ร้อยเอกหญิง ลิซา เจด เฮด (
อังกฤษ: Captain Lisa Jade Head;
30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1981 —
19 เมษายน ค.ศ. 2011)
[1] เป็นนายทหาร
กองทัพอังกฤษ เธอเป็นเจ้าหน้าที่
ทำลายล้างวัตถุระเบิดหญิงคนแรกที่ถูกสังหารในขณะปฏิบัติหน้าที่
[2] เธอเสียชีวิต ณ วันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 2011 ขณะอายุได้ 29 ปี ภายหลังจากการได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสเมื่อครั้งเข้าประจำการใน
ประเทศอัฟกานิสถาน ในช่วงที่เธอเสียชีวิต ร้อยเอกหญิงเฮดเป็นนายทหารหญิงคนแรกและเป็นเจ้าหน้าที่หญิงชาวอังกฤษคนที่สองที่เสียชีวิตในประเทศอัฟกานิสถาน นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 ต่อจาก
ซาราห์ ไบรอันท์ และเป็นสมาชิกของกองกำลังติดอาวุธที่เสียชีวิตในลำดับที่ 364
[3]เธอเกิดที่
ฮัดเดอร์สฟิลด์ เวสต์ยอร์คเชียร์ และได้เข้าเรียนที่
วิทยาลัยกรีนเฮด รวมถึงเข้าศึกษาสาขาชีววิทยามนุษย์ที่
มหาวิทยาลัยฮัดเดอร์สฟิลด์ ก่อนที่จะเข้าศึกษาต่อที่
โรงเรียนนายร้อยทหารบกแซนด์เฮิร์ทซ์[4] เธอได้เข้าประจำการในประเทศอิรัก และอัฟกานิสถานในฐานะเจ้าหน้าที่ประสานงานการขนส่งทางอากาศกับเหล่าพลาธิการ ก่อนที่จะได้รับการโอนไปยังกองทหารหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด (อีโอดี) 321 กรมสรรพาวุธวัตถุระเบิดที่ 11 เหล่าพลาธิการ ร่วมกับผู้ที่เธอเคยร่วมประจำการในไอร์แลนด์เหนือ โดยเธอได้รับการเคลื่อนพลไปยังอัฟกานิสถานในวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 2011 ที่ซึ่งเธอเป็นผู้ชำนาญด้านการทำลายล้างวัตถุระเบิดและประสบความสำเร็จในฐานะ "ผู้ปฏิบัติการกู้ภัยคุกคามจากระเบิดแสวงเครื่องระดับสูง"
[3][5][6]เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสใน
นาห์ร-อี-ซาราจ์ ที่
จังหวัดเฮลมานด์เมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 2011 ซึ่งเป็น 22 วันหลังจากที่เข้ามาในอัฟกานิสถานเป็นครั้งที่สอง ในขณะที่พยายามที่จะยับยั้งการทำงานของ
ระเบิดแสวงเครื่องที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ซึ่งแหล่งที่มาของฝ่ายจำเลยกล่าวว่า ได้มีการวางไว้เพื่อล่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำลายล้างวัตถุระเบิดเข้ามาทำการเก็บกู้ โดยเธอได้ทำการปลดชนวนไปหนึ่งลูก แต่แล้วลูกที่สองก็ได้ระเบิดออกไปแบบเป็นลูกโซ่ แขนและขาของเธอได้หายไปเกือบทั้งหมดจากการระเบิด เธอได้รับการเคลื่อนย้ายโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยัง
แคมพ์เบสชัน ที่
ลัชการ์กาห์ เพื่อเตรียมบินกลับไปยัง
โรงพยาบาลควีนเอลิซาเบธ ที่เบอร์มิงแฮม กระทั่งเธอได้เสียชีวิต ณ ที่แห่งนั้นในวันรุ่งขึ้น
[1][6][7]งานศพของเธอได้จัดขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 ที่
โบสถ์ฮัดเดอร์สฟิลด์ปาริช ซึ่ง
ทหารกองเกียรติยศจากกองทหารของเธอ ได้จัดแถวย่างก้าวเป็นขบวนแห่ศพและนำโลงศพของเธอเข้าไปในโบสถ์
[8] ผู้คนกว่า 1,000 ชีวิตได้เข้าร่วมพิธีศพ ซึ่งรวมถึงครอบครัว, มิตรสหาย, บุคลากรทางทหาร และประชาชนพลเมืองในฮัดเดอร์สฟิลด์
[4]