สโมสรอาชีพ ของ มุฮัมมัด_เศาะลาห์

เชลซี

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

โรมา

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

ลิเวอร์พูล

ฤดูกาล 2017-18

ในวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ได้ตกลงย้ายไปร่วมทีมลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 36.9 ล้านปอนด์ ทำลายสถิติการซื้อตัวของสโมสรที่เคยจ่ายให้กับ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ในการคว้าตัว แอนดี แคร์โรล กองหน้าร่างยักษ์ในราคา 35 ล้านปอนด์ (ราว 1,479 ล้านบาท) เมื่อปี 2011 เซ็นสัญญากับทีมเป็นเวลา 5 ปี และรับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 90,000 ปอนด์ (ประมาณ 4.05 ล้านบาท)[3] เขาได้รับมอบหมายให้สวมเสื้อหมายเลข 11 จาก โรแบร์ตู ฟีร์มีนู ที่เปลี่ยนไปเป็นหมายเลข 9[4] เขาจะเป็นนักเตะลิเวอร์พูลอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 เมื่อเปิดการซื้อขายนักเตะช่วงฤดูร้อน เขากลายเป็นผู้เล่นอียิปต์คนแรกของลิเวอร์พูล[5] ต่อมา ในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ประเดิมสนามให้ลิเวอร์พูลและทำประตูแรกในช่วงปรีซีซั่น ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ วีแกนแอธเลติก ที่ดีดับเบิลยูสเตเดียม 1-1[6] ต่อมา ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2017 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2017–18 เศาะลาห์ประเดิมสนามให้ลิเวอร์พูลนัดแรกเป็นทางการและทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ วอตฟอร์ด ที่วิคาริจโรด 3-3[7] ต่อมา ในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบเพลย์ออฟ นัดที่ 2 เศาะลาห์ทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮ็อฟเฟินไฮม์ จากเยอรมัน 4-2 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฮ็อฟเฟินไฮม์ 6-3 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[8] ต่อมา ในวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 4-0[9] ต่อมา ในวันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E เศาะลาห์ทำประตูที่ 2 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เซบิยา จากสเปน 2-2[10] ต่อมา ในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เบิร์นลีย์ 1-1[11] ต่อมา ในวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม 3-2[12]

ในวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ มารีบอร์ จากสโลวีเนีย 7-0[13] ทำให้ ลิเวอร์พูลสร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นทีมจากอังกฤษที่เอาชนะนอกบ้านในเกมยุโรปด้วยสกอร์ที่มากที่สุด[14] ต่อมา ในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ 1-4[15] ต่อมา ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E เศาะลาห์ทำประตูที่ 5 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ มารีบอร์ จากสโลวีเนีย 3-0[16] ต่อมา ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่ลอนดอนสเตเดียม 4-1[17] ต่อมา ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 3-0[18]

ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับทีมเก่าของเขา เชลซี 1-1[19] ต่อมา ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ลงสนามเป็นตัวสำรองและยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ สโตกซิตี ที่บริแทนเนียสเตเดียม 3-0[20] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ เศาะลาห์ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนพฤศจิกายนของพรีเมียร์ลีก[21] ต่อมา ในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E นัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ชนะก็จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม เศาะลาห์ทำประตูที่ 6 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สปาร์ตัคมอสโก จากรัสเซีย 7-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ[22] ต่อมา ในวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมืองเมอร์ซีย์ไซด์ 1-1[23] ต่อมา ในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 14 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัท ที่วิตาลิตี้ สเตเดียม 4-0[24] ต่อมา ในวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 15 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 3-3[25] ต่อมา ในวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี 2-1[26]

เศาะลาห์ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2018

ในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 18 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 4-3[27] ต่อมา ในวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2018 เอฟเอคัพ รอบสี่ เศาะลาห์ทำประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์พ่ายแพ้ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 2-3 ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องตกรอบ เอฟเอคัพ ไปในที่สุด[28] ด้วยประตูนี้ทำให้ เศาะลาห์ยิงไป 25 ประตูจาก 32 นัด ทำให้เขาเป็นนักเตะที่ทำประตูถึง 25 ประตูเร็วที่สุดในรอบ 102 ปี มีเพียง จอร์จ อัลเลน (1895-96) และเฟร็ด แพ็กแนม (1914-15) ที่ทำได้ด้วยจำนวนเกมน้อยกว่าเขาในประวัติศาสตร์ของสโมสร[29] ต่อมา ในวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 19 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ ที่สนามกีฬาจอห์นสมิท 3-0[30] ต่อมา ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-2[31] ต่อมา ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 22 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-0[32] ต่อมา ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เศาะลาห์ทำประตูที่ 7 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู จากโปรตุเกส 5-0 ด้วยประตูนี้ทำให้ เศาะลาห์ยิงไป 30 ประตูจาก 36 นัด ทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกของลิเวอร์พูลที่ยิงได้ 30 ประตูต่อหนึ่งฤดูกาล หลังจาก ลุยส์ ซัวเรซ เคยทำเอาไว้เมื่อฤดูกาล 2013-14 (31 ลูก) และทำให้เขาเป็นนักเตะที่ยิง 30 ประตูได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ 125 ปีของสโมสรเป็นอันดับ 2 มีเพียง จอร์จ อัลเลน (27 เกม) ที่ทำได้ไวกว่าเศาะลาห์ (36 เกม) ตามมาด้วย แดเนียล สเตอร์ริดจ์ (37), เฟร็ด แพ็คแนม (39) และเฟร์นันโด ตอร์เรส (42)[33] ต่อมา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 23 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-1[34] ต่อมา ในวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 24 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2-0[35] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ เศาะลาห์ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์ของพรีเมียร์ลีก[36] ต่อมา ในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำแฮตทริกครั้งแรกของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล โดย เศาะลาห์ยิง 4 ประตูในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 5-0[37] ต่อมา ในวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 29 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 2-1[38] ต่อมา ในวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เศาะลาห์ทำประตูที่ 8 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-0[39] ต่อมา ในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เศาะลาห์ทำประตูที่ 9 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม 2-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 5-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[40] เศาะลาห์กลายเป็นนักเตะลิเวอร์พูล ที่ยิงประตูต่อฤดูกาลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรตั้งแต่เข้าสู่ยุคพรีเมียร์ลีก หลังทำไปแล้ว 39 ประตูในทุกรายการ ทุบสถิติของ ร็อบบี ฟาวเลอร์ เคยทำไว้ 36 ลูก เมื่อฤดูกาล 1995–96 ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ เศาะลาห์ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนมีนาคมของพรีเมียร์ลีก และทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกที่คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีกได้ถึงสามครั้งในฤดูกาลเดียวกัน[41] ต่อมา ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 30 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-0[42] ต่อมา ในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 31 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน ที่เดอะฮอว์ทอนส์ 2-2[43]

ในวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ประจำฤดูกาล 2017-18 ส่งผลให้ เศาะลาห์เป็นนักเตะคนที่ 7 ของลิเวอร์พูล ที่ได้รับรางวัลนี้ถัดจาก ลุยส์ ซัวเรซ (2013-14), สตีเวน เจอร์ราร์ด (2005-06), จอห์น บาร์นส์ (1987-88), เอียน รัช (1983-84), เคนนี ดัลกลิช (1982-83) และเทอร์รี แม็คเดอร์ม็อตต์ (1979-80)[44] รวมทั้ง เศาะลาห์ยังได้ติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเออีกด้วย[45] ต่อมา ในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะทีมเก่าของเขา โรมา 5-2[46] ต่อมา เศาะลาห์คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวอังกฤษ (เอฟดับเบิ้ลยูเอ) ไปอีกหนึ่งรางวัล[47] ต่อมา ในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์คว้า 2 รางวัลของสโมสรลิเวอร์พูล ได้แก่ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ ในงานประกาศรางวัล Players' Awards 2018[48] ต่อมา เศาะลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2017-18 ต่อมา ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล 2017–18 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะเพื่อการันตีโควต้าพื้นที่ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เศาะลาห์ทำประตูที่ 32 ในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 4-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล จบอันดับที่ 4 และคว้าโควต้าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ[49] เศาะลาห์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 32 ประตูจาก 36 นัด ทำให้ เศาะลาห์สร้างสถิติยิงประตูมากที่สุดแซง อลัน เชียเรอร์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลุยส์ ซัวเรซ นับตั้งแต่ที่มีการแข่งแบบ 38 นัดต่อฤดูกาลและคว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครอง[50]

ในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2018 ลิเวอร์พูล เจอกับแชมป์เก่า เรอัลมาดริด ที่สนามโอลิมปิสกีเนชันแนลสปอตส์คอมเพล็กซ์ ในเคียฟ ประเทศยูเครน เศาะลาห์ได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่จากการปะทะกับ เซร์ฆิโอ ราโมส ทำให้ เศาะลาห์เล่นต่อไม่ไหวและต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงครึ่งแรก สุดท้าย ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เรอัลมาดริด 1-3 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก อย่างน่าเสียดาย[51]

ฤดูกาล 2018-19

ในวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล เป็นเวลา 5 ปี โดยในสัญญาฉบับใหม่ไม่มีการระบุเงื่อนไขการฉีกสัญญาเอาไว้ด้วย[52] ต่อมา ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2018 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2018–19 เศาะลาห์ทำประตูแรกในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-0[53] ต่อมา ในวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 1-0[54] ต่อมา ในวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 3-0[55] ต่อมา ในวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ ที่สนามกีฬาจอห์นสมิท 1-0[56] ต่อมา ในวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C เศาะลาห์ยิง 2 ประตูในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เรดสตาร์ เบลเกรด จากเซอร์เบีย 4-0[57] ทำให้ เศาะลาห์สร้างสถิติยิงประตูให้ลิเวอร์พูลครบ 50 ประตูรวมทุกรายการเร็วที่สุด ด้วยจำนวน 65 นัด ทุบสถิติของ อัลเบิร์ต สตั๊บบินส์ (77 นัด) ในช่วงปลายทศวรรษ 1940[58] ต่อมา ในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี 4-1[59] ต่อมา ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฟูลัม 2-0[60] ต่อมา ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วอตฟอร์ด ที่วิคาริจโรด 3-0[61] ต่อมา ในวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำแฮตทริกที่ 2 ของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัท ที่วิตาลิตี้ สเตเดียม 4-0[62] ต่อมา ในวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C นัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ชนะก็จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นาโปลี จากอิตาลิ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฐานะรองแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ[63] ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วูลฟ์แฮมตันวันเดอเรอส์ ที่สนามกีฬาโมลีนิวส์ 2-0[64] ต่อมา ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 4-0[65] ต่อมา ในวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 5-1[66]

ในวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 14 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ที่สนามกีฬาอเมริกันเอ็กซ์เพรสคอมมูนิตี 1-0[67] ต่อมา ในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 4-3[68] ต่อมา ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 17 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-0[69] ต่อมา ในวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 18 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 3-1[70] ทำให้ เศาะลาห์สร้างสถิติยิงประตูให้กับลิเวอร์พูลครบ 50 ประตู ในพรีเมียร์ลีก จาก 69 นัด เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ต่อมา ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 19 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะทีมเก่าของเขา เชลซี 2-0[71] ต่อมา ในวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู จากโปรตุเกส 4-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู 6-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[72] ต่อมา ในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ 5-0[73] ต่อมา ในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 22 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ที่เซนต์เจมส์พาร์ก 3-2[74]

ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และต้องลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ซิตี ไม่ชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ด้วย ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย ลิเวอร์พูล เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 2-0 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 4-1 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย[75] เศาะลาห์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 22 ประตูจาก 38 นัด ทำให้ เศาะลาห์คว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครองเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน ร่วมกับ ซาดีโย มาเน และ ปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ ต่อมา ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2019 ลิเวอร์พูล เจอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่วันดาเมโตรโปลิตาโน ในมาดริด, ประเทศสเปน เศาะลาห์ทำประตูด้วยลูกจุดโทษขึ้นนำ 1-0 สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ได้สำเร็จ[76]

ฤดูกาล 2019-20

ในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 2019 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2019–20 เศาะลาห์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอริชซิตี 4-1[77] ต่อมา ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019 ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 เจอกับ เชลซี แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2018–19 ที่สนามโวดาโฟนพาร์ก, อิสตันบูล ประเทศตุรกี สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 5-4 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ[78] ต่อมา ในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 3-1[79] ต่อมา ในวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 3-1[80] ต่อมา ในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E เศาะลาห์ยิง 2 ประตูในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค จากออสเตรีย 4-3[81] ต่อมา ในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม E เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เคงก์ จากเบลเยียม 4-1[82] ต่อมา ในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-1[83] ต่อมา ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-1[84] ต่อมา ในวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัท ที่วิตาลิตี้ สเตเดียม 3-0[85] ต่อมา ในวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E นัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ชนะก็จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค จากออสเตรีย 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ[86] ต่อมา ในวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 2-0[87] ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ ฟลาเม็งกู ตัวแทน คอนเมบอล ในฐานะแชมป์เก่าของ โกปาลิเบร์ตาโดเรส ที่สนามกีฬาแห่งชาติคาลิฟา ในโดฮา, ประเทศกาตาร์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟลาเม็งกู ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก สมัยแรกได้สำเร็จ[88] จากนั้น เศาะลาห์ได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยม The Golden Ball ประจำทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019

ในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด 2-0[89] ต่อมา ในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะคู่ปรับตลอดกาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2-0[90] ต่อมา ในวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่ลอนดอนสเตเดียม 2-0[91] ต่อมา ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 4-0[92] ต่อมา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 15 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 3-2[93] ต่อมา ในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ลงสนามนัดที่ 100 ในพรีเมียร์ลีก และทำประตูที่ 16 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 2-1[94]

ในวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 17 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 4-0[95] ต่อมา ในวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ที่สนามกีฬาอเมริกันเอ็กซ์เพรสคอมมูนิตี 3-1[96] จบฤดูกาล เศาะลาห์ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ[97]

ฤดูกาล 2020-21

ในวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2020 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2020–21 เศาะลาห์ทำแฮตทริกที่ 3 ของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020–21 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ลีดส์ยูไนเต็ด 4-3[98] ทำให้ เศาะลาห์เป็นนักเตะคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำประตูได้ในนัดเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 4 ซีซั่นติดต่อกันในฤดูกาล 2017–18 ถึง 2020–21 ต่อจาก เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม ที่ทำไว้ในฤดูกาล 1992–93 ถึง 1995–96 นอกจากนี้ เศาะลาห์เป็นนักเตะลิเวอร์พูลคนแรกที่สามารถทำแฮตทริกได้ในนัดเปิดฤดูกาลนับตั้งแต่ จอห์น อัลดริดจ์ ทำเอาไว้นัดเจอกับ ชาร์ลตันแอธเลติก เมื่อฤดูกาล 1988–89 ต่อมา ในวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ แอสตันวิลลา ที่วิลลาพาร์ก 2-7

ใกล้เคียง

มุฮัมมัด มุฮัมมัด เศาะลาห์ มุฮัมมัด บิน รอชิด อาล มักตูม มุฮัมมัด ซัยยิด ฏ็อนฏอวี มุฮัมมัด อัลบุคอรี มุฮัมมัด บิน ซัลมาน มุฮัมมัด อิบน์ อับดุลวะฮ์ฮาบ มุฮัมมัด อุมัร มุฮัมมัด อัลอิดรีซี มุฮัมมัด อับดุฮ์

แหล่งที่มา

WikiPedia: มุฮัมมัด_เศาะลาห์ http://www.chelseafc.com/teams/first-team/mohamed-... http://www.epfaegypt.com/en/egypt-qualify-for-the-... http://www.fifa.com/worldfootball/statisticsandrec... http://www.goal.com/en/match/egypt-vs-central-afri... http://www.goal.com/en/match/guinea-vs-egypt/12302... http://www.goal.com/en/news/3955/africa/2012/05/23... http://www.goal.com/en/news/815/2013-africa-cup-of... http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/f... http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/g... http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/l...