ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (
อังกฤษ: postpartum depression),
ภาวะซึมเศร้าหลังให้กำเนิด (
อังกฤษ: postnatal depression) หรือ
โรคซึมเศร้าหลังคลอด เป็น
โรคทางอารมณ์อย่างหนึ่งที่สัมพันธ์กับ
การคลอดบุตร ซึ่งอาจพบได้ทั้งในฝ่ายชายและฝ่ายหญิง
[1][3] อาการสำคัญเช่น มีอารมณ์เศร้าอย่างมาก
รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง วิตกกังวล ร้องไห้บ่อย หงุดหงิด การนอนผิดปกติ (เช่น นอนไม่หลับ หรือนอนมากผิดปกติ) การกินผิดปกติ (เช่น กินไม่ลง หรือกินไม่หยุด) เป็นต้น
[1] ส่วนใหญ่มักพบที่เวลา 1 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน หลังคลอด
[1] ภาวะนี้อาจส่งผลเสียต่อทารกได้
[2]สาเหตุที่แน่ชัดของภาวะซึมเศร้าหลังคลอดนั้นยังไม่เป็นที่ทราบชัดเจน ปัจจุบันเชื่อกันว่าเป็นผลของปัจจัยหลายด้านทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ
[1] เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงหลังคลอดบุตร
การอดนอน เป็นต้น
[1] ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดภาวะนี้ได้แก่ การเคยเป็นภาวะซึมเศร้าหลังคลอดบุตรคนก่อน
โรคอารมณ์สองขั้ว ประวัติ
โรคซึมเศร้าในครอบครัว
ความเครียดทางจิตใจ การมี
ภาวะแทรกซ้อนระหว่างการคลอด การขาดคนช่วยเหลือดูแล หรือ
การใช้สารเสพติด[1] การวินิจฉัยทำได้โดยดูจากอาการ
[2] แม้สตรีหลังคลอดส่วนใหญ่จะมีช่วงเวลาของความเศร้าและความกังวลหลังคลอด แต่หากอาการเหล่านี้ยังคงเป็นอยู่นานเกิน 2 สัปดาห์หรือเป็นรุนแรง จำเป็นจะต้องสงสัยว่าอาจมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดร่วมด้วย
[1]ในผู้คลอดที่มีปัจจัยเสี่ยง การมีผู้ช่วยเหลือด้านจิตใจอาจเป็นปัจจัยบวกที่ช่วงป้องกันการเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้
[4] การรักษาอาจใช้การทำ
จิตบำบัดร่วมกับการใช้ยา
[2] รูปแบบการทำจิตบำบัดที่ได้ผลได้แก่
จิตบําบัดสัมพันธภาพระหว่างบุคคล (IPT),
การบำบัดโดยการปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม (CBT) และ
จิตบำบัดแบบจิตพลวัต (psychodynamic therapy)
[2] ปัจจุบันหลักฐานส่วนใหญ่สนับสนุนว่าการใช้
ยาต้านซึมเศร้าในกลุ่ม
SSRI จะได้ผล
[2]ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดพบได้ในหญิงช่วงคลอดประมาณ 15%
[1][2] และยังพบในฝ่ายชายได้ราว 1-26% แล้วแต่การศึกษา
[3] โรคจิตหลังคลอดซึ่งเป็นภาวะทางจิตเวชที่พบได้ในช่วงคลอดเช่นกันแต่มีความรุนแรงกว่ามากจะพบได้ในหญิงหลังคลอด 0.1-0.2%
[5] ซึ่งภาวะนี้เป็นสาเหตุที่พบบ่อยของการฆ่าทารกอายุน้อยกว่า 1 ปี ซึ่งพบได้ในอัตรา 8 ใน 100,000 การเกิดมีชีพในสหรัฐอเมริกา
[6]