้องการอะไรที่แตกต่างกับรูปแบบเดิม เพื่อขายแอนิมชันของประเทศยุโรปออกอากาศ [5] แต่ว่า Bioman กลับเป็นงานที่ซาบันไม่ชอบ[3][5] รอร์ชคิดว่าจะออกอากาศ แต่ด้วยทีมนักแสดงของ Bioman ที่เล่นบทบาทใหม่ไม่ได้ จึงทำให้ถูกพับและทำรายการทีวีใหม่ไป[2]

ยุคซาบันเอนเตอร์เทนเมนท์

ยุคดิสนีย์

ในช่วงเดือน กรกฎาคม ปี ค.ศ. 2001 FOX Family Worldwide ได้ตัดสินใจที่จะอยู่ภายใต้ บริษัท วอลต์ดิสนีย์คอมปานี[7][8] ทำให้ซาบัน เอนเตอร์เทนเมนท์ กลายเป็นพันธมิตรของดิสนีย์และเปลี่ยนชื่อ บริษัท เป็น BVS เอนเตอร์เทนเมนท์[9]

ในซีซันที่ 10 พาวเวอร์เรนเจอร์ ไวลด์ฟอร์ซ ผลิตและจำหน่ายโดยดิสนีย์ (เครือบัวร์นา วิสตา) และออกอากาศเครือข่ายสถานีของดิสนีย์เช่น Fox Broadcasting, ABC Broadcasting, ABC Family, Toon Disney เป็นต้น

ในซีซันที่ 11 พาวเวอร์เรนเจอร์ นินจาสตอร์ม ดิสนีย์ได้ซื้อลิขสิทธิ์ต่อจากซาบัน เอนเตอร์เทนเมนต์ และควบคุมการผลิตอย่างเต็มที่ โดยสถานที่ถ่ายทำได้ถ่ายทำในประเทศนิวซีแลนด์ เนื่องจากเป็นสถานที่ในการถ่ายทำผลงานซีรีส์ของภาพยนตร์ต้นฉบับของดิสนีย์แชนแนล รวมถึงงบประมาณการถ่ายทำที่ถูกและภูมิทัศน์คล้ายประเทศญี่ปุ่น

ยุคซาบันใหม่

ในปี ค.ศ. 2010 บริษัท ซาบัน แคปปิทอล กรุ๊ป ที่ควบคุมโดย อาฮิม ซาบัน ก่อตั้งใหม่ขึ้นมา ได้ทำการซื้อลิขสิทธิ์ซีรีส์พาวเวอร์เรนเจอร์คืนจากดิสนี่ย์ด้วยจำนวนเงิน 43 ล้านดอลลาร์ และได้เซ็นต์สัญญากับโตเอะในการทำผลงานใหม่และมีกำหนดการถ่ายทำในปี ค.ศ. 2011 ภายใต้ในนามของ ซาบัน แบรนด์ นอกจากนี้ได้เซ็นต์สัญญากับสถานีโทรทัศน์นิคคาโลเดียน ฉายในปีละ 20 ตอน จนถึงปี ค.ศ. 2021 รวมทั้งเปลี่ยนผู้ถือลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่จาก BVS เอนเตอร์เทนเมนต์ เป็น SCG Power Rangers LLC

เรื่องแรกที่ฉายคือ พาวเวอร์เรนเจอร์ ซามูไร และผลงานเรื่องนี้ถูกแบ่งเป็นฤดูกาล โดยจะกลายเป็นผลงานในเวลา 2 ปี จากเดิมที่ฉายใน 1 ปี

นอกจากการออกอากาศทางโทรทัศน์ ทางซาบัน แบรนด์ยังพัฒนาในรูปแบบสื่อต่างๆ ทั้งสื่อในรูปแบบแผ่น บลูเรย์และดีวีดี, เกม, สื่อสังคม, การถ่ายทอดสด ฯลฯ ในส่วนของเล่นบันไดยังคงผลิตอยู่และในส่วนวิดีโอเกมบันไดนัมโคเกมเป็นผู้จำหน่าย

ในรูปแบบการถ่ายทำยังคงใช้รูปแบบเดิมคือใช้ฉากต้นฉบับของญี่ปุ่นโดยไม่เพิ่มฉากต่อสู้

ในปี ค.ศ. 2014 ซาบัน แบรนด์ ได้ร่วมมือกับ ไลออนเกทส์ และได้ประกาศร่วมกันเพื่อผลิตภาพยนตร์เรื่องใหม่ของพาวเวอร์เรนเจอร์ และในปี ค.ศ. 2017 ก็ได้มีผลงานชื่อว่า พาวเวอร์เรนเจอร์ส ฮีโร่ทีมมหากาฬ

ยุคฮาสโบร

ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 ซาบันแบรนด์และบันไดอเมริกาไม่ต่อสัญญาลิขสิทธิ์ของเล่น จนกระทั่งฮาสโบรได้ซื้อลิขสิทธิ์ในการผลิตและจำหน่ายของเล่นด้วยราคา 22.25 ล้านดอลลาร์ ต่อมาได้ซื้อลิขสิทธิ์ต่อจากซาบัน แบรนด์ด้วยราคา 5,222 ล้านดอลลาร์ ทำให้ฮาสโบรได้ควบคุมผลงานเกี่ยวกับพาวเวอร์เรนเจอร์ทุกรูปแบบ และได้ซื้อกิจการเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนปีเดียวกัน ในปี 2019 ได้ทำซีรีส์ชื่อ พาวเวอร์เรนเจอร์ บีสต์มอร์เฟอร์ส ซึ่งซีรีส์นี้อาฮิม ซาบัน ยังเป็นที่ปรึกษาในการผลิตซีรีส์ของพาวเวอร์เรนเจอร์อยู่