กฎกติกาของมวยปล้ำอาชีพ ของ มวยปล้ำอาชีพ

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้
  1. แบบปล้ำเดี่ยว (Single Match) - เป็นกติกาพื้นฐาน และเป็นกติกาหลักของมวยปล้ำอาชีพ นั่นคือ นักมวยปล้ำทั้งสองคน จะต้องต่อสู้กันบนเวทีมวย โดยใช้การโจมตีด้วยการใช้กำปั้นทุบ, การเตะ, การฟันด้วยสันมือ, การฟันศอก, การตีเข่า, การวิ่งเข้าปะทะ, การเด้งตัวกับเชือกกั้นเวทีมวยแล้ววิ่งเข้าปะทะ, การเหวี่ยงตัวคู่ต่อสู้ให้ตกเวทีมวย, การเหวี่ยงคู่ต่อสู้ให้เด้งกับเชือกกั้นเวทีมวยแล้วโจมตี หรือ จับทุ่ม หรือเข้าปะทะ, การเหวี่ยงอัดด้วยท่อนแขนหรือท่อนขา, การพุ่งเข้าปะทะจากบนเสามุมเวทีมวย, การกระโดดทับตัวของคู่ต่อสู้และการซ้ำคู่ต่อสู้ด้วยการทิ้งท่อนแขน, ท่อนขา, ศอก, ส่วนท้าย, เข่า, ฝ่าเท้า (จากบนพื้นเวทีหรือจากบนเสามุมเวทีมวยก็ได้) และ การจับทุ่มคู่ต่อสู้ การปล้ำจะจบลงพร้อมผลแพ้ชนะเมื่อมีนักมวยปล้ำฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกดไหล่ของนักมวยปล้ำอีกฝ่ายหนึ่งที่หงายตัวอยู่ให้แตะติดพื้นบนเวทีมวย (ในภาษาอังกฤษเรียกว่าเป็นการ "พิน (Pin)") จนกระทั่งกรรมการผู้ห้ามเข้ามาแล้วนับ 1 ถึง 3 หากกรรมการนับครบถึงเลข 3 ไปแล้ว ไหล่ของผู้ที่ถูกกดไหล่ยังคงถูกอีกฝ่ายซึ่งเป็นผู้กดไหล่ กดติดพื้นเวทีมวยอยู่ จะถือว่าการกดไหล่ของผู้กดไหล่ครั้งนั้นสำเร็จ การปล้ำก็จะยุติลง และผู้ที่กดไหล่คู่ต่อสู้ได้สำเร็จเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าหากผู้ที่ถูกกดไหล่นั้นยกตัวหรือยกไหล่ขึ้นมาจากการกดได้ หรือ ไหล่ของผู้ที่ถูกกดไหล่นั้นได้หลุดออกไปจากการกดไหล่ไปก่อนที่กรรมการผู้ห้ามจะนับได้ถึงเลข 3 ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม จะถือว่าการกดไหล่ของผู้กดไหล่ครั้งนั้นยังไม่สำเร็จ และจะต้องต่อสู้กันไปจนกว่าจะสามารถกดไหล่อีกฝ่ายได้สำเร็จ อีกหนึ่งวิธีการเอาชนะคือการล็อกหรือรัดตัวคู่ต่อสู้ให้ยอมแพ้ นักมวยปล้ำสามารถใช้ท่าล็อกที่จะขัดขวางการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อให้อีกฝ่ายแสดงสัญญาณการขอยอมแพ้ โดยกรรมการจะเข้าไปถามว่า ยอมแพ้ไหม? ("กิฟอัพ? (Give up?)") หากฝ่ายที่ถูกล็อกแสดงการยอมจำนนโดยการตบพื้นอย่างต่อเนื่อง หรือ แตะส่วนของร่างกายที่ถูกล็อกอย่างต่อเนื่อง (ในภาษาอังกฤษจะเรียกว่าเป็นการ "แท็ป เอาต์ (Tap Out)") กรรมการผู้ห้ามจะหยุดการปล้ำ และให้ฝ่ายที่ใช้ท่าล็อก เป็นผู้ชนะทันที ในกรณีที่ผู้ถูกล็อกต้องการยอมจำนนแต่ไม่สามารถแสดงการยอมจำนนโดยการตบพื้นอย่างต่อเนื่องหรือแตะส่วนของร่างกายที่ถูกล็อกอย่างต่อเนื่องได้ ผู้ถูกล็อกสามารถกล่าวขอยอมจำนนกับกรรมการผู้ห้ามด้วยวาจาให้กรรมการผู้ห้ามรับทราบได้ หากผู้ถูกล็อกเกิดสลบไปในระหว่างที่อยู่ในท่าล็อกของผู้ใช้ท่าล็อก ซึ่งทำให้ไม่สามารถโต้ตอบกับกรรมการผู้ห้ามได้ กรรมการผู้ห้ามสามารถยุติการปล้ำ และผู้ที่ใช้ท่าล็อกจะเป็นผู้ชนะน็อกไปในทันที ผู้ถูกใช้ท่าล็อกสามารถดิ้นออกจากล็อก เพื่อหลบหนีออกจากการถูกล็อกได้ หรือ เข้าไปจับเชือกกั้นเวทีมวยเพื่อ "โรพ เบรก" (Rope Break) ให้คู่ต่อสู้หยุดใช้ท่าล็อกได้ ในขณะที่มีการใช้ท่าล็อก, การรัดตัว, หรือการกดไหล่ หากนักมวยปล้ำฝ่ายที่เสียเปรียบจากการถูกใช้ท่าล็อก, ถูกรัดตัว, หรือถูกกดไหล่ สามารถเข้าไปจับหรือสัมผัสเชือกกั้นเวทีมวยได้ จะถือว่าเป็นการ "โรพ เบรก" (Rope Break) นักมวยปล้ำที่เป็นฝ่ายได้เปรียบจะต้องผละตัวออกจากฝ่ายที่เสียเปรียบให้ความได้เปรียบของทั้งสองฝ่ายเสมอตัวกันและดำเนินการปล้ำต่อไป มิเช่นนั้น กรรมการผู้ห้ามจะเตือนนักมวยปล้ำฝ่ายที่ได้เปรียบให้ผละออกจากนักมวยปล้ำฝ่ายที่เสียเปรียบ และจะนับหนึ่งถึงห้าเพื่อให้เวลาฝ่ายที่ได้เปรียบผละออกจากฝ่ายที่เสียเปรียบ หากยังไม่ผละออกก็จะถูกปรับแพ้ หากมีนักมวยปล้ำฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตกลงไปจากเวทีหรือเดินลงไปจากเวทีทั้งๆ ที่การแข่งขันยังไม่มีผลแพ้ชนะ กรรมการผู้ห้ามจะนับ 1 ถึง 10 ด้วยความเร็วปานกลาง เป็นการนับให้นักมวยปล้ำกลับขึ้นมาเมื่อออกจากเวทีมวย (ในภาษาอังกฤษเรียกว่าเป็นการนับ "ริง เอาท์ เคาท์" Ring Out Count) (ในบางการแข่งขันก็จะนับ 1 ถึง 20) เพื่อให้เวลานักมวยปล้ำที่ตกลงไปจากเวทีได้กลับขึ้นมา หากไม่กลับขึ้นมาเมื่อครบจำนวนตัวเลขที่ทางกรรมการผู้ห้ามได้นับ ก็จะถูกปรับแพ้ นักมวยปล้ำที่อยู่บนเวทีจะชนะทันที หากกลับขึ้นมา การปล้ำก็จะถูกดำเนินต่อไป จนกระทั่งมีผลแพ้ชนะ หากนักมวยปล้ำทั้งสองฝ่ายลงไปต่อสู้กันด้านล่างเวทีมวย แม้จะไม่ถือว่าผิดกติกา แต่กรรมการก็จะนับให้กลับขึ้นเวทีมวย เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายกลับขึ้นมา หากฝ่ายที่ลงเวทีมวยก่อนกลับขึ้นมา แล้วอีกฝ่ายที่ลงเวทีมวยไปทีหลังไม่ขึ้นมา กรรมการจะเริ่มการนับใหม่ เพื่อให้ฝ่ายที่ลงเวทีมวยทีหลังได้ขึ้นมา แต่หากฝ่ายที่ลงเวทีมวยไปก่อนยังไม่ขึ้น แต่ฝ่ายที่ลงเวทีมวยไปทีหลังขึ้นมาก่อน กรรมการจะนับให้กลับขึ้นเวทีมวยไปจนถึงที่ได้กำหนดไว้ หากไม่กลับขึ้นมาก็จะแพ้ทันที หากทั้งสองฝ่ายล้มลงนอนบนเวทีทั้งคู่ ไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม กรรมการจะนับ 1 ถึง 10 ด้วยความเร็วปานกลาง เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้มีเวลาลุกขึ้นมา เมื่อนักมวยปล้ำคนใดคนหนึ่งลุกขึ้นมาแล้ว กรรมการผู้ห้ามจึงจะหยุดนับและให้ดำเนินการปล้ำต่อไปจนกว่าจะมีผลแพ้ชนะ หากไม่ลุกขึ้นมาทั้งคู่ กรรมการผู้ห้ามจะยุติการแข่งขัน และจะให้ผลออกมาเสมอกัน หากลุกขึ้นมาทั้งคู่ การปล้ำก็จะดำเนินต่อไป จนกว่าจะมีผลแพ้ชนะออกมา การกดไหล่เอาชนะด้านล่างเวทีมวยนั้นกรรมการจะไม่นับให้ ต้องกดไหล่กันบนเวทีมวยเท่านั้น กรรมการถึงจะนับ 1 ถึง 3 และตัดสินผลแพ้ชนะได้ ยกเว้นการปล้ำอยู่ในแบบที่นักมวยปล้ำสามารถเอาชนะกันจากด้านล่างเวทีมวยได้ เช่นเดียวกับการใช้ท่าล็อกให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ การยอมแพ้ของคู่ต่อสู้จะเป็นผลการปล้ำได้ก็ต่อเมื่ออยู่ด้านบนเวทีมวยเท่านั้น ยกเว้นการปล้ำอยู่ในแบบที่นักมวยปล้ำสามารถเอาชนะกันจากด้านล่างเวทีมวยได้ ส่วนการนำเอาสิ่งของจากด้านล่างเวทีมวยมาใช้เป็นอาวุธบนเวทีมวยและการนำอาวุธระยะประชิดมาใช้บนเวทีมวยนั้นเป็นสิ่งที่ผิดกติกา (หากการปล้ำไม่ได้เป็นแบบที่ใช้อาวุธบนเวทีมวยได้) ผู้ที่ใช้อาวุธเข้าโจมตีคู่ต่อสู้บนเวทีมวยจะถูกปรับแพ้ และให้ผู้ที่ถูกโจมตีด้วยอาวุธเป็นฝ่ายชนะไป การนำสิ่งของมาใช้เป็นอาวุธและการใช้อาวุธระยะประชิดชนิดใดก็ตามจะต้องกระทำ ณ บริเวณด้านล่างเวทีมวยเท่านั้น จึงจะทำได้ (ในบางสมาคมมวยปล้ำอาชีพก็ไม่มีการอนุญาตให้ใช้อาวุธทั้งด้านบนและด้านล่างเวทีมวย) ส่วนการชกคู่ต่อสู้ด้วยหมัดนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำในการต่อสู้แบบมวยปล้ำอาชีพ แม้จะไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องผิดกติกาอย่างร้ายแรง แต่กรรมการผู้ห้ามจะพูดเตือนให้นักมวยปล้ำหยุดยั้งการชกคู่ต่อสู้ด้วยหมัด หรือพยายามเข้าระงับการใช้หมัดชกคู่ต่อสู้อย่างต่อเนื่องของนักมวยปล้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นหมัดจากที่ตัวผู้ใช้ลอยอยู่กลางอากาศ จึงจะไม่ใช่เรื่องผิดกติกา เช่น หมัดจากท่า "ซูเปอร์แมนพันช์ (Superman Punch)" หรือ การกระโดดทิ้งหมัดลงมาใส่คู่ต่อสู้ เป็นต้น การทิ้งหมัดลงมาใส่คู่ต่อสู้ (หรือที่เรียกว่า "ฟิสต์ดร็อป (Fist Drop)") นั้นไม่ผิดกติกา ส่วนการโจมตีส่วนของร่างกายบริเวณ"ใต้เข็มขัด"ของนักมวยปล้ำเพศชายโดยตรงนั้นเป็นสิ่งที่ผิดกติกาอย่างยิ่ง หากการปล้ำครั้งนั้นไม่ได้มีกติกาที่อนุญาตให้โจมตีส่วน"ใต้เข็มขัด"โดยตรงได้ นักมวยปล้ำผู้ที่โจมตีส่วน"ใต้เข็มขัด"ของคู่ต่อสู้โดยตรงจะถูกปรับแพ้ (อย่างไรก็ตาม การโจมตีด้วยท่าอย่าง อะตอมมิค ดรอป แบบกลับด้าน หรือ "อินเวอร์เต็ด อะตอมมิค ดรอป (Inverted Atomic Drop)" นั้น ถือว่าเป็นท่าทุ่มแบบหนึ่ง ไม่ได้ถือว่าผิดกติกาแต่อย่างใด)

2. แบบแท็กทีม (Tag Team Match) - นักมวยปล้ำทั้งสองฝ่ายจะต้องมาแบบทีม หนึ่งทีมจะมี 2 คน นักมวยปล้ำทั้งสองทีมต้องส่งตัวแทน 1 คน ไปต่อสู้กับตัวแทนอีก 1 คน ของฝ่ายตรงข้าม ในบริเวณลานต่อสู้ของเวทีมวย ส่วนอีกคนหนึ่งจะต้องยืนเกาะเชือกเวทีมวยไว้ เพื่อรอเปลี่ยนตัวบริเวณด้านข้างมุมเสาเวทีมวยอยู่ทางด้านนอก การที่อีกคนหนึ่งจะเข้าไปต่อสู้ได้นั้น จะต้องถูกแตะมือ หรือถูกสัมผัสโดยนักมวยปล้ำร่วมทีมของตัวเองที่ได้ออกไปต่อสู้ก่อน (เรียกว่าเป็นการ "แท็ก (Tag)") จึงจะเข้าไปสู้แทนได้ ส่วนนักมวยปล้ำผู้ร่วมทีมที่ได้ออกไปต่อสู้ก่อนหน้านี้ เมื่อได้เข้าไปแตะมือ หรือสัมผัสตัวของผู้ร่วมทีมอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังยืนเกาะเชือกเวทีมวยเพื่อรอเปลี่ยนตัวแล้ว ก็จะต้องไปยืนเกาะเชือกเวทีมวยรออยู่บริเวณมุมเสาเวทีมวยทางด้านนอกแทน (แต่ก็ยังสามารถอยู่ภายในบริเวณลานต่อสู้ก่อนได้ เพียงชั่วขณะหนึ่ง) จนกว่าจะถูกแตะมือหรือถูกสัมผัสโดยผู้ร่วมทีมของตัวเองที่เข้าไปต่อสู้ในบริเวณลานต่อสู้แทน จึงจะเข้าไปสู้อีกได้ ทั้งสองทีมจะต่อสู้กันรูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีผลแพ้ชนะ ผลแพ้ชนะของการปล้ำจะตัดสินแบบเป็นทีม ทีมที่ชนะคือทีมที่นักมวยปล้ำคนใดคนหนึ่งของทีมสามารถเอาชนะนักมวยปล้ำคนใดคนหนึ่งของอีกฝ่ายไปได้ ส่วนกติกาหลักของการปล้ำแบบแท็กทีมก็เป็นกติกามวยปล้ำอาชีพแบบพื้นฐาน เอาชนะกันด้วยการกดไหล่ของคู่ต่อสู้ให้กรรมการผู้ห้ามนับหนึ่งถึงสาม หรือการใช้ท่าล็อกให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ เช่นกัน ในการปล้ำแบบแท็กทีม นักมวยปล้ำในทีมที่ได้รับการเปลี่ยนตัวเข้ามาต่อสู้ในลานบนเวทีมวยแล้วสามารถจู่โจมนักมวยปล้ำฝ่ายตรงข้ามที่กำลังรอเปลี่ยนตัวอยู่ได้ และนักมวยปล้ำที่กำลังรอเปลี่ยนตัวอยู่ก็สามารถโจมตีนักมวยปล้ำฝ่ายตรงข้ามได้ ณ จุดที่รอเปลี่ยนตัวอยู่หรือในบริเวณด้านนอกเวทีมวย สำหรับการปล้ำแบบแท็กทีมในรูปแบบที่มีจำนวนสมาชิกในทีมมากกว่าสองคน นักมวยปล้ำจะแท็กผู้ร่วมทีมเพื่อเปลี่ยนตัวให้ผู้ร่วมทีมของตนที่ได้รอเปลี่ยนตัวอยู่บริเวณมุมเสาเวทีมวยด้านนอกนั้นเข้ามาต่อสู้แทนกันได้หนึ่งครั้งการแท็กต่อผู้ร่วมทีมหนึ่งคนในทีมเท่านั้น

2.1 แบบแท็กทีมหกคน (6-Man Tag Team Match) - เป็นการปล้ำแบบแท็กทีมที่ทั้งสองฝ่ายจะมาเป็นทีมที่มีสมาชิกทีมละ 3 คน

2.2 แบบแท็กทีมแปดคน (8-Man Tag Team Match) - เป็นการปล้ำแบบแท็กทีมที่ทั้งสองฝ่ายจะมาเป็นทีมที่มีสมาชิกทีมละ 4 คน

2.3 แบบแท็กทีมสิบคน (10-Man Tag Team Match) - เป็นการปล้ำแบบแท็กทีมที่ทั้งสองฝ่ายจะมาเป็นทีมที่มีสมาชิกทีมละ 5 คน

2.4 แบบแท็กทีมสิบสองคน (12-Man Tag Team Match) - เป็นการปล้ำแบบแท็กทีมที่ทั้งสองฝ่ายจะมาเป็นทีมที่มีสมาชิกทีมละ 6 คน

2.5 แบบแท็กทีมสิบสี่คน (14-Man Tag Team Match) - เป็นการปล้ำแบบแท็กทีมที่ทั้งสองฝ่ายจะมาเป็นทีมที่มีสมาชิกทีมละ 7 คน

2.6 แบบแท็กทีมสิบหกคน (16-Man Tag Team Match) - เป็นการปล้ำแบบแท็กทีมที่ทั้งสองฝ่ายจะมาเป็นทีมที่มีสมาชิกทีมละ 8 คน

3. แบบ แบทเทิล รอยัล (Battle Royal) - เป็นการปล้ำในแบบที่นักมวยปล้ำทั้งหมดบนเวทีมวยจะต้องเข้าตะลุมบอนกันเอง จนกระทั่งเหลือนักมวยปล้ำอยู่บนเวทีมวยเพียงแค่คนเดียว ในการปล้ำแบบ แบทเทิล รอยัลหนึ่งครั้งนั้น จะมีนักมวยปล้ำที่ต่อสู้อยู่บนเวทีมวย ตั้งแต่ 4 คน ขึ้นไป (โดยทั่วไปแล้ว จะปล้ำกันไม่เกิน 20 ถึง 30 คน ต่อหนึ่งเวที) นักมวยปล้ำแต่ละคนจะต้องเอาชนะคู่ต่อสู้บนเวทีมวยให้มากที่สุด จนกระทั่งเหลือตนอยู่คนเดียว หลักของการเอาชนะคู่ต่อสู้แต่ละคนในการปล้ำแบบ แบทเทิล รอยัล นั้น คือการเหวี่ยง, โยน, หรือดันคู่ต่อสู้ให้หล่นลงจากด้านบนเวทีมวยผ่านเหนือด้านบนของเชือกกั้นเวทีมวยเส้นที่สาม หรือ เส้นด้านบนสุดของเวทีมวย ให้เท้าทั้งสองข้างของคู่ต่อสู้มาสัมผัสกับพื้นด้านล่างเวทีมวย นักมวยปล้ำที่ถูกคู่ต่อสู้เอาชนะได้ก็จะตกรอบ ส่วนนักมวยปล้ำที่ยังไม่ตกรอบก็จะทำการปล้ำต่อไป จนกระทั่งเหลือนักมวยปล้ำที่ยังไม่ตกรอบอยู่บนเวทีมวยจำนวนหนึ่งคน การปล้ำจึงจะยุติลง และนักมวยปล้ำคนเดียวคนนั้นก็จะเป็นผู้ชนะ

4. แบบ แฮนดิแคป (Handicap Match) - เป็นการปล้ำในแบบที่นักมวยปล้ำแต่ละฝ่ายมีจำนวนคนไม่เท่ากัน เช่น ฝ่ายหนึ่งมีเพียงคนเดียว แต่อีกฝ่ายมีสองคน, ฝ่ายหนึ่งมีสองคน แต่อีกฝ่ายมีสามคน, หรือฝ่ายหนึ่งมีสามคน แต่อีกฝ่ายมีจำนวนคนมากกว่า เป็นต้น การปล้ำแบบแฮนดิแคปมีทั้งแบบที่นักมวยปล้ำทั้งหมดต่อสู้กันบนเวทีมวย และการปล้ำที่นักมวยปล้ำคนเดียวเจอกับนักมวยปล้ำฝ่ายตรงข้ามที่มาแบบแท็กทีมหรือปล้ำแบบแท็กทีมในแบบที่จำนวนสมาชิกของแต่ละทีมไม่เท่ากัน

5. การปล้ำแบบให้ยอมจำนน (Submission Match) - เป็นการปล้ำในแบบที่การล็อกคู่ต่อสู้หรือรัดตัวคู่ต่อสู้ให้ยอมแพ้ คือหนทางเดียวสำหรับการเป็นผู้ชนะ

ใกล้เคียง

มวยปล้ำอาชีพ มวยปล้ำ มวยปล้ำชิงแชมป์โลก 2023 มวยปล้ำชิงแชมป์โลก มวยปล้ำรอบคัดเลือกโอลิมปิกโซนแอฟริกาและโอเชียเนีย 2024 มวยปล้ำรอบคัดเลือกโอลิมปิกโซนแพนอเมริกา 2024 มวยปล้ำในเอเชียนเกมส์ 2010 มวยปล้ำแท็กทีม มวยลาว มวยเลิศฤทธิ์