ลิ้นยึดทางสรีรวิทยา ของ ลิ้นยึด

ลิ้น มีบทบาทสำคัญมากในการดูดนมของทารก เมื่อมีลักษณะทางสรีรวิทยาที่ผิดปกติไป ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงต่อการเคลื่อนไหวของลิ้น จะก่อให้เกิดการรบกวนและมีผลกระทบต่อกระบวนการซึ่งเป็นกลไกการดูดนมของทารก ภาวะลิ้นยึด เป็นภาวะที่มีพังผืดยึดใต้ลิ้นดึงรั้งพังผืดที่ลิ้นทำให้ลิ้นไม่สามารถแลบ หรือยื่นออกมาได้ตามปกติ โรคและความรุนแรงของลิ้นยึด ขึ้นอยู่กับลักษณะพังผืด และตำแหน่งที่ยึดเกาะ[2][3]การประเมินภาวะลิ้นยึดให้สังเกตได้จากอาการดังต่อไปนี้

  1. เมื่อทารกแลบลิ้น หรือยื่นลิ้นออกมา ปลายลิ้น อยู่หลังแนวเหงือก หรือแลบพ้นริมฝีปากล่างเล็กน้อย
  2. เมื่อทารกแลบ หรือยื่นลิ้นออกมา ปลายลิ้นมีลักษณะเป็นรูปรอยหยัก หรือเป็นรูปหัวใจ[4] (heart shape)
  3. พังผืดมีลักษณะ เป็นแผ่นหนา สั้น ตึง
  4. พังผืด บางยาว ยึดเกาะถึงปลายลิ้น
  5. เมื่อทารกร้อง ลิ้นไม่กระดกติดเพดานปาก
  6. ทารกไม่สงบ ร้องกวน หลังจากดูดนมทั้งที่ทารกดูดนมแม่บ่อยครั้ง (ประมาณมากกว่า 8 ครั้ง ต่อวัน)
  7. นอกว่านั้นยังอาจสังเกตได้จาก การอุจจาระ และปัสสาวะของเด็ก หลังจากให้นมแล้ว 3 วัน[1]

กระบวนการ การดูดนมกับการใช้ลิ้นของทารกพบการขัดขวางการดูดนมจากการที่ทารกมีภาวะลิ้นยึด ทารกที่มีภาวะลิ้นยึด ลิ้นเมื่อดูดนมแม่จะถูกจำกัดการเคลื่อนไหว ทำให้ไม่สามารถแลบลิ้น กระดกลิ้นได้ตามปกติ ความสามารถของทารกในการแลบลิ้น หรือ ยื่นลิ้นออกมา เหนือริมฝีปากล่าง เพื่อนำลิ้นออกมาห่อหุ้มคัปปิ้ง (cupping) ใต้ลานหัวนมตรงส่วนที่รองรับ ไม่สามารถกระทำได้ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ทั้งต่อมารดา และทารก ตลอดจนทำให้ทารกพลาดโอกาส ในการได้รับน้ำนมแม่ ซึ่งเป็นอาหารเพียงอย่างเดียวใน 6 เดือนแรก ในด้านมารดา จะพบปัญหา เจ็บหัวนม หัวนมแตก เต้านมคัด ท่อน้ำนมอุดตัน ทำให้เกิดความเจ็บปวด เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย และท้อใจ ที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อไป หากพบว่าทารกดูดนมมารดาได้น้อย เด็กร้องกวนเพราะไม่อิ่ม หงุดหงิด ดูดนมแม่บ่อยมาก แต่การเจริญ เติบโตช้า น้ำหนักลด เป็นอาการที่แสดงว่า ทารกได้รับน้ำนมแม่ไม่พอเพียง ให้ปรึกษากุมารแพทย์ และทันตแพทย์ เพื่อรับการประเมินภาวะลิ้นยึด[5] หากเป็นในระดับที่มาก อาจพิจารณา ให้ขลิบพังผืด เพื่อให้เด็กสามารถรับน้ำนมจากแม่ได้ตามปกติ