ระบบโทรศัพท์ดิจิทัล ของ ระบบโทรศัพท์

โทรศัพท์ระบบดิจิทัลได้ถูกปรับปรุงให้มีความสามารถในการทำงาน, มีคุณภาพและค่าใช้จ่ายของเครือข่ายดีขึ้นอย่างมาก เครือข่ายโทรศัพท์แอนะล็อกแบบ end- to-end มีการแก้ไขครั้งแรกในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 โดยการอัพเกรดเครือข่ายการส่งด้วยระบบขนส่งสัญญาณดิจิทัล 1 (DS1/T1) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนช่องเสียงขั้นพื้นฐาน 3 กิโลเฮิร์ทซ์ โดย การสุ่มตัวอย่างสัญญาณเสียงแอนะล็อกที่จำกัดแบนด์วิธและการเข้ารหัสโดยการใช้ Pulse-coded Modulation (PCM) ในขณะที่การแปลงให้เป็นดิจิทัลช่วยให้ได้เสียง wideband ในช่องความถี่เดียวกัน, คุณภาพที่ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นของช่องเสียงแอนะล็อกที่กว้างขึ้นไม่พบตลาดขนาดใหญ่ใน PSTN

ต่อมา วิธีการส่งเช่น SONET (Synchronous optical networking) เป็นการส่งผ่านใยแก้วนำแสงที่ทำให้การส่งผ่านดิจิทัลก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอีก แม้ว่าระบบการขนส่งแบบแอนะล็อกที่มีอยู่จะ multiplex ช่องความถี่เสียงแบบแอนะล็อกหลายช่องให้อยู่บนสื่อกลางการส่งเพียงตัวเดียวก็ตาม, การส่งดิจิทัลทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงและได้ช่องทางที่ถูก multiplexed บนสื่อกลางการส่งมากขึ้น วันนี้ อุปกรณ์ปลายทางมักจะยังคงเป็นแอนะล็อก แต่สัญญาณอนาล็อกโดยทั่วไปจะถูกแปลงให้เป็นสัญญาณดิจิตอล ณ พื้นที่ให้บริการอินเตอร์เฟซ (อังกฤษ: serving area interface หรือ SAI), หรือที่สำนักงานกลาง (อังกฤษ: central office หรือ CO) หรือที่ชุมสาย หรือที่จุดรวมสัญญาณอื่น ๆ อุปกรณ์ Digital loop carriers (DLC) เป็นเครือข่ายดิจิตอลที่ถูกวางใกล้ชิดกับสถานที่ของลูกค้ามากกว่าที่เคย, ผลักไส local loop แบบแอนะล็อกให้กลายเป็นตำนานไปเลย