เนื้อเรื่อง ของ มิสไซง่อน

องก์ 1

เดือนเมษายนปีคริสต์ศักราช 1975 ก่อนการสิ้นสุดของสงครามเวียดนาม ใน“ดรีมแลนด์” บาร์แห่งหนึ่งในไซง่อน เป็นวันแรกที่บาร์ของ’คิม’เด็กสาววัย 17 ปี หนึ่งในสาวบริการของ’เอนจิเนียร์’หนุ่มใหญ่ลูกครึ่งฝรั่งเศส-เวียดนามผู้จัดการบาร์ ที่กำลังกวดขันเหล่าหญิงบริการอยู่หลังเวที ให้พร้อมกับโชว์ของคืนนั้น ขณะที่ทั้งหมดกำลังขบขันกับความไร้เดียงสาของคิม เหล่าทหารอเมริกันร่วมดื่มกับหญิงบริการชาวเวียดนาม (“เร่าร้อนในไซง่อน / The heat is on in Saigon”) ‘คริส’หนึ่งในทหารอเมริกันรู้สึกเบื่อและไม่สนใจกับเหล่าหญิงงามในร้านที่กำลังแข่งประกวดชิงตำแหน่งมิสไซง่อน แต่คริสกลับสะดุดตากับความไร้เดียงสาของคิมหนึ่งในหญิงเหล่านั้นและได้เปรยให้’จอห์น’เพื่อนสนิทของเขาฟัง ‘จีจี้’ผู้ได้รับตำแหน่งมิสไซง่อนได้ขอร้องให้ทหารอเมริกันช่วยพาเธอกลับอเมริกาด้วยแต่ถูกปฏิเสธ เหล่าสามงามตัดพ้อถึงความฝันของชีวิตที่ดีกว่า (“ภาพหนังที่ใจใฝ่หา / Movie in my mind”) จอห์นได้คุยกับเอนจิเนียร์เพื่อเปิดห้องพักเป็นของขวัญให้คริสและคิม (“เจรจา / The Transaction”) คิมลังเลที่จะคุยกับคริสด้วยความไร้เดียงสาของเธอ สุดท้ายเธอยอมเต้นรำกับคริส ด้วยความสงสารคริสพยายามให้เงินคิมเพื่อนที่เธอจะได้ไปจากบาร์แห่งนี้ แต่เอนจิเนียร์จับได้และคิดว่าคริสไม่ชอบเธอ คิมจึงรีบตัดบทด้วยการพาคริสไปที่ห้องของเธอ

รุ่งสางของวันต่อมาคริสตื่นมาพบคิมกำลังนอนหลับด้วยความเอ็นดูต่อคิม คริสถามต่อพระเจ้าว่าทำไมเขาถึงมาพบเธอในช่วงเวลาสุดท้ายในเวียดนามเช่นนี้ (“ทำไมต้องเธอ / Why, God, Why?”) เมื่อคิมตื่นขึ้น คริสให้เงินเธอดังเช่นหญิงบริการอื่น ๆ แต่คิมปฏิเสธโดยบอกว่านี่เป็นครั้งแรกของเธอ (“เงินเธออยู่นี่ / This money’s yours”) คริสไม่เชื่อว่านี่เป็นครั้งแรกของเธอ คิมจึงเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอให้เขาฟัง คริสเมื่อได้ฟังเรื่องของคิมก็รู้สึกสงสารและเห็นใจ คริสจึงถามคิมว่าอยากมาใช้ชีวิตร่วมกันหรือไม่ แล้วทั้งสองก็ตกหลุมรักกัน (“เดือนกับตะวัน / Sun and Moon”) สายวันนั้นคริสจึงโทรไปบอกจอห์นว่าเขาจะขอลาพักไปอยู่กับคิม แต่จอห์นเตือนคริสว่าเวียดกงกำลังจะเข้ายึดไซง่อนแต่ก็ให้คริสไป (“ลาหยุด / The telephone song”) คริสไปต่อรองกับเอนจิเนียร์เพื่อขอคิม เอนจิเนียร์พยายามขอวีซ่าไปอเมริกากับคริส คริสใช้ปืนขู่เอนจิเนียร์ เอนจิเนียร์จึงยอมให้คิมกับคริส (“ค่าตัวคิม / The deal”)

เหล่าสาวบริการจัดพิธีแต่งงานอย่างง่าย ๆ ให้คิมและคริส (“เจ้าหญิงกับเจ้าชาย / Dju Vui Vai”) จีจี้อวยพรให้กับคิมและยกให้เธอเป็นมิสไซง่อนตัวจริง ‘ถวี’คู่มั่นคลุมถุงชนของคิม เข้ามาพาคิมกลับบ้าน ถวีเป็นทหารเวียดนามเหนือและไม่พอใจที่เห็นคิมอยู่กับคริส (“แกเป็นใคร / Thuy’s arrival”) ทั้งสองเผชิญหน้ากัน คิมบอกถวีว่าคำสัญญาของพ่อที่ว่ายกเธอให้กับเขาไปจบลงไปพร้อมกับการตายของพ่อเธอและเธอไม่ได้มีความรู้สึกให้เขาอีกต่อไป ถวีสาปแช่งทั้งคู่และหนีไป คริสสัญญากับคิมว่าจะพาเธอกลับอเมริกา (“คืนสุดท้ายของโลกใบนี้ / Last night of the world”)

สามปีต่อมามีการเดินเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ปีการรวมเวียดนามและการปราชัยของทหารอเมริกันในนครโฮจิมินห์ (ไซง่อนเดิม) (“รุ่งอรุณแห่งชัยชนะ / Morning of the Dargon”) ถวีซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งอธิบดีในรัฐบาลคอมมิวนิสต์ของเวียดนามส่งทหารให้ออกตามหาเอนจิเนียร์ เพื่อจะสั่งให้เอนจิเนียร์ตามหาคิมและนำตัวเธอมาพบเขา คิมที่ยังซื่อตรงในความรักต่อคริสได้ซ่อนตัวจจากการจับกุมของทหารคอมมิวนิสต์ ยังหวังว่าคริสจะกลับมาเวียดนามและพาเธอกลับไปอเมริกา ในขณะเดียวกัน’เอเลน’ภรรยาใหม่ชาวอเมริกันของคริสกำลังเฝ้าดูคริสเพ้อถึงชื่อคิมในฝันร้ายของเขา ทั้งเอเลนและคิมต่างยืนยันในความรักของทั้งคู่ต่อคริสจากทั้งสองฝากของโลก (“ฉันเชื่อเสมอ / I still believe”)

อาทิตย์ต่อมา ทหารของถวีได้พบตัวเอนจิเนียร์อยู่ทางเหนือของเวียดนาม เอนจิเนียร์พาถวีไปหาคิม ถวีได้ให้โอกาสคิมที่จะแต่งงานกับเขาอีกครั้งแต่คิมปฏิเสธ ถวีสั่งทหารให้เข้ามาจับกุมคิมและเอนจิเนียร์และขู่จะส่งพวกเขาไปค่ายปรับทัศนคติของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ถวีสั่งให้ทหารและเอนจิเนียร์ออกไปและพยายามคุยกับคิมอีกครั้ง คิมจึงเปิดเผยความลับของเธอ หลังจากที่ถวีพบว่าคิมมีลูกชายชื่อ’แทม’กับคริสจึงพยายามจะฆ่าเขา คิมได้หยิบปืนที่คริสได้ให้ไว้ก่อนจากกันและยิงถวี (“อย่าแตะต้องตัวเขา / You will not touch him”) คิมหนีไปหาเอนจิเนียร์กับแทมและบอกเขาว่าเธอได้ฆ่าถวี เอนจิเนียร์ปฏิเสธที่จะช่วยคิมในตอนแรก แต่หลังจากที่คิมบอกว่าพ่อของแทมคือคริสเอนจิเนียร์คิดว่านี่คือโอกาสที่จะได้ย้ายไปอยู่อเมริกา เอนจิเนียร์บอกคิว่าต่อจากนี้เขาคือลุงของแทม (“ถ้ายังหวังจะได้แก่ตาย / If you want to die in bed”) ทั้งสามออกเดินทางไปยังกรุงเทพทางเรือในฐานะผู้ลี้ภัย (“ชีวิตนี้ยอมพลีได้เพื่อเธอ / I’d give my life for you”)

องก์ 2

ในกรุงแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย จอห์นซึ่งตอนนี้ทำงานให้กับองค์กรช่วยเหลือบุยดอย (มีความหมายว่าเด็กข้างถนน หมายถึงเด็กที่เกิดกับทหารอเมริกันช่วงสงคราม) ให้พบกับพ่อชาวอเมริกัน (“บุยดอย / Bui Doi”) จอห์นได้ข้อมูลมาและบอกคริสว่าคิมยังมีชีวิตอยู่ คริสรู้สึกโล่งใจหลังจากถูกฝันร้ายว่าคิมถูกยิงเสียชีวิตตามหลอกหลอนอยู่นาน จอห์นบอกคริสเรื่องแทมและพยายามให้คริสและเอเลนไปหาคิมและแทมที่กรุงเทพ คริสจึงเล่าเรื่องทุกอย่างทั้งหมดให้เอเลนฟัง และทั้งหมดได้ออกเดินทางมากรุงเทพ ที่กรุงเทพเอนจิเนียร์ทำงานเป็นพนักงานในบาร์แห่งหนึ่งกับคิม (“เซ็งชะมัด / What a waste”) จอห์นตามหาจนพบคิมที่บาร์ เขาบอกเธอว่าคริสอยู่ที่กรุงเทพด้วยเช่นกัน จอห์นพยายามบอกคิมว่าคริสได้แต่งงานแล้วแต่คิมขัดจังหวะบทสนทนาด้วยความดีใจของเธอที่พรั่งพรูออกมา (“วอน / Please”) เธอบอกกับแทมว่าพ่อกลับมาพาทั้งคู่ไปอเมริกาแล้ว จอห์นไม่อาจทำใจที่จะบอกความจริงกับคิมได้แต่สัญญาว่าจะพาคริสมาหาเธอ หลังจากที่จอห์นกลับไปเอนจิเนียร์เข้ามาบอกคิมไม่ให้เชื่อจอห์นและให้เธอไปหาคริสด้วยตัวเธอเองโดยเขาจะไปสืบมาให้ว่าคริสอยู่ที่ไหน คิมตั้งหน้าตั้งตารอเอนจิเนียร์แต่ระหว่างนั้นคิมเห็นวิญญานของถวีมาหลอกหลอน วิญญานของถวีบอกคิมว่าคริสจะหักหลังเธอเหมือนกับที่เขาทำในคืนที่ไซง่อนแตก ทำให้เรื่องราวในคืนนั้นกลับมาตามหลอกหลอนคิม (“ฝันร้ายของคิม (ไซง่อนแตก 1975) / Kim’s nightmare”)

ในความทรงจำของเธอนั้น คิมจำได้ว่าทหารเวียดกงกำลังรุกคืบเข้ายึดไซง่อน ทั้งเมืองเต็มไปด้วยความโกลาหล คริสถูกเรียกตัวให้ไปสถานทูต ก่อนไปเค้าได้มอบปืนของเขาให้กับคิมและบอกให้คิมเก็บข้าวของ เมื่อคริสเดินทางไปถึงสถานทูต ได้มีคำสั่งจากกรุงวอชิงตัน ให้อพยพชาวอเมริกันทั้งหมดออกจากสถานทูตโดยทันที มีคำสั่งให้ปิดประตูสถานทูตและห้ามผู้ใดออกและห้ามผู้ลี้ภัยชาวเวียดนามเข้ามาในสถานทูตอีก คิมตามออกมาหาคริสแต่มีชาวเวียดนามมากมายหน้าสถานทูต คริสตะโกนหาคิมและพยายามจะออกไปด้านนอกเพื่อหาเธอ จอห์นห้ามคริสไว้ ทั้งคู่ขึ้นเครื่องเฮลิคอปเตอร์เที่ยวสุดท้ายออกจากไซง่อน คิมได้แต่เฝ้ามองเฮลิคอปเตอร์บินผ่านไป

กรุงเทพ 1978, คิมหยิบเอาชุดแต่งงานของเธอมาสวมอีกครั้ง (“เดือนกับตะวัน (Reprise) / Sun and Moon (Reprise) ”) เอนจิเนียร์เข้ามาบอกว่าพบที่อยู่คริสแล้ว คิมฝากแทมไว้กับเอนจิเนียร์และออกไปหาคริส คิมไปที่ห้องของคริสแต่กลับพบเอเลน (“ห้อง 317 / Room 317”) เอเลนบอกคิมว่าเธอคือภรรยาของคริส คิมเสียใจมากและไม่เชื่อเอเลน เอเลนถามคิมว่าคริสเป็นพ่อของแทมจริงหรือไม่ คิมยืนยันว่าคริสเป็นพ่อของแทม คิมบอกเอเลนว่าเธอไม่อยากให้ลูกของเธอมีสภาพชีวิตเช่นนี้และขอร้องให้ทั้งคู่พาแทมกลับอเมริกาไปด้วยแต่เอเลนปฏิเสธ เธอบอกว่าแทมควรที่จะได้อยู่กับแม่ที่แท้จริงของเขา คิมโกรธมากยืนยันว่าคริสต้องเป็นผู้บอกสิ่งนี้กับเธอเองและวิ่งออกไป เอเลนเสียใจกับสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นแต่ยังคงรักคริสไม่เปลี่ยน (“เมื่อเห็นหน้าเธอ / Now that I’ve seen her”) คริสกลับมาพร้อมกับจอห์นหลังจากหาคิมไม่พบ เอเลนบอกทั้งคู่ว่าคิมมาที่นี่และเธอต้องเป็นผู้บอกคิมเองทุกอย่าง เธอบอกคริสว่าคิมต้องการให้ทั้งคู่พาแทมกลับไปด้วย เอเลนถามคริสว่าเขาจะเลือกใครระหว่างเธอกับคิม (“เผชิญความจริง / The confrontation”) คริสยืนยันกับเอเลนว่าเขาจะอยู่กับเธอ และจะให้คิมอยู่กับแทมที่กรุงเทพแต่จะส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้จากอเมริกา จอห์นเตือนคริสว่าคิมจะไม่มีทางยอมให้แทมอยู่ที่กรุงเทพอย่างแน่นอน

คิมกลับมาที่ห้องของเธอ คิมโกหกเอนจิเนียร์ว่าพวกเขากำลังจะไปอเมริกา เอนจิเนียร์ตื่นเต้นและจินตนาการถึงชีวิตใหม่ของเขาในอเมริกา (“American Dream”) คริส จอห์นและเอเลน เดินทางมาพบเอนจิเนียร์ที่บาร์ เอนจิเนียร์จึงพาพวกเขามาพบคิม

ในห้องของคิม คิมบอกกับแทมว่าพ่อมาหาแล้ว (“บทสรุป / Finale”) เธอบอกแทมต่อว่าเธออาจจะไปกับแทมไม่ได้แต่จะคอยเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา เอนจิเนียร์พาทั้งสามมาที่หน้าห้องของคิม เอนจิเนียร์พาแทมออกไปพบกับพ่อ ขณะเดียวกันคิมหลบเข้าไปหลังผ้าม่านและยิงตัวเอง ทุกคนวิ่งเข้ามาในห้องเพราะเสียงปืนและพบคิมนอนหายใจรวยรินอยู่ คริสเข้าไปอุ้มเธอและถามว่าเธอทำอะไรลงไป คิมขอให้เขากอดเธอเป็นครั้งสุดท้ายและคิมพูดประโยคเดียวกับที่เขาพูดในคืนแรกที่ทั้งสองพบกัน “คืนนั้นพาเราสองมาไกลเพียงใด” ก่อนที่จะสิ้นใจลงในในอ้อมกอดของคริส

แหล่งที่มา

WikiPedia: มิสไซง่อน http://www.broadway.com/gen/Buzz_Video.aspx?ci=503... http://www.cameronmackintosh.com/news/miss-saigon-... http://www.ibdb.com/production.php?id=4639 http://www.ibdb.com/show.asp?id=6149 http://www.miss-saigon.com/ http://www.mtishows.com/show_home.asp?ID=000156 http://www.stageagent.com/Shows/View/770 http://www.time.com/time/magazine/article/0,9171,9... http://www.whatsonstage.com/london-theatre/news/09... http://www.world-theatres.com/longruns.html#longru...