วัยเด็ก ของ มูนด็อก

ฮาร์ดินเกิดมาในครอบครัวที่นับถือศาสนาคริสนิกายเอพิสโคพาเลียน ในแมรี่วิลล์ รัฐแคนซัส เมื่ออายุได้ห้าปี เขาเริ่มตีกลองที่สร้างเองจากกระดาษกล่อง ครอบครัวของเขาย้ายถิ่นฐานไปอยู่เมือง ไวโอมิง และพ่อของเขาได้เปิดกิจการสถานที่ประกอบการค้าของบริษัทใหญ่ๆ ณ เมือง ฟอร์ท บริดเจอร์ ฮาร์ดินเรียนในโรงเรียนตามเมืองเล็กๆ สองสามแห่ง ครั้งหนึ่งพ่อของเขาได้พาฮาร์ดินไปร่วม งานทางศาสนาของชนเผ่าอินเดียนแดงนาม อาราพาโฮ ที่นั่นเขาได้นั่งบนตักของ หัวหน้าเผ่า (Chief Yellow Calf) และเล่นกลองชุดที่สร้างมาจากหนังควาย

ฮาร์ดิน เล่นกลองใน โรงเรียนมัธยมเฮอร์เล่ย์ ก่อนที่เขาจะสูญเสียการมองเห็นจาก อุบัติเหตุในฟาร์มที่เกิดขึ้นจากผงระเบิดไดนาไมท์ ขณะอายุได้สิบหกปี หลังจากที่เขาเรียนทฤษฎีดนตรีในโรงเรียนสำหรับคนตาบอดสองสามแห่งในภาคกลางของประเทศ ฮาร์ดินได้เรียนรู้การแต่งเพลงและฝึกการใช้หู (ear training) ด้วยตนเองถึงอย่างไรก็ตาม เขาก็ได้เรียนกับ เบอร์เน็ต ทัทฮิลล์ ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดโลวา ฮาร์ดินย้ายมาอยู่ที่ เมืองเบทส์วิลล์ รัฐ อาแคนซัส ที่ที่เขาใช้ชีวิตอยู่จนปี 1942 ปีที่เขาได้รับทุนเข้าศึกษาที่เมืองเมมฟิส รัฐ เทนเนสซี และถึงแม้ว่าเขาจะเรียนรู้เรื่องดนตรีด้วยหูของเขาเอง ที่นั่น ฮาร์ดินได้เรียน ทฤษฐีดนตรีจากหนังสืออักษรเบรลฮาร์ดินย้ายมานิวยอร์กในปี 1943 ที่ที่เขาได้พบกับ วาทยากรที่ย่งใหญ่ อย่างเช่น เลโอนาร์ด แบร์นสไตน์ และ อาร์ทูโร ทอสคาร์นีนี และเช่นเดียวกัน กับนักดนตรี นักแต่งเพลงแจ๊สในตำนาน อย่างเช่น ชาร์ลี ปาร์เกอร์ และเบนนี กู๊ดแมน ผู้ซ่งมีอารมณ์ขันในการแต่งเพลงและมีบทเพลงที่มีชีวิตชีวา กระฉับกระเฉง ซึ่งเขาเหล่านั้นจะเป็น ผู้มีอิทธิพลในงานยุคหลังๆของ ฮาร์ดิน