ลิงคีปูนจี หรือ
ลิงมังกาเบย์ที่ราบสูง (
อังกฤษ: Kipunji, Highland mangabey
[2];
ชื่อวิทยาศาสตร์: Rungwecebus kipunji) เป็นลิงชนิดหนึ่งจำพวก
ลิงโลกเก่าที่พบในทวีปแอฟริกา จัดเป็นลิงชนิดใหม่ของโลกที่เพิ่งถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 2005 ลิงคีปูนจี มีลักษณะคล้ายกับ
ลิงมังกาเบย์ โดยครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบเชื่อว่าเป็นลิงที่อยู่ในสกุล
Lophocebus หรือลิงมังกาเบย์ ถึงขนาดได้ประกาศลงในวารสารเจอนัลไซแอนซ์เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2005 ว่าลิงคีปูนจีเป็นชนิดใหม่ของสกุล Lophocebus แต่ทว่าหลังจากที่ได้ศึกษาแล้วพบว่าไม่ใช่ หากแต่เป็นลิงสกุลใหม่ จึงให้ชื่อสกุลว่า Rungwecebus (/รุง-เว-ซี-บัส/) แปลว่า "ลิงรุงเว" โดยตั้งชื่อตามสถานที่ ๆ ค้นพบ คือ
ภูเขารุงเว[2] โดยถือเป็นลิงสกุลใหม่ที่ค้นพบในรอบ 83 ปี
[3] และเป็นลิงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุลนี้
[4]ตัวอย่างต้นแบบของลิงคีปูนจีได้มาจากซากตัวหนึ่งซึ่งตายเพราะติดกับดักในฟาร์มของเกษตรกร และพบว่าแม้หน้าตารูปร่างจะคล้ายกับลิงมังกาเบย์ หากแต่ลิงคีปูนจีกลับมีลักษณะ
ดีเอ็นเอคล้ายคลึงกับ
ลิงบาบูน ที่อยู่ในสกุล Papio มากกว่า
[5] หลังจากที่ได้วิเคราะห์เนื้อเยื่อเพื่อศึกษาพันธุกรรมศาสตร์ แต่กะโหลกและสมองกลับพบว่าต่างกับลิงบาบูน รวมทั้ง
ลิงแมนดริล และ
ลิงเจลาดา[6]ลิงคีปูนจี สูงประมาณ 90 เซนติเมตร หรือ 3 ฟุต น้ำหนักตัวประมาณ 10 ถึง 16 กิโลกรัม มีขนสีน้ำตาลเทา บริเวณท้องน้อยและปลายหางมีขนสีขาว หัวมีแผงขนตั้งชันเหมือนมงกุฎ กินใบไม้, ดอกไม้, ผลไม้, หน่อไม้, เห็ด, มอส และหอยเป็นอาหาร โดยสามารถกินพืชที่มีความหลากหลายแตกต่างกันได้ถึง 100 ชนิด
[5] อาศัยอยู่บนต้นไม้เป็นส่วนใหญ่ ตัวที่โตเต็มที่จะส่งเสียงร้องเหมือนห่าน ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษที่ต่างจากลิงชนิดอื่น ๆ โดยชื่อ "คีปูนจี" นั้นเป็น
ชื่อท้องถิ่นที่ชาวพื้นเมืองใช้เรียกขาน และมีความเชื่อของพรานพื้นเมืองที่เชื่อว่า ลิงคีปูนจีเป็นลิงลึกลับหายาก จนไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเป็นลิงที่มีอยู่จริงหรือเป็นเพียง
วิญญาณ[6]ลิงคีปูนจี เป็น
สัตว์ที่พบได้เฉพาะถิ่น พบได้เฉพาะบนต้นไม้สูงของป่ารุงวี-ลีฟวิงสโตน ในพื้นที่ภูเขารุงเว และที่ป่าดุนดูลู ในเขตภูเขาอุดซุงวา ที่ราบสูงซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,450 เมตรทางตอนใต้ ของประเทศแทนซาเนีย เท่านั้น
[5]และขณะที่ค้นพบเจอ ลิงคีปูนจีก็เหลือปริมาณในธรรมชาติอยู่น้อยแล้ว คือ ประมาณ 1,000 ตัวเท่านั้น ลิงคีปูนจีจะถูกมนุษย์ฆ่าเพื่อการบริโภค และเพื่อต้องการถิ่นที่อยู่เพื่อทำการเพาะปลูกด้วยการตัดไม้และเผาที่ รวมถึงถูกฆ่าหากมาขโมยพืชผล
[5] โดยมีศัตรูตามธรรมชาติได้แก่ นกอินทรี และเสือดาว แต่ลิงคีปูนจีนั้นได้รับการอนุรักษ์ทางกฎหมายของแทนซาเนียแล้ว
[5]