การขยายระบบในปัจจุบัน
U6 (ทิศเหนือ): การปรับปรุงสถานีเฟริทมานิงต้องมีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินขนาดที่ใหญ่กว่านี้ในละแวกสนามกีฬา
อัลลิอันซ์อาเรนาใหม่ ชานชลาใหม่ที่ 2 ถูกสร้างขึ้น และชานชลาเก่าถูกย้ายไปทางเหนืออีกประมาณ 100 เมตร สะพานเดินข้ามได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อที่จะได้เข้าถึงชานชลาได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้างรางรถเพิ่มอีกด้วย เริ่มสร้างเมื่อ 10 ตุลาคม 2002 และเปิดให้บริการใน 4 พฤษภาคม 2005
U3/U6: การปรับปรุงสถานีมารีนพลัทซ์จากการเพิ่มขึ้นของการจราจรและการสร้างสนามกีฬา
อัลลิอันซ์อาเรนาใหม่ทำให้มีความจำเป็นจะต้องขยายสถานีนี้ ซึ่งเป็นสถานีเปลี่ยนรถขนาดใหญ่ จึงมีการสร้างอุโมงค์ทางเดินเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะให้มีการกระจายผู้โดยสารที่จะไปต่อรถ
S-Bahn. โดยสร้างขนานกับชานชลาที่มีอยู่แล้ว เริ่มสร้างเมื่อ 27 พฤษภาคม 2003 และเปิดให้บริการใน 29 พฤษภาคม 2006
U6 (ทิศเหนือ): ขยายเส้นทาง
การ์ชิง-โฮคบรึค - การ์ชิง - การ์ชิง-ฟอร์ชุงเซนทรุมการขยายครั้งนี้ผ่านเมืองการชิงซึ่งมี
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งมิวนิกวิทยาเขตการ์ชิงและสถาบันวิจัยอื่นๆตั้งอยู่ ให้เข้าถึงระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน เริ่มสร้างเมื่อ 2 เมษายน 2001 และเปิดให้บริการใน 14 ตุลาคม 2006
U3 (ทิศเหนือ): ขยายเส้นทาง
โอลึมเปียเซนทรุม - โอเบอร์วีเซนเฟลด์ - โอลึมเปีย-ไอน์เคาฟ์เซนทรุมเริ่มสร้างเมื่อ 5 มิถุนายน 2001 และเปิดให้บริการใน 28 ตุลาคม 2007
U3 (ทิศเหนือ): ขยายเส้นทาง
โอลึมเปีย-ไอน์เคาฟ์เซนทรุม - โมซาเคอร์ ซังค์-มาร์ตินส์-พลัทซ์ - โมซัคเริ่มสร้างเมื่อ 7 สิงหาคม 2004 และเปิดให้บริการใน 11 ธันวาคม 2010
การขยายระบบในอนาคต
U1 (ทิศใต้): ขยายเส้นทาง มังฟาลพลัทซ์ - เลารินพลัทซ์ - โรงพยาบาลฮาร์ลาคิงเป็นโครงการที่ค่อนข้างล่วงหน้าไปมาก และเนื่องจากมีการคาดการณ์ผู้โดยสารว่ามีไม่มาก จึงทำให้หยุดโครงการนี้และให้ใช้รถรางจากสถานีชวานเซชตราเซอแทน
U1 (ทิศเหนือ): ขยายเส้นทาง โอลึมเปีย-ไอน์เคาฟ์เซนทรุม - ฟาซาเนอรี (S) - เฟลด์มอคิง - ฮาเซนแบร์กึล นอร์ด
U3 (ทิศตะวันตก): ขยายเส้นทาง โมซัค - วาลด์ฮอร์นชตราซเซอ - อุนเทอร์เมนซิง (S)
U4 (ทิศตะวันออก): ขยายเส้นทาง อาราเบลลาพาร์ค - โคซิมาพาร์ค - ฟีเดลีโอพาร์ค - เองกึลชาลคิง (S)โครงการนี้มีขึ้นพร้อมกับการขยาย S-Bahn สาย S8 จากบนดินลงสู่ใต้ดินจากสถานีอุนเทอร์เฟอริง (S) จนไปถึง ลอยช์เทนแบร์กกริง (S).
U5 (ทิศตะวันตก): ขยายเส้นทาง ไลเมอร์พลัทซ์ - วิลลีบาลด์ชตราซเซอ - อัม คนี - พาซิง (S)แม้เส้นทางนี้จะได้รับการอนุมัติแล้ว แต่ก็ยังคงมีข้อถกเถียงกันอยู่ว่าจะมีประโยชน์มากเพียงใด เนื่องจากสายนี้จะวิ่งขนานกับ S-Bahn และรถรางสาย 19 โดยบางส่วนเห็นว่าการขยายโดยผ่าน บลูเมเนา โดยมีเพิ่มอีก 5-6 สถานี จะทำให้พื้นที่ที่ห่างไกลจาก S-Bahn เข้าถึงได้มากขึ้น
U6 (ทิศใต้): ขยายเส้นทาง คลีนิคุมโกรซฮาเดิร์น - มาร์ตินสรีดจะเริ่มสร้างปลายปี 2016 แล้วเสร็จในปี 2020
U6 (ทิศเหนือ): ขยายเส้นทาง การ์ชิง-ฟอร์ชุงเซนทรุม -
ฮาลแบร์กโมส -
ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิกU9 สายลัด: มาร์ตินสรีด - อิมเพลอชตราซเซอ - สถานีกลาง - พินาโคเทค - กีเซลาชตราซเซอ - การ์ชิง-ฟอร์ชุงเซนทรุมในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2014, SWM/MVG ได้ประกาศรายละเอียดการสร้างสายรถไฟทางลัดสายใหม่
[2] ซึ่งจะเรียกว่า U9 โดยสายนี้จะช่วยกระจานผู้โดยสารที่แน่นขนัดจากสาย U1/U2/U7/U8 และ U3/U6 โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สถานีเปลี่ยนรถอย่าง เซนดลิงเกอร์ ทอร์ (U1/U2/U7/U8 และ U3/U6), สถานีกลาง (U1/U2/U7/U8 และ U4/U5), และ โอเดออนพลัทซ์ (U3/U6 และ U4/U5), และจะช่วยร่นเวลาการเดินทางจาก สถานีกลาง และ สนามกีฬา
อัลลิอันซ์อาเรนา โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถไฟที่สถานีมารีนพลัทซ์หรือโอเดออนพลัทซ์อีกต่อไป มีการคาดการณ์ว่าสาย U9 จะมีผู้โดยสารรปีละ 10 ล้านคนโดยใช้งบประมาณ 250 ถึง 360 ล้านยูโรคาดว่าแล้วเสร็จในปี 2025 หากงบประมาณได้รับการอนุมัติ
U10: ฮาร์ทฮอฟ - มึนช์เนอร์ ไฟรไฮต์ - โอเดออนพลัทซ์ - เซนดลิงเกอร์ ทอร์ - ฮาราสเป็นสายกระจายผู้โดยสารสายที่ 3 สำหรับสถานีปลายทางยังไม่กำหนด
U11: โอลึมเปีย-ไอน์เคาฟ์เซนทรุม - เวสต์ฟรีดฮอฟ - สถานีกลาง - เซนดลิงเกอร์ ทอร์ - อินสบรูกเกอร์ ริงเป็นสายกระจายผู้โดยสารสายที่ 4 สำหรับสถานีปลายทางยังไม่กำหนด
U12: ฮาร์ทฮอฟ - เทเรซีนชตราซเซอ - สถานีกลาง - เทเรซีนวีเซอ - อิมเพลอชตราซเซอ - ฮาราสเป็นสายกระจายผู้โดยสารสายที่ 5