ภาพยนตร์อเมริกัน (
อังกฤษ: cinema of the United States) หรือเรียกอีกชื่อว่า
ภาพยนตร์ฮอลลีวูด (Hollywood) ถือว่าสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ มาตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษที่ 20 ด้วยสไตล์อันโดดเด่นของภาพยนตร์อเมริกันคือ
ภาพยนตร์คลาสสิกฮอลลีวูด ที่พัฒนาขึ้นระหว่างปี 1917 ถึง 1960 และภาพยนตร์ที่สร้างเอกลักษณ์ก็สร้างขึ้นในยุคนี้ ขณะที่
พี่น้องตระกูลลูมิแอร์จากฝรั่งเศส ได้รับเครดิตว่าเป็นผู้ให้กำเนิดภาพยนตร์สมัยใหม่
[1] ภาพยนตร์อเมริกันสามารถสร้างความโดดเด่นได้อย่างรวดเร็ว และเป็นแรงผลักดันอย่างชัดเจนให้กับอุตสาหกรรมตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1920 อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในสหรัฐสร้างรายได้ประจำปีได้สูงกว่าประเทศอื่น ๆ ได้สร้างภาพยนตร์จำนวนมาก มีภาพยนตร์ภาษาอังกฤษมากกว่า 800 เรื่อง ออกฉายในแต่ละปี
[2] ขณะที่ภาพยนตร์ในอังกฤษมี 299 เรื่อง แคนาดา 206 เรื่อง และออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ก็ผลิตภาพยนตร์ในภาษาเดียวนี้ แต่ก็ไม่ถือว่าอยู่ในระบบภาพยนตร์ฮอลลีวูด ถึงกระนั้นภาพยนตร์ฮอลลีวูดก็ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์สหชาติ
[3] ภาพยนตร์คลาสสิกฮอลลีวูด ได้สร้างขึ้นเป็นหลายภาษา และใช้ชื่ออื่น โดยมากเป็นภาษาสเปนและฝรั่งเศส ภาพยนตร์ฮอลลีวูดถือเป็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
[4] และถือได้ว่าเป็นที่กำเนิดภาพยนตร์หลากหลายแนว ทั้ง
ตลก รัก โลดโผน เพลง สยองขวัญ บันเทิงคดีแนววิทยาศาสตร์ และ
ภาพยนตร์มหากาพย์ในปี 1878 เอดเวิร์ด มายบริดจ์ ได้สาธิตอำนาจของภาพยนตร์เคลื่อนไหว ในปี 1894 ได้มีการจัดแสดงภาพยนตร์เพื่อการค้าครั้งแรกของโลกที่นครนิวยอร์ก โดยใช้วิธี
คิเนโตสโคปของ
ทอมัส เอดิสัน สหรัฐยังผลิตภาพยนตร์ผนวกเสียงเรื่องแรกของโลก เรื่อง
The Jazz Singer ในปี 1927 ได้กลายเป็นบรรทัดฐานในการพัฒนาภาพยนตร์เสียงในทศวรรษต่อมา ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 อุตสาหกรรมภาพยนตร์อเมริกันตั้งอยู่ในรัศมี 30 ไมล์บริเวณสตูดิโอของฮอลลีวูด ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้กำกับ ดี. ดับเบิลยู. กริฟฟิท ถือเป็นผู้พัฒนาภาพยนตร์ ส่วนภาพยนตร์เรื่อง
Citizen Kane (1941) มักได้รับคำอ้างจากนักวิจารณ์ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
[5]สตูดิโอใหญ่ ๆ ในฮอลลีวูด ได้สร้าง
ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จที่สุด และมียอดขายตั๋วหนังมากที่สุดในโลก อย่างเช่น เรื่อง
The Birth of a Nation (1915),
Gone with the Wind (1939),
The Ten Commandments (1956),
The Sound of Music (1965),
The Exorcist (1973),
Jaws (1975),
Star Wars (1977),
E.T. the Extra-Terrestrial (1982),
Jurassic Park (1993),
Titanic (1997),
Gladiator (2000),
The Dark Knight (2008),
Avatar (2009),
Marvel's The Avengers (2012),
Star Wars: The Force Awakens (2015),
Jurassic World (2015),
Black Panther (2018) และ
Avengers: Endgame (2019) ยิ่งไปกว่านั้นภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายเรื่องทำรายได้บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศนอกสหรัฐมากกว่าเสียอีก ปัจจุบันสตูดิโอได้ผลิตภาพยนตร์หลายร้อยเรื่อยทุก ๆ ปี ทำให้สหรัฐเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่มีผลงานมากที่สุดในโลกและเป็นผู้นำด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีภาพเคลื่อนไหว