ยัสเซอร์ อาราฟัต (
อาหรับ: ياسر عرفات ยาซิร อะเราะฟาต; 24 สิงหาคม พ.ศ. 2472 — 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547) เป็นที่รู้จักในชื่อในการรบว่า
อะบู อัมมาร์ (
อาหรับ: ابو عمّار) ชื่อจริงคือ
โมฮัมหมัด อับดุล ราห์มาน อัลดุล ราอูฟ อาราฟัต อัล กุดวา (
อาหรับ: محمد عبد الرؤوف القدوة الحسيني) เป็นผู้นำชาวปาเลสไตน์ เป็นประธาน
องค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (PLO) ประธาน
องค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์ (PNA) และผู้นำ
ฟะตะห์ (Fatah) พรรคการเมืองและอดีตกลุ่ม
กำลังกึ่งทหารที่เขาก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2502
[2] อาราฟัตใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตในการต่อสู้อิสราเอลเพื่อการกำหนดการปกครองด้วยตนเองของปาเลสไตน์ แต่จากเดิมที่คัดค้านการมีอยู่ของอิสราเอล เขาเปลี่ยนท่าทีของตนใน พ.ศ. 2531 เมื่อเขายอมรับ
ข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 242 อาราฟัตและขบวนการของเขาปฏิบัติการจากหลายประเทศอาหรับ ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2503 และต้นปี พ.ศ. 2513 ฟะตะห์เผชิญหน้ากับจอร์แดนในสงครามกลางเมืองสั้น ๆ หลังถูกบังคับให้ออกจากจอร์แดนและเข้าไปในเลบานอน อาราฟัตและฟะตะห์เป็นเป้าสำคัญของอิสราเอลในการบุกครองเลบานอนใน พ.ศ. 2521 และ 2529 ทั้งสองครั้งอาราฟัตยังเป็นบุคคลที่เป็นที่ถกเถียงกันมาก ซึ่งมรดกของเขายังเป็นที่พิพาทกันอย่างกว้างขวาง เขา "ได้รับความเคารพนับถือจากชาวอาหรับจำนวนมาก" และชาวปาเลสไตน์ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะมีอุดมการณ์ทางการเมืองหรืออยู่กลุ่มแยกใดก็ตาม โดยมองเขาว่าเป็น นักสู้เพื่อเสรีภาพ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรารถนาชาติของพวกเขา อย่างไรก็ดี เขายังถูกบริภาษเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากชาวอิสราเอลจำนวนมาก ซึ่งมองว่าเขาเป็นผู้ก่อการร้ายที่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ระเบิดและการเสียชีวิตนับหลายร้อย
[3][4] นักวิจารณ์ยังกล่าวหาว่าอาราฟัตฉ้อราษฎร์บังหลวงขนานใหญ่ สั่งสมความมั่งคั่งส่วนบุคคลอย่างลับ ๆ ซึ่งประเมินกันว่ามีมูลค่าถึง 1,300 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ใน พ.ศ. 2545 แม้สภาพเศรษฐกิจของปาเลสไตน์จะตกต่ำลง
[5]ในช่วงหลัง อาราฟัตเข้าร่วมเจรจาหลายครั้งกับรัฐบาลอิสราเอลเพื่อยุติความขัดแย้งนานหลายทศวรรษระหว่างอิสราเอลกับองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ ซึ่งรวมถึงการประชุมมาดริดใน พ.ศ. 2534
ข้อตกลงกรุงออสโล พ.ศ. 2536 และ
การประชุมสุดยอดแคมป์เดวิด พ.ศ. 2543 คู่แข่งทางการเมืองของเขา รวมทั้งกลุ่มอิสลามและองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ฝ่ายซ้าย มักประณามเขาว่าทุจริต หรือยอมให้กับรัฐบาลอิสราเอลมากเกินไป ใน พ.ศ. 2537 อาราฟัตได้รับ
รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ร่วมกับ
ยิตซัค ราบินและ
ชิมอน เปเรส สำหรับการเจรจาที่กรุงออสโล ในช่วงนี้
ฮะมาสและกลุ่มพร้อมรบอื่น ๆ เถลิงอำนาจ และสั่นคลอนรากฐานของอำนาจที่ฟะตะห์ภายใต้การนำของอาราฟัตได้สถาปนาขึ้นในดินแดนปาเลสไตน์ปลาย พ.ศ. 2547 หลังถูกกักกันในบริเวณบ้านของเขาเป็นเวลากว่าสองปีโดยกองทัพอิสราเอล อาราฟัตก็ล้มป่วย โคม่าและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 อายุได้ 75 ปี สำหรับสาเหตุของอาการป่วยของเขานั้นยังมีการโต้เถียงกัน