ตัวละครรองภาคแรก ของ รายชื่อตัวละครในเพชรพระอุมา

ครูพราน

หนานอินพรานนำทางคู่ใจพรานชด ประชากร หรือ ม.ร.ว.อนุชา วราฤทธิ์ น้องชายคนกลางของตระกูลวราฤทธิ์ที่ละทิ้งฐานะอันเป็นราชนิกูล บุกป่าฝ่าดงเพื่อค้นหาขุมทรัพย์เพชรพระอุมาอันเป็นตำนานเล่าขาน อายุประมาณ 50 ปี[14] รูปร่างผอมบาง มีบ้องกัญชาติดตัวในย่ามอยู่ตลอดเวลา มีวิชาคาถาอาคมเก่งกล้าพอตัว ในอดีตหนานอินเคยบวชเณรและร่ำเรียนจนเป็นพระ เก่งทั้งทางโลกและทางธรรม แต่สึกออกมาเป็นพรานล่าสัตว์ในอายุเกือบ 30 ปี สถานภาพโสด ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งแน่นอน[15]เป็นคนช่วยชีวิตแงซายตอนเด็ก ๆ ให้รอดพ้นจากอันตรายในการตามล่าของสิงหราหนานไพรครูพรานของรพินทร์ ไพรวัลย์ อายุมากกว่าหนานอินประมาณ 4 - 5 ปี เป็นพรานลาวเซิงที่เก่งกาจในด้านวิชาพรานในการเข้าป่าล่าสัตว์ มีเวทมนตร์คาถาอาคมและไสยศาสตร์ ในอดีตเคยบวชเป็นเณรและพระธุดงค์ แต่บวชได้ไม่นานก็ต้องสึกจากเพศบรรพชิตมาเป็นพรานล่าสัตว์ดังเดิม ติดฝิ่นอย่างรุนแรง[16] หนานไพรเป็นคนเล่าตำนานขุมทรัพย์เพชรพระอุมาให้รพินทร์ฟังก่อนตายหลังจากได้รับบาดเจ็บจากกระทิงขวิดหนึ่งปี[17] เป็นคนสั่งสอนและถ่ายทอดวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ ให้แก่รพินทร์ รวมทั้งประสบการณ์ในการเดินป่าและอาถรรพณ์ของป่าที่หนานไพรเคยประสบมา

อาณาจักรนิทรานคร

มันตรัยราชปุโรหิตแห่งอาณาจักรนิทรานคร อายุประมาณ 50 ปี รูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าตอบ ผิวแห้งติดกระดูก นัยน์ตาลึกใหญ่ ศีรษะโล้นเลี่ยน นุ่งห่มร่างกายด้วยผ้าที่ย้อมเปลือกไม้สีคล้ำ สวมลูกปะคำห้อยคอ[18] มักใหญ่ใฝ่สูงในอำนาจวาสนา ต้องการครอบครองอาณาจักรนิทรานคร แอบหมายปองในตัวจิตรางคนางค์ มกุฎราชกุมารี พระธิดาในพระเจ้ามหิทธิเดชะ กษัตริย์ผู้ครอบครองอาณาจักรนิทรานคร รักษาพระเจ้ามหิทธเดชะด้วยการควักนัยน์ตาข้างหนึ่งของตนเองเพื่อปรุงยารักษา[19] แต่บังอาจกราบทูลขอจิตรงคนางค์เป็นการตอบแทน แต่ภายหลังที่จิตรางคนางค์สิ้นพระชนม์ด้วยยาพิษ กลับแปรเปลี่ยนมาหมายปองพันธุมวดี พระธิดาในกษัตริย์ชัยสุริยาแทนพันธุมวดีธิดากษัตริย์ชัยสุริยา กษัตริย์ผู้ครอบอาณาจักรนิทรานครลูกพี่ลูกน้องของจิตรางคนางค์ มกุฎราชกุมารี ลักษณะรูปร่างงดงามทั้งหน้าตาและกิริยา ไร้ซึ่งฝีมือทางด้านวิทยายุทธ แต่มีความสามารถทางด้านนาฏศิลป์และร่ายรำ ต่อมาได้รับการสถาปนาให้ดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมารีแห่งอาณาจักรนิทรานครเช่นเดียวกับจิตรางคนางค์ ที่ภายหลังสิ้นพระชนม์ด้วยยาพิษ[20] พันธุมวดีมีวรมันต์เป็นขุนพลคู่พระทัย คอยปกป้องภยันอันตรายต่าง ๆ รวมทั้งมันตรัย ราชปุโรหิตที่บังอาจเอื้อมหมายปองในตัวของพระองค์ ภายหลังอาณาจักรนิทรานครล่มสลายถูกฝังอยู่ภายใต้ผืนแผ่นดิน พันธุมวดีถูกมันตรัยจองจำดวงวิญญาณไว้และนำร่างบรรจุลงในโลงแก้ว บังคับให้กลายร่างเป็นค้าวคาวยักษ์คอยออกสูบเลือดในตอนกลางคืน[21]วรมันต์ขุนพลคู่พระทัยพันธุมวดี นางพญาแห่งอาณาจักรนิทรานคร เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ มีฝีมือทางด้านวิทยายุทธ ถูกมันตรัยสาปให้วิญญาณอยู่ภายในร่างของก็องกอย อาศัยอยู่ภายในป่ารอบอาณาจักรนิทรานครที่ล่มสลาย ลักษณะรูปร่างเหมือนเด็ก ใบหน้ามีขนาดเล็กแต่เหี่ยวย่นเช่นคนสูงอายุ ผิวคล้ำ จมูกแบนแฟบมองเห็นรูกลวงกลางใบหน้า ฟันด้านล่างครอบฟันในแถวด้านบนในลักษณะใบหอกสามซี่เรียงกัน มีเขี้ยวสองคู่ที่ริมฝีปาก นัยน์ตากลมโต ผมยาวเป็นกระเซิง ช่วงขายาวเรียวแต่แขนสั้นและเต็มไปด้วยขนรุงรัง ท้องป่อง มีกลิ่นเหม็นสาบคล้ายกลิ่นศพ เมื่อได้รับบาดเจ็บไม่มีเลือดออกจากบาดแผล[22]มีรอยเท้ากว้างประมาณ 3 นิ้ว ลักษณะคล้ายกับรอยเท้าลิงเคลื่อนไหวร่างกายด้วยการวิ่งเขย่ง[23]

หุบเขานิลกาญจน์

วายาเจ้าแห่งลิงผู้ปกครองฝูงลิงจำนวนมากภายในหุบเขานิลกาญจน์ อายุประมาณ 60 ปี รูปร่างสูงใหญ่ กำยำ ร่างกายปกคลุมด้วยเส้นขนสีดำปนน้ำตาล มีรูปร่างลักษณะคล้ายครึ่งคนครึ่งลิง ใบหน้าเรียวยาว หน้าผากสูง ริมฝีปากยื่นหนา กรอบตาลึก แผงอก หัวไหล่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ[24] วายาเป็นต้นตระกูลของเผ่าพันธุ์มนุษย์ชาติ นีแอนเดอร์ธอลส์ แมน เดิมมีมนุษย์อาศัยอยู่กับบิดามารดาภายในถ้ำเหนือยอดเขา แต่ถูกสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์เช่นไดโนเสาร์สามเขาบุกขึ้นไปทำร้าย บิดามารดาตายเหลือเพียงวายาเท่านั้นที่รอดชีวิต ลิงที่อาศัยในหุบเขานิลกาญจน์ สงสารวายาที่กำพร้าบิดามารดา จึงเก็บมาเลี้ยงและให้ดำรงตำแหน่งเจ้าแห่งลิงฤๅษีโกฑัญญะฤๅษีชาวเนปาลผู้บำเพ็ญเพียรและตบะ จนถึงขั้นได้ดวงตาเห็นธรรมบรรลุพระอรหันต์ บำเพ๊ญเพียรภาวนาด้วยระยะเวลากว่า 90 ปี จนร่างกายเปลี่ยนจากเนื้อหนังของมนุษย์กลายเป็นหิน มีเศษใบไม้และหยากไย่รุงรังปกคลุมร่างกาย ฤๅษีโกฑัญญะบำเพ็ญเพียรตบะอยู่เหนือยอดเขาภายในหุบเขานิลกาญจน์ และเป็นจุดศูนย์รวมความเคารพและความศัทธราของวายาและฝูงลิงในหุบเขานิลกาญจน์ ล่วงรู้ด้วยญาณวิเศษถึงอดีตและจุดมุ่งหมายในการเดินทางของแงซาย รวมทั้งอดีตชาติของรพินทร์และดาริน แงซายเป็นผู้พบฤๅษีโกฑัญญะโดยบังเอิญ ในขณะสำรวจรอบ ๆ บริเวณถ้ำของวายา ก่อนพารพินทร์ เชษฐา ดารินและทุกคนในคณะไปนมัสการ[25]และฝากตัวเป็นลูกศิษย์

มรกตนคร

เมยานีบุตรสาวเพียงคนเดียวของผู้เฒ่าอรชุน อดีตแขนขวาของกษัตริย์วิษณุพรหมนาถ กษัตริย์แห่งมรกตนคร อายุประมาณ 21-22 ปี รูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงเยี่ยงบรุษเพศ ใบหน้าคมเข้ม ผิวขาว นัยน์ตาคม ผมยาวดำเป็นมัน[26] เชี่ยวชาญเก่งกาจในทักษะด้านการต่อสู้บนหลังม้า และการใช้ศาสตราวุธทุกประเภท เช่น ดาบ ธนู ง้าว รวมถึงเล่ห์กลต่าง ๆ ในการรบ โดยได้รับการฝึกฝนจากอรชุนผู้เป็นบิดา เมยานีเป็นกำลังสำคัญในการรบแบบกองโจร ได้รับมอบหมายจากอรชุนให้เป็นผู้ไปรับตัวแงซายเมื่อเข้าเขตมรกตนคร ก่อนจะพามาหลบซ่อนตัว และร่วมมือกับแงซายและรพินทร์ ไพรวัลย์ พร้อมด้วยทุกคนในคณะเดินทาง กอบกู้ราชบัลลังก์คืนจากสิงหราชและรหัสยะ ภายหลังได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นราชินีแห่งมรกตนครอรชุนอดีตนายทหารเอกเบื้องซ้ายคนสำคัญของกษัตริย์วิษณุพรหมนาถ กษัตริย์แห่งมรกตนคร เป็นชายสูงวัย ผมขาวเป็นดอกเลาทั่วทั้งศีรษะ นัยน์ตาเป็นประกายแวววาวแจ่มใส ปราดเปรียว แข็งแรง สง่างามตามแบบชายชาติทหาร ที่เต็มไปด้วยพละกำลัง อำนาจและความเฉียบขาด[27] อรชุนมีบุตรสาวคนเดียวคือเมยานี และมีความสามารถทางด้าน โหราศาสตร์ และดาราศาสตร์ ตามที่ได้ร่ำเรียนวิชาจากจากมหาปุโรหิตประจำราชวงศ์เทพแห่งอาณาจักรมรกตนคร จนเก่งกล้าสามารถอ่านฤกษ์ยามและดวงดาวบนท้องฟ้าได้ทุกดวง[28] สามารถล่วงรู้ถึงการมีชีวิตอยู่และกลับมายังมรกตนครของแงซาย จึงมอบหมายให้เมยานีผู้เป็นบุตรสาว ออกไปรับตัวแงซายก่อนที่กองทัพของรหัสยะจะไปถึงรหัสยะพระอนุชาของกษัตริย์สิงหรา กษัตริย์แห่งมรกตนคร ที่แย่งชิงราชบัลลังก์จากกษัตริย์วิษณุพรหมนาถ เป็นชายฉกรรจ์ รูปร่างล่ำสัน แข็งแรง มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่คล้ายกับรอยแผลที่เกิดจากดาบ พาดผ่านปลายดั้งจมูกลงมาถึงมุมขากรรไกรด้านขวาของใบหน้า นัยน์ตาลุกโพลงและแข็งกระด้าง ไว้หนวดเครา หน้าตาเหี้ยมโหดและดุร้าย[29] รหัสยะดำรงตำแหน่งอุปราชแห่งมรกตนคร เป็นผู้จับกุมตัวรพินทร์ ไพรวัลย์ เชษฐา วราฤทธิ์ ดาริน วราฤทธิ์และทุกคนในคณะเดินทางเป็นเชลย นำไปคุมขังไว้ภายในคุกใต้ดินรวมกับอนุชา วราฤทธิ์และหนานไพร ภายหลังแงซายท้าทายรหัสยะให้ต่อสู้ด้วยจนกระทั่งตายในสนามรบกุตะมะอดีตนายทหารเอกเบื้องขวาคนสำคัญของกษัตริย์วิษณุพรหมนาถ กษัตริย์แห่งมรกตนคร คู่กับอรชุน เป็นชายสูงวัย ผมขาวเป็นดอกเลาทั่วทั้งศีรษะ เป็นหม้ายเนื่องจากภรรยาตาย ไม่มีบุตรไว้สืบสกุล[30] กุตะมะเคยเป็นอดีตเพื่อนรักของอรชุน และรักเอ็นดูเมยานีราวกับบุตรสาว รวมถึงการถ่ายทอดวิชาการต่อสู้ให้ ระหว่างเกิดการแย่งชิงราชบัลลังก์ของสิงหรา กุตะมะทรยศกษัตริย์วิษณุพรหมนาถและอรชุน โดยอ้างว่ามีผู้เอาดาบมาจ่อคอบิดามารดาของตนเพื่อบังคับให้ทรยศ และกลายมาเป็นนายทหารเอกคนสำคัญของกษัตริย์สิงหรา ภายหลังกุตะมะยอมทรยศสิงหรา ซ้อนแผนเปลี่ยนฝ่ายเพื่อช่วยเหลืออรชุนกอบกู้ราชบัลลังก์คืนแก่แงซาย และตายด้วยคมหอกขณะออกรบเคียงข้างจักราชในเวลาต่อมาวาชิกาแม่มดชราผู้เรืองเวทย์ เก่งกล้าทางด้านคาถาอาคม สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าในอนาคตอย่างแม่นยำ แต่เดิมวาชิกาเป็นหญิงสาวพรหมจรรย์ ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์แห่งมรกตนครมาโดยตลอด จนถึงสมัยของกษัตริย์วิษณุพรหมนาถ วาชิกาไม่สามารถยับยั้งร่องรอยการเหี่ยวย่นและความชราของตนเองได้ จำเป็นจะต้องใช้เลือดของหญิงสาวพรหมจรรย์หล่อเลี้ยงร่างกายอาทิตย์ละครั้ง เพื่อให้คงสภาพร่างกายไว้ แต่กษัตริย์วิษณุพรหมนาถไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่โหดร้าย จึงถูกสิงหรากำจัดและแย่งชิงราชบัลลังก์ภายใต้ความเห็นชอบและยุยงของวาชิกา ภายหลังแงซายแย่งชิงราชบัลลังก์กลับคืนมาได้ และได้เผาทำลายร่างชราของวาชิกาด้วยผ้าเปื้อนเลือดประจำเดือนของหญิงพรหมจรรย์คนหนึ่งในมรกตนครนั้นเอง โดยพรานบุญคำเป็นคนไปหามา[31]

ใกล้เคียง

รายชื่อตอนในยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (แอนิเมชัน) รายชื่อสถานีรถไฟ สายใต้ รายชื่อสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย รายชื่อสัตว์ รายชื่อตอนในวันพีซ (อนิเมะ) รายชื่อเขตของกรุงเทพมหานคร รายชื่อตัวละครในวันพีซ รายชื่อตัวละครในดาบพิฆาตอสูร รายชื่อสมาชิกบีเอ็นเคโฟร์ตีเอต รายชื่อตัวละครในนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ