ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ของ รัฐควิเบก

ดินแดนนี้ค้นพบและสร้างเป็นอาณานิคมฝรั่งเศสใหม่โดยฝรั่งเศส เนื่องจากฝรั่งเศสเป็นชาติแรกที่ค้นพบดินแดนแคนาดา แต่ภายหลังได้มีปัญหากับอังกฤษ ดินแดนนี้จึงถูกโอนไปเป็นของอังกฤษ และเมื่ออังกฤษให้เอกราชจึงถูกรวมไปกับประเทศแคนาดาโดยปริยาย

ชาวควิเบกซึ่งเรียกตัวเองว่า Québécois (อ่าน เกเบกัว, ภาษาอังกฤษเรียก Quebecer อ่าน ควิเบเกอร์) รักชาติกำเนิดของตัวเองมากและค่อนข้างเป็นชาตินิยม เห็นได้จากประโยคหนึ่งบนป้ายทะเบียนรถยนต์ทุกคันของรัฐนี้ คือ Je me souviens (= ฉันยังจำได้)

ประชากรร้อยละ 83 ใช้ภาษาฝรั่งเศส ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ควิเบกเป็นดินแดนที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสมากที่สุดของอเมริกาเหนือ และประกาศให้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการ (ส่วนภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการของประเทศแคนาดา)

นอกจากภาษาฝรั่งเศสแล้วยังมีการใช้ภาษาอื่นอยู่บ้างแต่ค่อนข้างน้อยมาก อย่างเช่นภาษาอังกฤษประมาณร้อยละ 8 ของประชากรควิเบก

ชาวควิเบกยังคงใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่และยังบังคับใช้กฎหมายให้ห้างร้านหน่วยงานของรัฐใช้เป็นภาษาหลัก ด้วยเหตุนี้ภาษาทางการของแคนาดาจึงมีสองภาษาดังที่กล่าวข้างต้น

ด้านศิลปวัฒนธรรมของที่นี่จะเป็นแบบฝรั่งเศส แต่ชาวควิเบกส่วนใหญ่มักดำเนินชีวิตแบบผสมผสาน ทั้งในแบบฝรั่งเศสและอังกฤษ เช่น เวลาอาหารเย็นของชาวควิเบกจะเป็นแบบอังกฤษ คือจะเริ่มรับประทานตั้งแต่ประมาณ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป แต่ก็นิยมดื่มกาแฟมากกว่าชา ชาวควิเบกบางส่วน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ยังนิยมรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดแบบอเมริกันด้วย

อย่างไรก็ดี ด้วยความเป็นชาตินิยมของชาวควิเบก ได้มีการเรียกร้องขอเอกราชเพื่อแยกประเทศออกจากแคนาดาอยู่หลายครั้งแต่ก็ต้องล้มเหลวเนื่องมาจากผลการลงประชามติ กล่าวกันว่า ด้วยเหตุที่ควิเบกเป็นรัฐที่ร่ำรวยมากของแคนาดาและมีเมืองมอนทรีออลซึ่งเป็นเมืองการค้าสำคัญที่กุมเศรษฐกิจในอเมริกาเหนือไว้ส่วนหนึ่ง หน่วยงานบางหน่วยของรัฐบาลกลางแคนาดาจึงใช้เงินในการจ้างและปล่อยโฆษณาชวนเชื่อให้ผู้อพยพต่างชาติที่พำนักในควิเบกให้โหวตว่าไม่ขอแยกจากประเทศแคนาดา

มอนทรีออลมหานครประเทศกลุ่มพูดภาษาฝรั่งเศสของทวีปอเมริกาเหนือ