ลิ่นซุนดา หรือ
ลิ่นมลายู หรือ
ลิ่นชวา (
อังกฤษ: Sunda pangolin, Malayan pangolin, Javan pangolin;
ชื่อวิทยาศาสตร์: Manis javanica) เป็น
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำพวก
ลิ่น มีรูปร่างเหมือน
ลิ่นจีน (M. pentadactyla) แต่ลิ่นซุนดามีหางที่ยาวกว่าและปกคลุมด้วยเกล็ดประมาณ 30 เกล็ด และสีลำตัวจะอ่อนกว่า โดยมี
สีน้ำตาลเหลืองหรือน้ำตาลเข้มและมี
ขนบาง ๆ ขึ้นแทรกอยู่เล็กน้อย อีกทั้งมีขนาดลำตัวและ
น้ำหนักมากกว่า กล่าวคือ มีความยาวลำตัวและหัวประมาณ 42.5-55
เซนติเมตร มีความยาวหาง 34-47 เซนติเมตร และความสูงจากพื้นดินถึงหัวไหล่ประมาณ 7.5-9 เซนติเมตร น้ำนักตัวประมาณ 5-7
กิโลกรัมมีการแพร่กระจายพันธุ์ในภูมิภาค
อินโดจีนเรื่อยจนถึง
แหลมมลายูจนถึง
ภูมิภาคซุนดา และยังพบใน
หมู่เกาะฟิลิปปินส์อีกด้วย สามารถหากินได้ทั้งบน
ต้นไม้, พื้นดิน และใต้ดิน เนื่องจากมีเล็บและหางที่แข็งแรงสามารถใช้เกาะเกี่ยวต้นไม้ได้ดี โดยอาหารส่วนใหญ่คือ
มดและ
ปลวก ลูกลิ่นที่เกิดใหม่จะเกาะติดแม่ โดยการใช้เล็บเกาะเกี่ยวโคนหางของแม่ไว้ จะหย่านมเมื่ออายุได้ 3
เดือน โดยปกติจะอาศัยหลับ
นอนอยู่ตามโพรงในเวลา
กลางวัน โดยใช้
ดินมาปิดไว้บริเวณปากโพรง เพื่อช่วยอำพรางโพรงที่มีความลึกประมาณ 3-4
เมตร เมื่อถูกรบกวนจากศัตรูหรือตกใจจะนอนขดตัวเป็นลูก
กลม ๆ คล้าย
ลูกฟุตบอล โดยไม่มีการต่อสู้แต่อย่างใด สำหรับใน
ประเทศไทยพบได้ทุกภูมิภาค และลิ่นซุนดาถือเป็นลิ่น 1 ใน 2
ชนิดเท่านั้นที่สามารถพบได้ (อีกชนิดหนึ่งนั่นคือ ลิ่นจีน) และเป็นสัตว์ที่นิยมค้าขายเป็นของผิด
กฎหมาย โดยมักปรากฏเป็น
ข่าวอยู่เสมอ ๆ ว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับผู้ลักลอบได้ทีละมาก ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อนำขายต่อให้
ภัตตาคารหรือผู้ที่นิยมรับประทาน
สัตว์ป่า[1][2][3] ทั้งนี้ลิ่นซุนดามีสถานภาพเป็น
สัตว์ป่าคุ้มครองตาม
พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 พร้อมกับลิ่นจีน
[4][5]