ภูสมิง หน่อสวรรค์ นักร้องเพลงโฟล์กซอง ลูกครึ่งไทย-ลาว เกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม
พ.ศ. 2499 ที่ประเทศลาว เป็นบุตรชายของท้าวภูขง หน่อสวรรค์ อดีตอธิบดี, กงสุลลาวในไทยและฮ่องกง มารดา นางบัวลอย หน่อสวรรค์ (ไชยวงค์) สาวน้อยจบ ป.4 จากลำพูน บ้านป่าเส้า หลานนายพลภูมี หน่อสวรรค์ ซึ่งเป็นทั้งทหารและนักการเมืองฝ่ายขวาของลาว มีพี่น้องทั้งหมด 5 คนโดยเขาเป็นคนที่ 4
[1]ระหว่างที่เรียนระดับชั้นมัธยมที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ ภูสมิงได้ตั้งวงดนตรีกับเพื่อนๆ ชื่อ "พับบลิคเทเลโฟน" ขึ้นมา ออกแสดงตามสถานบันเทิงรอบเมืองเชียงใหม่ จากนั้นจึงเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ มาเรียนด้านบริหารธุรกิจอยู่ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต สมัยที่ยังใช้ชื่อว่า วิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ อยู่ ภูสมิงได้ร่วมกลุ่มกับเพื่อนที่
รามคำแหง และ
จุฬาฯ ตั้งวงดนตรีโฟล์คซองไปเล่นประจำอยู่ที่ ร้านทิกกาเดอรี่ ข้างสถานทูตอังกฤษ เป็น
ภาษาอังกฤษ กระทั่ง ธนิต ศิลปะกิจ ผู้เคยทำงานร่วมกับ
จรัล มโนเพชร ในคอนเสิร์ตแฮนด์ อิน แฮนด์ ทราบข่าวว่าภูสมิงแต่งงานเพลงไทยไว้บ้าง จึงชักชวนกันทำอัลบั้มเพลง
[2]ปี
พ.ศ. 2524 อัลบั้มแรกชุดขอรัก ภูสมิง หน่อสวรรค์ กับ ธนิต ศิลปะกิจ ได้ทำมาสเตอร์เทป ที่ห้องอัดของ จรัล มโนเพชร ในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อนำมาเสนอค่ายเทปบริษัทโฟร์แทรคให้ความสนใจผลิต หลังเพลงออกอากาศ ระย้า นักจัดรายการวิทยุและเจ้าของค่ายรถไฟดนตรี ที่กำลังประสบความสำเร็จกับศิลปินทรีโอ
สาว สาว สาว อยู่ มีโอกาสฟังน้ำเสียง จึงพูดออกอากาศใครรู้จักภูสมิง ให้ช่วยติดต่อกลับมายังสถานีภูสมิง หน่อสวรรค์ เริ่มผลิตอัลบั้มชุด 2 รักนิรันดร์ กับค่ายรถไฟดนตรีในปี
พ.ศ. 2525 โดยมีการดึง ภูสมสนุก หน่อสวรรค์ ลูกชายของอามาร่วมงานเพลง ทั้งคู่มาประสบความสำเร็จในปีถัดมา อัลบั้มชุดที่ 3 มีเพลงที่ได้รับความนิยม คือ ลองรักอีกครั้ง กับ บทเรียนสอนใจ ทำให้มีงานแสดงประจำอยู่ที่ห้องอาหารครัวหลวง โรงแรมแมนดาริน ต่อเนื่องไปยังโรงแรมมณเฑียร และโรงแรมฮิลตัน ยอดขายชุดลองรักอีกครั้ง ทะลุถึง 1 แสนม้วนซึ่งถือว่ามากในสมัยนั้น เมื่อภูสมิงและน้องชายมีโอกาสออก รายการลูกโป่งสีชมพู ทางช่อง 9 และต้องเล่นโฟล์คซองเพลงสากล ทำให้ระย้าเห็นโอกาสดีจึงผุดแนวคิดดิสโอลด์กีตาร์ นำเพลงสากลคันทรีมาคัฟเวอร์ใหม่ อัลบั้มดิสโอลด์กีตาร์ผลิตออกมา 5 ชุด โดยภูสมิงมีการสลับงานเพลงไทย ชุดถามหาความรัก และ ชุดตัวแทน ออกมารักษาความนิยม มีเพลงที่ได้รับความนิยมเช่น ใคร ๆ ก็รู้, ตัวแทน
[3]ปี
พ.ศ. 2530 ภูสมิงเว้นช่วงผลิตงานเพลง และหันไปลงทุนธุรกิจร้านอาหารภูสมิงที่อยู่ดอนเมือง โดยมีการเชิญนักร้องเพลงสากล อาทิ
ฉันทนา กิติยพันธ์,
สุดา ชื่นบาน และ
กิตติคุณ เชียรสงค์ ไปร่วมสร้างสีสัน หลังดำเนินธุรกิจได้ 9 ปี ร้านอาหารประสบ
วิกฤติฟองสบู่แตก จนร้านภูสมิงจำต้องปิดตัวลงไป ภูสมิงกลับมาทำงานเพลงอีกครั้งร่วมกับค่ายพีจีเอ็ม โดยเป็นการนำเพลงไทยยอดนิยมในอดีต อาทิ กุหลาบปากซัน, เป็นไปไม่ได้ และ ภวังค์รัก มาคัฟเวอร์ใหม่ รวมถึงรับเชิญไปร้องเพลงในต่างประเทศ แต่การร้องเพลงต่างแดนรายได้ขึ้นอยู่กับทิปผู้ฟังไม่ได้เป็นการว่าจ้าง ปัจจุบันแสดงดนตรีทั่วไปทั่วราชอาณาจักรไทย เช่น ร้านDaddy's garden ซอยสวนผัก51, Waterside, The Local และVintage