ประวัติ ของ ฟูไฟเตอส์

ก่อตั้งและอัลบั้มชุดแรก (1994 - 1995)

เดฟ โกรล ในปี ค.ศ. 2006 ใน กรุงลอนดอน , ประเทศอังกฤษ เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งวงฟูไฟเดอร์ส หลังการเสียชีวิตของนักร้องนำ เคิร์ต โคเบน จาก เนอร์วานา ที่ทำให้ต้องยุบวงในปี 1994 ซึ่งนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้โกรลตั้งวงขึ้นฟูไฟเตอร์ส

เดฟ โกรล เข้าร่วมเป็นสมาชิกวง กรันจ์ อย่าง เนอร์วานา จาก ซีแอเทิล ในฐานะมือกลองเมื่อ ค.ศ. 1990 ระหว่างการทัวร์ , เขาหยิบกีตาร์ของเขาและเขียนเนื้อเพลง โกรลได้แต่งเพลงด้วยตัวเองในสตูดิโอของวง ; เขากล่าวในปี 1997 "ผมรู้สึกตัวเองดูน่าเกรงขามและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน , และถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ผมแต่งเพลงด้วยตัวของผมเอง" [4] ในบางครั้งบางคราวโกรลมักจะจองห้องอัดเสียงเพื่ออัดเดโม่และโคฟเวอร์เพลงที่เขาชื่นชอบ ซึ่งเทปเดโม่ชุดนี้ก็คือ Pocketwatch เมื่อปี 1992 ขณะนั้นโกรลใช้นามแฝงตัวเองว่า "Latel"[5]

หลังการเสียชีวิตของเคริ์ต โคเบน หัวหอกแห่งวงเนอร์วานา ในบ้านเกิดของเขาเมื่อวันที่ 8 เมษายน 1994 , ทำให้ในเวลาต่อมาเนอร์วานาต้องยุบตัวลง โกรลได้รับคำชักชวนให้มาร่วมงานกับศิลปินมากมาย ; อีกทั้งมีข่าวลือที่ระบุว่าเขาอาจร่วมงานกับ เพิร์ลแจม[6] และเขาเกือบจะตกลงปลงใจรับตำแหน่งมือกลองอย่างถาวรในวง Tom Petty and the Heartbreakers จนแล้วจนรอด โกรลปฏิเสธกลายเป็นมือกลองแต่เขาเลือกที่จะเข้าห้องอัด Robert Lang Studio ในเดือนตุลาคม 1994 เพื่อเดินหน้าอัดสิบห้าเพลงจากสี่สิบเพลงที่เขาแต่งขึ้น[5] และยังได้มือกีตาร์อย่าง เกรก ดัลลี จากวง Afghan Whigs มารับเชิญร่วมเล่นในเพลง "X-Static" , เดฟ โกรล เล่นเครื่องดนตรีทั้งหมดทุกอย่างและร้องเพลงทุกเพลงในอัลบั้ม."ผมมักจะจิตนาการบ่อยๆว่าได้เป็นมือกลองของวง และมันคือความฝันสูงสุดและผมก็จะเป็นตลอดไป" โกรลกล่าวภายหลังว่า "มันเป็นสิ่งที่ผมอยากทำ อย่าตั้ความหวังกับตัวผมไว้มากนักหรอก , ผมมีความสุขกับการแต่งเพลงและสนุกกับการร้อง และไม่มีใครกีดกั้นผมได้" โกรลอัดอัลบั้มเสร็จสิ้นเรียบร้อย โดยถือเป็นอัลบั้มที่ใช้วัตถุดิบต่างๆได้อย่างคุ้มค่าในห้าวันการอัด จากนั้นเขาก็ส่งเทปดังกล่าวไปยังกลุ่มหมู่เพื่อนๆเพื่อรอฟังผลตอบรับของอัลบั้ม [5] โกรลใช้ชื่อนามแฝงเพื่อปิดบังตัวและวางจำหน่ายอย่างจำกัด ภายใต้ชื่อ "ฟูไฟเดอร์ส" โดยชื่อนำมาจากช่วง สงครามโลกครั้งที่สอง มักจะเรียกว่า "foo fighter" โดยมาจากเหตุการณ์ลูกไฟลึกลับที่ปรากฏต่อหน้าเครื่องบินของฝ่ายพันธมิตร บนท้องฟ้าเหนือบริเวณยุโรปและแปซิฟิก โดยเชื่อกันว่าเป็น ยูเอฟโอ[5] อย่างไรก็ตาม , เทปเดโม่ชุดนั้นได้รับความสนใจจากกลุ่มค่ายเพลงมากมาย[7][8] ในขั้นต้น เขาได้ถามไถ่ถึงอดีตมือเบสจากเนอร์วานา คริส โนโวเซลิก ในการมาร่วมกลุ่มของเขา แต่ทั้งคู่ก็ตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วม "คริสและผม , รู้สึกว่าแนวเพลงมันธรรมชาติไปแต่ก็ยังดี", โกรล อธิบาย "แต่สำหรับทุกคน , มองว่ามันแปลก แต่หากขาดผมไปมันคงจะแย่เอามากๆ"[9] วงอัลเทอร์เนทีฟจากซีแอเทิลอย่าง Sunny Day Real Estate กำลังจะยุบวง , โกรลจึงนำมือเบสอย่าง เนต เมนเดล และ มือกลอง วิลเลียม โกลด์สมิธ เข้าเป็นสมาชิก โกรลถาม แพ็ท สเมียร์ , มือกีตาร์ผู้เคยออกทัวร์กับเนอร์วานาจนกระทั่งอัลบั้ม In Ultero ปี 1993 ก็ได้กลายเป็นมือกีตาร์คนที่สองของวง[10] ท้ายที่สุดโกรลเซ็นสัญญากับ แคปิตอลเรเคิดส์, และวางจำหน่ายในสังกัดค่ายของเขา , รอสเวล เรดคอร์ด.[5]

ฟูไฟเตอร์สเปิดตัวการแสดงสดครั้งแรกในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1995 ในคลับ Jambalaya Club ในเมือง อาร์คาตา , แคลิฟอร์เนีย หลังจากนั้น 3 มิถุนายนพวกเขาแสดงที่ไนท์คลับ แซทริคอน ใน พอร์ตแลนด์ พวกเขายังมีแสดงโชว์สุดท้ายที่ Velvet Elvis ในซีแอเทิล เมื่อวันที่ 4 มีนาคม. ในเดือนมีนาคม มีการแสดงสามโชว์ เป็นการแสดงเพื่อการกุศล โดยนำรายได้บางส่วนเพื่อนำไปสืบสวนคดีเหตุการณ์ฆาตกรรมและข่มขืนนักร้อง มิล ซาปาต้า จากวง The Gits. โกรลปฏิเสธให้การสัมภาษณ์หรือระหว่างการทัวร์ขนาดใหญ่เพื่อโปรโมทอัลบั้ม.[10] ฟูไฟเตอร์ส เริ่มการแสดงโชว์ที่สำคัญในช่วงเดือนฤดูใบ้ไม้ผลิ ค.ศ. 1995 , โดยมี ไมค์ วัตต์ มาเป้นศิลปินเปิดการแสดงให้กับฟูไฟเตอร์ . ซิงเกิ้ลแรกของวง "This Is a Call" วางจำหน่ายเมื่อมิถุนายน 1995,[1] และอัลบั้มชุดแรกของพวกเขา ฟูไฟเตอส์ (อัลบั้ม) โดยวางจำหน่ายในเดือนถัดมา หลังการปล่อยซิงเกิ้ลตัวแรก ซิงเกิ้ลเพลง "I'll Stick Around", "For All the Cows", และ "Big Me" เป็นซิงเกิ้ลที่ถูกวางจำหน่ายในภายหลัง. ในเดือนมิถุนายนนี้ซึ่งเป็นเดือนที่ปล่อยอัลบั้ม พวกเขาออกทัวร์การแสดงอยู่บ่อยครั้ง , และการปรากฏตัวของพวกเขาครั้งแรกในเทศกาลดนตรี Reading Festival ในประเทศอังกฤษ เดือนตุลาคม.[10]