การนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ ของ ฟ้าจรดทราย

ฟ้าจรดทราย
ไฟล์:Facharotsai.jpg
ประเภทละครโทรทัศน์
สร้างโดยบริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด
เขียนโดยโสภาค สุวรรณ / ศัลยา
กำกับโดยสยาม สังวริบุตร
แสดงนำธีรภัทร์ สัจจกุล
อุษามณี ไวทยานนท์
อานัส ฬาพานิช
มรกต กิตติสาระ
อุษณีย์ วัฒฐานะ
ประเทศแหล่งกำเนิด ภาษาไทย
ภาษาต้นฉบับ ภาษาไทย
จำนวนตอนจำนวน 11 ตอน
การผลิต
ความยาวตอน120 นาที / ตอน
การแพร่ภาพ
เครือข่าย/ช่องสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ออกอากาศครั้งแรกวันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556 -
วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556
(ออกอากาศวันจันทร์-อังคาร)
แหล่งข้อมูลอื่น
เว็บไซต์

ลิขสิทธิ์ในรูปแบบละครโทรทัศน์เริ่มแรกเป็นของทาง สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 โดยได้ขอต่อสัญญาลิขสิทธิ์นวนิยายในนามองค์กร ไปเมื่อหลายปีก่อนแต่ก็ต้องพับโครงการไปเนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น บทละครโทรทัศน์ไม่เสร็จ วางตัวนักแสดงนำไม่ได้ และต้องใช้เงินทุนในการสร้างสูง แต่ในปี พ.ศ. 2551 สยาม สังวริบุตรผู้บริหารบริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด ได้ออกมาประกาศว่าจะสร้างฟ้าจรดทรายในรูปแบบละครโทรทัศน์ จนทำให้เกิดข่าวลือเกี่ยวกับการวางตัวนักแสดงต่างๆนานา แต่งานสร้างก็ยังไม่ได้คืบหน้าแต่ประการใด[2]

จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2553 ทางบริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด ได้แจ้งความคืบหน้าในการสร้างเป็นละครโทรทัศน์อยู่เป็นระยะ จนเมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553 ได้มีการบวงสรวงเปิดกล้องละครฟ้าจรดทรายอย่างเป็นทางการ พร้อมกับละครทวิภพ ซึ่งนำแสดงโดย ธีรภัทร์ สัจจกุลในบท"ชารีฟ" อุษามณี ไวทยานนท์ในบท"มิเชลล์" ส่วนบท"แคชฟีย่า"แสดงโดยมรกต กิตติสาระ และมีนักแสดงอีกมากมายเช่น ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์,อานัส ฬาพานิช,อุษณีย์ วัฒฐานะ,สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์,แซมมี่ เคาวเวลล์ เป็นต้น[3]

และการนำฟ้าจรดทราย มาทำเป็นละครโทรทัศน์ครั้งนี้ก็ได้ผู้บริหารและอดีตผู้กำกับของดาราวิดีโอ อย่างคุณหลุยส์ สยาม สังวริบุตร กลับมากำกับละครโทรทัศน์อีกครั้ง[4] โดยการถ่ายบางส่วนของละครเรื่องนี้ มีการไปถ่ายทำที่ประเทศอียิปต์และนอกจากนี้มีการถ่ายทำละครด้วยกล้องระบบ HD (High Definition)[5]

ละครฟ้าจรดทราย ถือว่าเป็นละครโทรทัศน์ที่ใช้ระยะเวลาการถ่ายทำยาวนานอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเริ่มงานสร้างและการถ่ายทำในปีพ.ศ. 2553จนถึงพ.ศ. 2556 รวมระยะเวลาในการสร้างเกือบ 3 ปีเต็ม โดยในครั้งนี้ได้มีปัญหาเนื่องจากมีกลุ่มผู้นับถือศาสนาอิสลามได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ถึงสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ให้ยุติการออกอากาศ เนื่องจากมีหลายฉากที่ผิดหลักคำสอนของศาสนา เสมือนการหมิ่นศาสนา เช่น ฉากการดื่มสุรา หรือการที่มีชายหญิงพลอดรักกัน[6] แต่ท้ายที่สุดก็ได้มีการฉายต่อจนจบ เนื่องจากผู้สร้างและทางช่อง 7 ยืนยันว่ามิได้มีเจตนาเช่นนั้น[7]