ฟุตบอลทีมชาติไอซ์แลนด์ (
ไอซ์แลนด์: Íslenska karlalandsliðið í knattspyrnu) เป็นทีมฟุตบอลตัวแทนทีมชาติจาก
ประเทศไอซ์แลนด์ ปัจจุบันอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ
สมาคมฟุตบอลไอซ์แลนด์ (Knattspyrnusamband Íslands)
[5]โดยที่ไอซ์แลนด์เป็นประเทศขนาดเล็กในกลุ่มนอร์ดิกใกล้กับเขตอาร์กติกหรือขั้วโลกเหนือ มีขนาดพื้นที่พอ ๆ กับ
กรุงลอนดอน ประชากรมีราว 300,000 คน สภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี แต่ร้อยละ 10 ของประชากรในชาติมีอาชีพเกี่ยวกับฟุตบอล เช่น ผู้ฝึกสอน โดยกระจายไปอยู่ตามสโมสรต่าง ๆ ของหลายประเทศ
[6] และไอซ์แลนด์ไม่มีลีกฟุตบอลอาชีพเป็นของตนเองไอซ์แลนด์เป็นทีมขนาดเล็ก ที่มีประวัติเคยผ่านเข้าเล่นรอบสุดท้ายของมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลระดับใหญ่เพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น นั่นคือ ใน
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 หรือยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ได้สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรก โดยเอาชนะทีมใหญ่อย่าง
เนเธอร์แลนด์ไปได้ด้วย
[7] โดยไอซ์แลนด์ได้กลายเป็นทีมที่น่าจับตามองในการแข่งขันคราวนี้ เนื่องจากเป็นทีมขนาดเล็กแต่กลับเล่นได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะในรอบที่สอง หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สามารถเอาชนะ
อังกฤษมาได้ ก่อนที่รอบ 8 ทีมสุดท้ายหรือรอบก่อนรองชนะเลิศ ไอซ์แลนด์แพ้ต่อ
ฝรั่งเศสซึ่งเป็นเจ้าภาพไป 5–2
[8]และอีกครั้ง ใน
ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพ ไอซ์แลนด์สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปเล่นได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในฐานะที่เป็นแชมป์
รอบคัดเลือกแถบยุโรป กลุ่มไอ ด้วยการมี 22 คะแนน จากทั้งหมด 10 นัด ซึ่งนับว่าเป็นการแข่งขันสำคัญ 2 ครั้งติดต่อกัน และยังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นชาติที่มีขนาดเล็กที่สุดที่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกได้ ด้วยการที่มีจำนวนประชากรทั้งประเทศประมาณ 3500,000 เท่านั้น ทั้งที่ผู้เล่นที่มีชื่อเสียงระดับโลกก็มีน้อยรายมาก เช่น
เอย์ดืร์ กวึดยอนแซน ที่เคยเป็นกองหน้าใน
เชลซี สโมสรระดับชั้นนำในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ หรือรายอื่น เช่น
จิลวี ซีกืร์ดซอน ที่อยู่กับ
เอฟเวอร์ตันเท่านั้น และก่อนหน้านั้นใน
รอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ก็เกือบจะได้เข้าร่วมแข่งขันในรอบสุดท้าย ทว่าไปพ่ายแพ้ต่อ
โครเอเชียเสียก่อน
[9]