มนต์ชัย สุภจิรกุล มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่แปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา ครอบครัวของเขาเดิมประกอบอาชีพทำสวน และเขาเป็นบุตรชายคนโตในจำนวนพี่น้องทั้งหมดสี่คน สำเร็จการศีกษาระดับประถมจากโรงเรียนวัดดอนทอง ระดับมัธยมต้นจากโรงเรียนปัญจพิทยาคาร และได้รับการทาบทามจากเสน่ห์ ศุภอักษร ให้เข้าศึกษาต่อระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ โดยเข้าแข่งวอลเลย์บอลให้แก่ทางโรงเรียนในระดับจังหวัด รวมถึงได้แข่งกับโรงเรียนใหญ่ ๆ ในเมืองกรุง และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร[1]

มนต์ชัยได้เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลชายทีมชาติไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2530 และอำลาการทำหน้าที่เป็นนักกีฬาทีมชาติไทยเนื่องด้วยเข้ารับราชการทหารอากาศเมื่อครั้งที่เข้าแข่งขันซีเกมส์ 1991 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งทีมของเขาได้รับเหรียญเงิน แม้จะเลิกทำหน้าที่เป็นนักกีฬาทีมชาติ เขาก็ยังได้เข้าร่วมแข่งขันวอลเลย์บอล ถ้วย ก. และกีฬากองทัพ ให้แก่ทีมทหารอากาศ[5]

มนต์ชัย ได้รับการเรียกตัวไปเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนให้แก่วอลเลย์บอลชายทีมชาติไทยในการแข่งซีเกมส์ 2005 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ที่ซึ่งทีมของเขาได้รับรางวัลเหรียญทอง จากนั้น เขาก็ได้เข้าทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนทีมชาติแทนอาจารย์โสภณ ซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนคนก่อนที่เกษียณไป โดยมนต์ชัยพาทีมชาติไทยเข้ารับรางวัลเหรียญทองแดงในการแข่งซีเกมส์ 2007 ที่จังหวัดนครราชสีมา จากนั้น มนต์ชัยได้ตัดสินใจสร้างนักกีฬาหน้าใหม่ โดยคงเหลือไว้เพียงกิตติคุณ ศรีอุทธวงศ์ และวันชัย ทัพวิเศษ และพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ 2011 ที่ประเทศอินโดนีเซีย[5]

นอกจากนี้ มนต์ชัยยังทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลชายทีมชาติไทย ในการแข่งวอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสุดท้าย ที่แคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย[9] รวมถึงทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ในการแข่งวอลเลย์บอลชายชิงแชมป์เอเชีย 2013 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์[10] ที่ซึ่งทีมชาติไทยได้อันดับ 6[11] รวมถึงในการแข่งวอลเลย์บอลในซีเกมส์ 2013 ที่กรุงเนปยีดอ ประเทศพม่า[12][13][14][15] โดยในรอบรองชนะเลิศ ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายชนะทีมชาติเวียดนาม 3–0 เซต[16][17][18] และในรอบชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายชนะทีมชาติอินโดนีเซีย 3–0 เซต ส่งผลให้ทีมชายของไทยคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 6 และเป็นการป้องกันแชมป์ซีเกมส์ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์[19]