ละครโทรทัศน์

ณเดชน์เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 อย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2551 และสัญญามีผลเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2552[1] (ระยะเวลา 9 ปี) [2] ซึ่งณเดชน์ได้ประเดิมการแสดงละครโทรทัศน์ โดยมีผลงานเรื่องแรกคือ "เงารักลวงใจ" ในบทบาทของพระรองชื่อ "นาวา" [3]โดยการพิจารณาเลือกณเดชน์เข้ามาแสดงในบทบาทนี้ "ยศสินี ณ นคร" ผู้จัดละครแห่ง บริษัท เมคเกอร์ วาย กรุ๊ป จำกัด กล่าวไว้ว่า "เพราะ นาวาต้องนั่งรถเข็นเกือบครึ่งเรื่อง ดังนั้นต้องแสดงด้วยสีหน้า แววตาและคำพูด ไม่ได้มีท่าทางในการช่วงแสดง ซึ่งด้วยหน้าตา โครงหน้าของณเดชน์ ถือว่าแข็งแรงและดึงดูดได้" หลังจากนั้นเขาก็ได้มีผลงานละครต่อเนื่องในโปรเจกต์ใหญ่ "4 หัวใจแห่งขุนเขา" ละครชุดฉลองครบรอบ 40 ปีไทยทีวีสีช่อง 3 โดยครั้งนี้ณเดชน์รับบทเป็นพระเอกเต็มตัวครั้งแรกในตอนที่มีชื่อเรื่องว่า "ดวงใจอัคนี" โดยรับบทเป็น "อัคนี อดิศวร" หรือ "ไฟ" ประกบคู่กับ "อุรัสยา เสปอร์บันด์" ที่รับบทเป็น "อัจจิมา พศวัต" หรือ "จี๊ด" รวมถึงเป็นนักแสดงร่วมคู่กันต่อใน "วายุภัคมนตรา" ของละครชุดนี้ด้วย[4]

ละครเรื่องดวงใจอัคนี เป็นผลงานที่ทำให้ณเดชน์มีชื่อเสียงโด่งดัง ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง[5] จนได้รับฉายา "ซุปตาร์พันธุ์ข้าวเหนียว" จากสมาคมนักข่าวบันเทิง ประจำปี 2553[6] ความนิยมของละครเรื่องนี้ ส่งผลให้ณเดชน์และอุรัสยา ได้แสดงนำคู่กันต่อในเรื่องถัดไป 2 เรื่องได้แก่ เกมร้ายเกมรัก และธรณีนี่นี้ใครครอง ตามลำดับ[7] ซึ่งเรื่องธรณีนี่นี้ใครครอง ณเดชน์ก็ยังได้ร้องเพลงประกอบละครของตนเอง เป็นครั้งแรกอีกด้วย ชื่อเพลง "ให้รักมันโตในใจ" [8]เป็นผลงานที่ณเดชน์ประเมินคะแนนการร้องให้ตนเองเพียง 5 เต็ม 10[9] รวมทั้งได้รับการกล่าวขานและยกย่องจากประชานิยม สื่อบันเทิงต่าง ๆ[10] ให้เป็นพระนางคู่ขวัญร่วมกัน[11] นอกจากนี้ณเดชน์และอุรัสยา ยังได้รับรางวัลเกียรติยศส่งเสริมภาพลักษณ์ และผลงานจากสื่อมวลชนหลายสำนัก [12] ในปี พ.ศ. 2561 ณเดชน์ได้แสดงภาพยนตร์ "นาคี ๒" ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของช่อง 3

รายชื่อละครโทรทัศน์

ละครโทรทัศน์ทั้งหมดด้านล่างนี้ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3

ภาพยนตร์

โฆษณา

ผลงานโฆษณาทางวิทยุโทรทัศน์ ชิ้นแรกของณเดชน์ที่ได้รับคือ หมากฝรั่ง Trident คู่กับ "พัชราภา ไชยเชื้อ" ก่อนที่ณเดชน์จะเข้ามาแสดงละครโทรทัศน์ ในฐานะนักแสดงอย่างเต็มตัว ตามมาด้วย ครีมอาบน้ำ โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ โชกุบุสซึ เป็นชิ้นที่สอง[13] และเมื่อณเดชน์มีชื่อเสียงจากผลงานละครโทรทัศน์ ทำให้ณเดชน์ได้เป็นผู้นำเสนอโฆษณาสินค้าต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมากมาย[14] โดยเจ้าของสินค้าต่าง ๆ ได้กล่าวเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการเลือกณเดชน์มานำเสนอ อาทิเช่น มินิทเมด พัลพิ โดยมีจุดมุ่งหมายต้องการให้สื่อถึงกลุ่มเป้าหมายคือ คนรุ่นใหม่ คนทำงาน และครอบครัว[15] ว่า "เพื่อใช้ภาพลักษณ์ของณเดชน์ ในการตอกย้ำความแข็งแกร่งของตราสินค้าในฐานะผู้นำตลาด" เครื่องดื่มชาเขียว โออิชิ ฟรุตโตะ ก็ได้ชี้แจงเหตุผลที่ใกล้เคียงกันว่า "ณเดชน์ คูกิมิยะ มีภาพลักษณ์และสามารถเชื่อมโยงถึงกลุ่มเป้าหมายของสินค้า คือกลุ่มวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี สามารถใช้ความหล่อ ทะเล้น กวน ถ่ายทอดออกมาในภาพยนตร์โฆษณาได้ ตรงกับคอนเซปต์ของโออิชิ ฟรุตโตะ ที่เป็นชาเขียวแท้ผสานผลไม้สายพันธุ์อารมณ์ดี" ทางด้านบริษัทรถยนต์ มาสด้า 2 ซีดาน ซึ่งต้องการขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้นกว่าเดิมให้เหตุผลว่า "กลุ่มผู้ที่ถูกใจในรูปลักษณ์สปอร์ต ทันสมัย ขยายออกไปสู่กลุ่มผู้ที่มองในเรื่องความสามารถของรถ ผ่านการสร้างการรับรู้ถึงรายละเอียด คุณสมบัติ และฟังก์ชันต่างๆ ของรถ โดยเสนอผ่าน "ณเดชน์ คูกิมิยะ" ซึ่งสามารถเป็นตัวแทนของลูกค้ามาสด้า 2 ซีดาน ซึ่งก็คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอล เอจ (Digital Age)"

ส่วนสินค้าที่คัดเลือกโดยใช้จุดขายจากท้องถิ่นเกิดภาคอีสานของณเดชน์เจาะกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัด อย่างทรูมูฟ ธุรกิจให้บริการเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ มีจุดประสงค์คือ "เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวให้เห็นถึงวิถีชีวิต ความฝัน และความต้องการในฐานะตัวแทนลูกอีสานคนหนึ่ง ที่มีความภูมิใจในความเป็นอีสาน และประสบความสำเร็จตามความใฝ่ฝันของตนเอง"[16] อติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บอกถึงความสำเร็จจากการทำภาพยนตร์โฆษณาทรูมูฟ ซิมฮักกัน ในปีที่แล้วว่า ส่งผลให้มีบริษัทมีฐานลูกค้าขยายเพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นที่น่าพอใจ จึงได้ต่อสัญญาณเดชน์เป็นปีที่สองติดต่อกันทันที[17] รวมทั้งวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายโฆษณาและส่งเสริมการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้กล่าวว่าเลือกณเดชน์ มาเป็นผู้นำเสนอโฆษณา เนื่องจาก ปีที่แล้วทางบริษัททำโฆษณาโดยใช้สโลแกนว่า "We Love Fino" ซึ่งให้ดาราแต่ละคนพูดถึงฟีโน่ในมุมมองของตนเองโดยไม่มีบท ซึ่งก่อนหน้านี้ณเดชน์ได้ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อนี้ เป็นพาหนะเดินทางไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ในการนำเสนอณเดชน์ได้ใช้การพูดภาษาอีสาน เวลาถ่ายทำสกู๊ปก็ได้ใช้รถของณเดชน์เอง เปลี่ยนแค่หมวกเก่า ๆ ของณเดชน์ มีความตอนหนึ่งว่า "สิ่งที่เราได้ก็คือความเป็นธรรมชาติ ผู้บริโภคสมัยนี้ถ้าพรีเซ็นเตอร์โกหก หรือมัวแต่เก๊ก เขาดูออก สำหรับโฆษณาฟีโน่ ณเดชน์ไม่ใช่ดาราแต่เป็นตัวของเขาเอง"[18] รวมถึงหนังโฆษณาหลายเรื่อง ที่ได้แสดงคู่กับ "อุรัสยา เสปอร์บันด์" ซึ่งมีชื่อเสียงจากการแสดงนำคู่กันในละครโทรทัศน์[19]อาทิเช่น เลย์, มิสทิน และยำยำ จัมโบ้ เป็นต้น[20] โดยมีโฆษณาแรกเริ่มจาก นมโฟรโมสต์ เพื่อรณรงค์ให้คนไทยดื่มนมมากขึ้น ภายใต้สโลแกน "สุขภาพดี 24 ชั่วโมง" เลือกให้เป็นผู้นำเสนอร่วมกัน แต่ยังไม่ได้แสดงด้วยกัน[21] สินค้าตัวแรกที่นำเสนอคู่กันคือมันฝรั่งทอดกรอบเลย์ ด้านวรวรรณ ไชยกำเนิด ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของเลย์ เล่าถึงการที่เลือกณเดชน์และอุรัสยา เพราะทั้งคู่สนิทสนมมีมิตรภาพของความเป็นเพื่อนและพี่น้อง โดยกล่าวถึงผลตอบรับดังนี้ "ถ้าดูจากกระแสตอบรับจากผู้ชม และผู้บริโภคของเลย์ก็ต้องบอกว่าส่งผลดีค่ะ เนื่องจากเลย์เป็นแบรนด์แรก ที่นำน้องทั้งสองคนมาเป็นพรีเซนเตอร์คู่กัน ทำให้ทั้งแฟนคลับและคนที่ชื่นชอบ ติดตามผลงานของน้องทั้งสองคนมาติดตามและบริโภคเลย์ ทำให้แบรนด์เลย์เป็นที่จดจำและอยู่ในใจผู้บริโภคได้มากขึ้น"[22] ไปจนถึงนาฬิกาโซวิล เอ ติตัส (Solvil et Titus) ที่ณเดชน์และอุรัสยาได้รับเลือกให้เป็นคู่แรกของประเทศไทย[23]เอกศักดิ์ ตั้งสุจริตพันธ์ รองประธานฝ่ายการตลาด บริษัท เอไอเอ ประเทศไทย จำกัด ให้เหตุผลการตัดสินเลือกณเดชน์เป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ อนึ่งใจความว่า "เรามองว่าการใช้ ณเดชน์ หรือพรีเซนเตอร์ท่านอื่นๆ จะช่วยสื่อถึงคีย์เมสเซจของผลิตภัณฑ์ได้ชัดเจน สร้างการรับรู้ และทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ กระแสความนิยม รวมทั้งบุคลิกความเป็นตัวณเดชน์เองก็ยังทำให้ภาพลักษณ์ของประกันชีวิตดูเทรนดี้และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคหมู่มากได้"[24]

จากภาพลักษณ์ในแวดวงโฆษณา ณเดชน์ได้รับตำแหน่ง "เจ้าพ่อพรีเซ็นเตอร์" ของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2554[25] อย่างเป็นทางการจากสำนักข่าว เอเอสทีวีผู้จัดการ [26] ได้รับรางวัล ขวัญใจพรีเซนเตอร์ จากงาน Star Party TV Pool Award 2011 (ฉลองครบรอบ 22 ปี นิตยสารทีวีพูล) ทำสถิติผลงานโฆษณาสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 1 จาก 10 อันดับแรกของดาราที่มีผลงานรายได้รวมจากงานโฆษณา ประจำปี 2554 โดยนิตยสาร Request ฉบับเดือน กันยายน พ.ศ. 2554 [27] อันดับที่ 1 จาก 10 ดาราสุดฮอต เจ้าพ่อเจ้าแม่พรีเซนเตอร์ โดยเว็บไซต์สนุกดอตคอม [28] ได้รับการกล่าวขานให้เป็นปรากฏการณ์ "ณเดชน์ฟีเวอร์"[29]และ "โปรดักต์แชมเปี้ยน" หัวข้อ ถอดรหัส "ณเดชน์ โมเดล" จากนิตยสารวิเคราะห์ด้านการตลาด Positioning [30] และถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 12 คนบันเทิงรวย ผู้ทรงอิทธิพลครึ่งปีแรก 2555 ด้วยโฆษณาจำนวน 50 ตัว โดยนิตยสาร Request[31]ทำสถิติสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของดาราชายที่มีรายได้จากงานโฆษณามากที่สุด 80 ล้านบาท ประจำปี 2555 อีกเช่นกันต่อเนื่องจากปี 2554[32]

เพลง

คอนเสิร์ต

งานด้านสังคม กิจกรรมรณรงค์ส่งเสริม และการกุศล

รายชื่อผลงานและรางวัลทางด้าน สังคม การเป็นพรีเซ็นเตอร์รณรงค์ในกิจกรรมต่างๆ ที่ณเดชน์ได้ปฏิบัติทั้งของทางภาครัฐและเอกชน โดยกิจกรรมเพื่อสังคมที่ณเดชน์มีส่วนร่วม มีดังต่อไปนี้

ณเดชน์ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของ 1 ใน 12 สมาชิกโครงการ "คนหล่อขอทำดี ปีที่ 3" เข้าร่วมดูแลและอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยขยายวงครอบคลุมต่าง ๆ ได้แก่ ผืนป่า สัตว์ป่า และท้องทะเล โดยได้ปฏิบัติภารกิจที่มีชื่อว่า "อนุรักษ์ฝูงพะยูนที่ทะเลใต้" ซึ่งโครงการนี้จัดขึ้นโดยนิตยสาร สุดสัปดาห์[33]

สภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรมและองค์กรทางพระพุทธศาสนา ได้จัดพิธีมอบรางวัลศิลปินคุณธรรม ประจำปี 2554 ให้กับ 87 บุคคลสำคัญเนื่องในวันวิสาขบูชา โดยการจัดงานครั้งนี้ณเดชน์ เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับเกียรติบัตรจากรางวัล "บุคคลผู้มีคุณธรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา"[34] ต่อมาณเดชน์ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนติดต่อกันเป็นครั้งที่สองจาก 1 ใน 17 คน ของกิจกรรม "คนหล่อขอทำดี ปีที่ 4" โดยได้รับภารกิจ "ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขันด้วยหนังสือ" ร่วมกับ "พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี"[35] และเป็นคณะทูตของโครงการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งเต้านม ประจำปี 2554 ซึ่งจัดขึ้นโดย สภากาชาดไทย[36]ณเดชน์และครอบครัว ร่วมบริจาคเงินทำบุญเนื่องในวันแม่แห่งชาติ 50,000 บาท สนับสนุนโครงการผ่าตัดเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ของศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย[37]

การตรวจคัดเลือกทหารกองเกินเพื่อเข้ารับราชการทหาร ประจำปี 2555 ทางกองทัพบก ได้รับเลือกให้ณเดชน์เป็นพรีเซ็นเตอร์ รณรงค์เชิญชวนชายไทยคัดเลือกทหาร[38] โดยใช้สโลแกนว่า "หัวใจของดารา คือ ศรัทธาของประชาชน หน้าที่ชายไทยทุกคน คือ การไปแสดงตน เพื่อเข้ารับการตรวจเลือกทหาร"[39]เรื่องราวอัตชีวประวัติจิปาถะต่าง ๆ ของณเดชน์ได้ถูกเขียนในหนังสือ "ณเดชน์ในดวงใจ" โดยมารดาบุญธรรมสุดารัตน์ คูกิมิยะ และณเดชน์ได้เล่าถึงมุมมองที่มีต่อผลงานการเขียนชิ้นแรก ของสุดารัตน์ด้วย จำหน่ายครั้งแรกในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 40 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม รายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว ทั้งสุดารัตน์และณเดชน์นำไปบริจาคให้กับ 4 องค์กรการกุศล อันได้แก่ ครงการผ่าตัดเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี แผนกโรคหัวใจ โรงเรียนขยายโอกาสบ้านนายูง ตำบลนายูง อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี และโรงเรียนขยายโอกาสบ้านบุ่งหมากลาน ตำบลปะโค อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี[40] กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน จัดงานแถลงข่าวโครงการ "พลังงานสร้างชีวิต พลังความคิดสร้างชาติ" โดยมีณเดชน์เป็นแอมบาสเดอร์ของโครงการนี้[41] และในปีเดียวกันนี้ก็ได้เป็น 1 ใน 13 ศิลปินชายผู้ปฏิบัติภารกิจของโครงการ "คนหล่อขอทำดี ปีที่ 5" ภายใต้ชื่อกิจกรรม "รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์" อีกครั้ง[42]ณเดชน์ได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรการศึกษา ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แนะแนวนักเรียนที่ร่วมโครงการ "บัณฑิตน้อยแบงคอค" ต่อการเตรียมตัวเพื่อสอบแข่งขันเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 26 เมษายน ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย[43][44]วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ณเดชน์ร่วมงานกิจกรรม "ปฏิบัติการเคลียร์ลึกคูซอยพิพัฒน์ คืนความสะอาด..ป้องกันน้ำท่วมฯ" ร่วมกับ สำนักงานเขตบางรัก พร้อมด้วยกลุ่มจิตอาสา ร่วมกันขุดลอกทำความสะอาดคลองในซอยพิพัฒน์ หรือซอยสีลม 5 ที่หน้าอาคาร ยูไนเต็ด ย่านสีลม[45]เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ณเดชน์เดินทางไปเป็นวิทยากรแนะแนวการศึกษา "คณะที่ใช่เรา" โดยมหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับสถานศึกษาในจังหวัดศรีสะเกษ ช่วงเช้าที่ โรงเรียนขุขันธ์ และช่วงบ่าย โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย[46]สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มีการมอบรางวัล ในการจัดงานวันแม่แห่งชาติ ปี 2555 ณเดชน์ได้รับรางวัลลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ จาก 1 ใน 85 คนประเภท นักร้อง นักแสดง ศิลปิน[47] โดยเข้ารับพระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ที่อาคารใหม่ สวนอัมพร[48] ณเดชน์ถูกรับเลือกจากสภากาชาดไทย ให้ทำหน้าที่เป็นทูตรณรงค์เผยแพร่ความรู้มะเร็งเต้านม ประจำปี 2555 ติดต่อกันอีกครั้ง[49]ได้เป็นทูตมูลนิธิรามาธิบดีฯ โครงการ "คำว่าให้...ไม่สิ้นสุด" รณรงค์ร่วมบริจาคเงินสร้างศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะ โรงพยาบาลรามาธิบดี และมีการนำเสนอออกอากาศในรูปแบบของภาพยนตร์โฆษณา[50]ณเดชน์และครอบครัวได้จัดงานมหากฐินประจำปีของตระกูลคูกิมิยะ คืองานทอดกฐินพระราชทานสร้างโบสถ์วิหาร เจดีย์ ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น เป็นการถวายพระมหากฐินประทานเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้ผลิตร่มที่พิมพ์ชื่อลายเซ็น โดยนำรายได้เป็นเงินทำบุญให้แก่วัด จัดขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายน[51] ได้ยอดเงินทำบุญจากประชาชนที่มาร่วมงานสูงถึง 4,174,277 บาท[52] ซึ่งงานทอดกฐินในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ คนหล่อขอทำดี ปี 5 ด้วย แรกเริ่มวางแผนโครงการสร้างบ้านดิน เพราะประสบกับปัญหา ลม ฟ้า อากาศ[53]

วันที่ 18 พฤษภาคม ที่ตำหนักสมเด็จฯ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ ณเดชน์เข้ารับรางวัล "ศิลปินครอบครัวพุทธมามกะ" เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี 2556 โดยรางวัลดังกล่าวพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการโครงการรวมดวงใจศิลปินเพื่อพระพุทธศาสนาแห่งชาติ[54] อีกทั้งยังได้รับการแต่งตั้งจากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ประกาศเกียรติคุณเป็นทูตพระพุทธศาสนาวิสาขบูชานานาชาติ ประจำปี พ.ศ. 2556 ด้วย[55] ในปีนี้ ณเดชน์ได้รับเลือกทูตรณรงค์ต้านภัยมะเร็งเต้านม ปี 2556 ของศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็นครั้งที่ 3 ร่วมกับ ภูภูมิ พงศ์ภาณุ และมาริโอ้ เมาเร่อ[56]

ณเดชน์ได้เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรม Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่ กิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่จัดทำขึ้น เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 ซึ่งมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2558 โดยร่วมรณรงค์กิจกรรม และร่วมแสดงในมิวสิควิดีโอ “เพลงปั่นจักรยาน” กับเหล่าศิลปินนักแสดงทั่วฟ้าเมืองไทยหลากหลายค่ายหลากหลายสังกัด ซึ่งบทเพลงนี้เป็นบทเพลงที่ถูกประพันธ์ขึ้นเพื่อรวมพลังสามัคคีและเพื่อใช้ประกอบวันแห่งประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ ประพันธ์คำร้องโดย ประภาส ชลศรานนท์, ทำนองโดย จักรพัฒน์ เอี่ยมหนุน และขับร้องโดย 4 นักร้องคุณภาพ ก้อง สหรัถ สังคปรีชา, บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์, บี พีระพัฒน์ เถรว่อง และ ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย ซึ่งตลอดการถ่ายทำมิวสิควิดิโอในครั้งนี้ ศิลปินแต่ละคนต่างปลาบปลื้มที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ โดยพร้อมใจกันติดเข็มกลัดและสวมเสื้อจักรยานพระราชทานมาร่วมแสดง [57]

ผลงานอื่น ๆ

• พากย์ตัวการ์ตูนแอนิเมชันเรื่อง "ซุปเปอร์ฮีโร่ หล่อช่วยได้" เป็น "ฮีโร่เหลือง" ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 18.00 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เริ่ม 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 จนถึงวันที่ 27 กรกฎาคม ในปีเดียวกัน โดยพากย์ร่วมกับ ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, ปริญ สุภารัตน์ , แอน ทองประสม[58] และอุรัสยา เสปอร์บันด์[59] และออกอากาศอีกครั้งในวันที่ 22 มิถุนายน 2555 โดยใช้ชื่อรายการว่า ซุปเปอร์ฮีโร่ หล่อช่วยได้ ตอน สามฮีโร่รวมพลังบวก 1