การเล่นฟุตบอลระดับสโมสร ของ มุศเฏาะฟา_ฮัจญี

อาแอ็ส น็องซี

หลังจากที่ได้เล่นในทีมชุดเยาวชน ต่อมาเขาได้รับสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพในปี ค.ศ. 1991 และเล่นให้กับทีมชุดสำรอง ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของน็องซี ในฤดูกาล 1992-1993 ในยุคที่มี ออลีวีเย รูเย อดีตกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสเป็นผู้จัดการทีม โดยในฤดูกาลแรกของเขาในทีมชุดใหญ่เขายิงประตูในลีกเดอไปถึง 6 ประตู จากตำแหน่งกองกลาง และก้าวขึ้นมาเป็นกองกลางคนสำคัญของสโมสรด้วยทักษะการเลี้ยงบอลที่โดดเด่น และสามารถยิงประตูในจังหวะสำคัญ ๆ ได้ โดยฟอร์มการเล่นที่สโมสรแห่งนี้ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในทีมชาติโมร็อกโก ที่ได้เล่นในฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา โดยตลอดช่วงเวลา 4 ฤดูกาลที่เขาลงเล่นในลีกเดอ เขายิงประตูในลีกได้รวม 31 ประตู แต่ไม่อาจช่วยให้สโมสรเลื่อนชั้นขึ้นไปสู่ลีกเอิงซึ่งเป็นลีกสูงสุดได้

สปอร์ติงลิสบอน

ฤดูกาล 1996-1997 มุศเฏาะฟา ฮัจญี ย้ายมาเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรสปอร์ติงลิสบอน ทีมดังระดับปรีไมราลีกาของโปรตุเกส ภายใต้การคุมทีมของออกตาวีอู มาชาดู และได้เล่นในรายการระดับทวีปอย่างยูฟ่าคัพ โดยในการแข่งขันยูฟ่าคัพ 1996 รอบแรก ฮัจญียิงได้ 1 ประตู ในนัดที่บุกไปเสมอกับสโมสรฟุตบอลมงเปอลีเยจากฝรั่งเศส 1-1 โดยนับเป็นประตูแรกที่เขายิงได้ในการแข่งขันระดับทวีป โดยฤดูกาลนี้เขาช่วยให้สโมสรได้ตำแหน่งรองแชมป์ปรีไมรา และได้ไปแข่งยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

โดยในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1997-1998 รอบแบ่งกลุ่มฮัจญี ยิงได้ 2 ประตู ในนัดที่เปิดบ้านถล่มอาแอ็ส มอนาโก จากลีกเอิงฝรั่งเศส ไป 3-0 และนัดที่ออกไปแพ้ไบเออร์เลเวอร์คูเซิน 4-1 อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถช่วยให้สโมสรผ่านเข้ารอบต่อไปได้ แต่จากฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของเขาทำให้ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังเขาตกเป็นที่สนใจจากทีมต่าง ๆ ในยุโรปทั้งจากลาลิกาและพรีเมียร์ลีก ประกอบกับที่ตัวเขามีปัญหาในการใช้ชีวิตที่ประเทศโปรตุเกส จึงตัดสินใจย้ายทีมในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1997

เดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา

เดือนธันวาคม ค.ศ. 1997 ฮัจญีบรรลุข้อตกลงในการย้ายทีม โดยเขาย้ายมาเล่นในลาลิกากับสโมสรเดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา ที่มีโฆเซ มานูเอล กอร์รัล เป็นผู้จัดการทีมในขณะนั้น และมีเพื่อนร่วมทีมชาติในทีมอย่างนูรุดดีน เนย์เบ็ต แต่เขายังไม่สามารถลงสนามได้ โดยเขาต้องรอการอนุญาตจากฟีฟ่าในการย้ายทีมครั้งนี้นานถึงกว่า 2 เดือน และได้ลงสนามนัดแรกในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1998 ในนัดที่เปิดบ้านเอาชนะสโมสรเรอัลโอเบียโด 2-1 โดยเขาถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนฟลาวีอู ดา กงเซย์เซา[2] และเป็นผู้เล่นคนสำคัญตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาล

ต่อมาเขาได้เป็นหนึ่งในผู้เล่นทีมชาติโมร็อกโกในฟุตบอลโลก 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส แม้ฮัจญีจะทำผลงานได้อย่างโดดเด่นและยิงประตูในฟุตบอลโลกได้ แต่ในลาลิกา ฤดูกาล 1998-1999 เขากลับไม่อาจเรียกฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมดังกล่าวมาสู่การเล่นในสโมสรได้ โดยเขาต้องตกเป็นตัวสำรองในยุคของฆาบิเอร์ อิรูเรตา กุนซือคนใหม่ของสโมสร และผลงานของเขายังไม่เข้าตานัก

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่น่าจดจำของเขากับสโมสรแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1998 โดยเขาถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ในนัดที่เปิดบ้านพบกับสโมสรบาร์เซโลนา และเป็นผู้ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่จะชนะไป 2-1 ซึ่งประตูดังกล่าวถือเป็นประตูแรกของเขาในลาลิกา รวมถึงการถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองและยิงประตูชัยพาทีมชนะเรอัลซาราโกซาที่สนามเรียซอร์ 2-1

คอเวนทรีซิตี

หลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จในการเล่นที่สเปน ฮัจญีย้ายทีมอีกครั้ง โดยย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษกับสโมสรคอเวนทรีซิตี พร้อมกับเพื่อนร่วมทีมชาติโมร็อกโกอย่างยูซุฟ ชิปโป

ที่สโมสรแห่งนี้ เขาลงเล่นภายใต้การคุมทีมของกอร์ดอน สตราคัน อดีตกองกลางทีมชาติสกอตแลนด์ ผู้ซึ่งทำให้เขาเรียกฟอร์มการเล่นอันสุดยอดกลับคืนมาได้ และนับได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เขาเล่นได้ดีที่สุดในอาชีพค้าแข้ง โดยเขาลงเล่นให้กับสโมสรนัดแรกเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 1999 ในนัดที่เปิดสนามไฮฟีลด์โรด พบกับสโมสรเซาท์แฮมป์ตัน (แพ้ 0-1) และยิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 1999 ค.ศ. โดยเป็นการยิงประตูชัยให้สโมสรเปิดบ้านเฉือนชนะเวสต์แฮมยูไนเต็ด 1-0[3] โดยเขายิงประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลแรกของเขาได้ รวม 6 ประตู

ฮัจญีกลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของสโมสร ด้วยทักษะอันยอดเยี่ยมรวมถึงการประสานงานระหว่างเขาและเพื่อนร่วมชาติอย่างยูซุฟ ชิปโป สามารถสร้างสรรค์โอกาสยิงประตูให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างมากมาย โดยสโมสรมีฟอร์มการเล่นในบ้านที่แข็งแกร่งอย่างมากเมื่อชนะถึง 12 นัด จากการเล่นในบ้าน 19 นัดในลีก ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล โดยแฟนบอลของสโมสรจำนวนมากได้แสดงความนิยมในตัวเขาด้วยการสวมหมวกฏ็อรบูช (طربوش, ṭarbūsh) ซึ่งเป็นหมวกแบบอาหรับทรงสูง ลักษณะคล้ายหมวกกะปิเยาะ เข้ามาเชียร์ในสนาม

ฤดูกาล 2000-2001 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม แต่ถึงแม้ว่าฮัจญีซึ่งเป็นผู้เล่นคนสำคัญของสโมสรยังรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองไว้ได้ แต่ผลงานโดยรวมของสโมสรกลับไม่ดีนัก ในฤดูกาลนี้เขายิงในพรีเมียร์ลีกได้ 6 ประตูเท่ากับฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการบุกไปยิงคนเดียว 2 ประตู ใส่สโมสรแอสตันวิลลาถึงสนามวิลลาพาร์ก แต่สโมสรกลับแพ้ออกไป 3-2 และพบกับความพ่ายแพ้ในลีกถึง 20 นัด ตลอดทั้งฤดูกาล จนต้องตกชั้นในที่สุด

แอสตันวิลลา

หลังจากสโมสรของเขามีอันต้องตกชั้น ทำให้มีกระแสข่าวการย้ายทีมของเขาเกิดขึ้น ฮัจญีกลายเป็นเป้าสนใจจากทีมอื่น ๆ ทั้งในพรีเมียร์ลีกและบุนเดิสลีกา โดยเป็นสโมสรแอสตันวิลลาภายใต้การคุมทีมของจอห์น เกร็กกอรี อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ ที่สามารถคว้าตัวเขามาร่วมทีมได้ด้วยข้อเสนอมูลค่า 2 ล้านปอนด์ บวกกับการแถม จูเลียน โจอาคิม กองกลางของทีมไปให้กับคอเวนทรีซิตีด้วย

ฮัจญี ลงสนามให้สโมสรใหม่เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2001 ในนัดเปิดฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2001-2002 โดยสโมสรเปิดสนามวิลลาพาร์กพบกับสโมสรทอตนัม ฮอตสเปอร์ ซึ่งจอห์น เกร็กกอรี ผู้จัดการทีมได้ส่งเขาลงเล่นเป็นกองหน้าแทน ดาริอุส วาสเซลล์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษในช่วงครึ่งเวลาหลัง และเสมอกันไป 0-0[4]

ต่อมาเขายิงประตูแรกในเสื้อของวิลลาได้ ในวันที่ 24 กันยายน ในพรีเมียร์ลีกนัดที่บุกไปชนะสโมสรเซาท์แฮมป์ตัน ถึงสนามเซนต์แมรีส์สเตเดียม 3-1 โดยการแข่งขันนัดดังกล่าวเป็นนัดแรกที่เขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริง ก่อนจะได้เป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง

ต่อมาเขาทำประตูได้ในการแข่งขันยูฟ่าคัพรอบแรก นัดที่เอาชนะสโมสรเอ็นเค วาร์เทคส์ จากโครเอเชีย ไปได้ 1-0 แต่กลับต้องตกรอบแรกด้วยกฏการยิงประตูทีมเยือน และมาทำประตูได้อีกครั้งจากลูกโหม่งในพรีเมียร์ลีกนัดที่แพ้เอฟเวอร์ตัน 3-2 ที่กูดิสันพาร์ก[5]

ขณะที่ฮัจญี กำลังเป็นผู้เล่นตัวหลักของแอสตันวิลลา เขากลับได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหัวเข่าระหว่างการแข่งขันลีกคัพรอบ 16 ทีมสุดท้าย กับสโมสรเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2001 จนต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บนานกว่า 6 สัปดาห์[6] ในช่วงที่เขาพักรักษาตัวจอห์น เกร็กกอรี กุนซือผู้ที่นำตัวเขามาร่วมทีม ได้แยกทางกับสโมสรไปในเดือนมกราคม ปี 2002 โดยสจ๊วต เกรย์ และจอห์น ดีแฮน ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราว[7]

เมื่อฮัจญี หายจากอาการบาดเจ็บ กลับมาลงสนามให้วิลลาได้อีกครั้ง เขายังคงเป็นผู้เล่นตัวจริงในยุคของสจ๊วต เกรย์และจอห์น ดีแฮน 2 ผู้จัดการทีมชั่วคราว จนกระทั่งสโมสรได้แต่งตั้งให้เกรแฮม เทย์เลอร์ กุนซือชาวอังกฤษ เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของสโมสรในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้เขาไม่ได้รับการการันตีตำแหน่งผู้เล่นตัวจริงในทีมอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตามเขายังคงถูกส่งลงสนามเป็น 11 ผู้เล่นคนแรกไปจนจบฤดูกาล 2001-2002 โดยวิลลา ได้อันดับที่ 8 และฮัจญี ลงสนามในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไป 23 นัด ยิงได้ 2 ประตู

ฤดูกาล 2002-2003 ฮัจญี กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของเกรแฮม เทย์เลอร์ และต้องหลุดออกจากทีมชุดแรก นอกจากนี้เขายังมีปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวาย [8]โดยเขาได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เพียง 11 นัดตลอดทั้งฤดูกาล

ฤดูกาล 2003-2004 สโมสรได้แต่งตั้งให้เดวิด โอเลียรี เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่แทนเกรแฮม เทย์เลอร์ และฮัจญี ยังคงเป็นผู้เล่นที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมอีกเช่นเคย ปลายปี 2003 เขาปฏิเสธข้อเสนอของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด[9] และตัดสินใจย้ายไปเล่นในลาลิกาสเปนอีกครั้งกับสโมสรอัสปัญญ็อล[10]

อัสปัญญ็อล

ปลายเดือนมกราคม ค.ศ.2004 มุศเฏาะฟา ฮัจญี ย้ายมาร่วมทีมอัสปัญญ็อล ในระดับลาลิกาสเปน ภายใต้การคุมทีมของลูอิส แฟร์กน็องเดซ ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศส ที่สโมสรแห่งนี้ฮัจญีถือเป็นผู้เล่นคนสำคัญ โดยเขายิงประตูให้สโมสรได้ ในลาลิกานัดที่บุกไปเอาชนะสโมสรเซลต้า บีโก้ 5-1 ที่สนามบาไลดอส ซึ่งการแข่งขันนัดดังกล่าวเป็นการแข่งขันระหว่าง 2 สโมสรที่อยู่โซนหนีตกชั้น ทำให้สโมสรคว้า 3 แต้มสำคัญได้ และรอดพ้นจากการตกชั้นเมื่อจบฤดูกาล

อัลอัยน์

ฤดูกาล 2004-2005 ฮัจญี ย้ายมาเล่นฟุตบอลในลีกสูงสุดของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กับสโมสรอัลอัยน์ สโมสรดังแห่งรัฐอาบูดาบี โดยได้เล่นในรายการเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก และจบฤดูกาลด้วยการคว้ารองแชมป์ ยูเออี ฟุตบอลลีก

ซาร์บรึคเคิน

ฤดูกาล 2005-2006 ฮัจญีย้ายมาเล่นฟุตบอลที่ประเทศเยอรมัน ในระดับซไวเทอบุนเดิสลีกา (ลีกา 2) กับสโมสรซาร์บรึคเคิน ที่มีรูดี บอมเมอร์ เป็นโค้ช โดยลงสนามในลีกเป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ปี 2005 ในนัดที่เปิดสนามลุดวิกสปาร์ก แพ้ต่อสโมสรเฟาเอฟแอล โบคุ่ม 0-4 และมายิงประตูแรกของตัวเองได้ในนัดที่เสมอกับสโมสรบวร์กเฮาเซน 1-1 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2005

วันที่ 4 ธันวาคม 2005 มุศเฏาะฟา ฮัจญี ยิงคนเดียว 2 ประตู ในนัดที่บุกไปชนะสโมสรคิกเกอร์ส ออฟเฟนบัค 3-2 แม้เขาจะเล่นได้ดี แต่ผลงานโดยรวมของสโมสรกลับย่ำแย่ และตกชั้นเมื่อจบฤดูกาล โดยฮัจญียิงประตูจากตำแหน่งกองกลางในฤดูกาลนี้ได้ 4 ประตู

แหล่งที่มา

WikiPedia: มุศเฏาะฟา_ฮัจญี http://www.deportivo-la-coruna.com/profiles/pastpl... http://www.espnfc.com/story/282470/villas-hadji-re... http://www1.skysports.com/football/everton-vs-a-vi... http://www.transfermarkt.com/mustapha-hadji/leistu... http://www.avfc.co.uk/page/TV/LiveMatches/0,,10265... http://news.bbc.co.uk/sport2/hi/football/teams/a/a... http://news.bbc.co.uk/sport2/hi/football/teams/a/a... http://www.telegraph.co.uk/sport/3040599/Premiersh... http://www.telegraph.co.uk/sport/football/2429413/... https://bleacherreport.com/articles/1781781-the-50...