ลีดส์อิชธีส์ (
อังกฤษ: Leedsichthys) เป็นชื่อ
ปลากระดูกแข็งชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่ใน
ยุคก่อนประวัติศาสตร์ซึ่ง
สูญพันธุ์ไปแล้ว ลีดส์อิชธีส์มี
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Leedsichthys problematicus อยู่ในวงศ์
Pachycormidae อาศัยอยู่ใน
ทะเลในกลางยุค
จูราสสิค (185-155 ล้านปีก่อน) พบ
ฟอสซิลในชั้นหินในยุคนี้ โดยที่ชื่อ Leedsichthys ตั้งตามผู้ค้นพบคือ อัลเฟรด นิโคลสัน ลีดส์ นักสะสมซากดึกดำบรรพ์
ชาวอังกฤษ มีความหมายว่า "ปลาของลีดส์" โดยพบในพื้นที่ใกล้เขตเมือง
ปีเตอร์โบโรห์เมื่อปี
ค.ศ. 1886 ในสภาพเป็นเศษกระดูกจนยากจะคาดเดาว่าเป็นปลาชนิดใด หลังจากนั้นมีผู้ค้นพบในอีกหลายพื้นที่เช่น ในเมือง
คอลโลเวียน ของอังกฤษ ทางภาคเหนือของ
เยอรมนีและ
ฝรั่งเศส เมือง
ออกซ์ฟอร์เดียนของ
ชิลีและเมือง
คิมเอริดเกียน ของฝรั่งเศส โดยรวมแล้วพบประมาณ 70 ตัว แต่ไม่สามารถบอกขนาดตัวได้ จน
อาร์เธอร์ สมิธ วูดวาร์ดพบตัวอย่างใน
ค.ศ. 1889 ประเมินว่ามีขนาดตัวยาว 30
ฟุต หรือราว 9
เมตร โดยเปรียบเทียบหางของลีดส์อิชธีส์กับปลาชนิดอื่นในวงศ์เดียวกันคือ
ฮิพโซคอร์มัส ต่อมาการประเมินจากเอกสารการค้นพบในระยะหลัง รวมถึงตัวอย่างที่สมบูรณ์ในพื้นที่สตาร์ พิท ใกล้เขตวิทเทิลซีย์ เมืองปีเตอร์โบโร ได้ค่าใกล้เคียงกับของวูดวาร์ด ซึ่งอยู่ที่ 30-33 ฟุต และเป็นไปว่าตอนอายุ6-12ลำตัวยาวได้มากกว่า 54 ฟุต หรือ 16 เมตร แต่ถ้าโตเต็มวัยยาวได้ถึง 24.2-26 เมตรและอาจยาวได้สูงสุดคือ 28 เมตร จึงเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่
โลกเคยมีมา นอกจากนี้ลีดส์อิชธีส์เป็นปลาใหญ่ที่สุดในประวัติศาตร์และครองตำแหน่งปลายักษ์มาแล้วมากกว่า 125 ปีลีดส์อิชธีส์มี
ตาขนาดเล็กและด้วยขนาดตัวที่ใหญ่โตทำให้
ว่ายน้ำช้า ใช้ชีวิตคล้ายคลึงกับปลาใหญ่ในยุคปัจจุบันอย่าง
ปลาฉลามวาฬหรือ
ปลาฉลามอาบแดด โดยใช้ฟันซี่เรียวกว่า 40,000 ซี่กรองกินสัตว์เล็กสัตว์น้อยและ
แพลงก์ตอนเป็นอาหาร แม้ว่ามันจะมีลำตัขนาดใหญ่มาก แต่เชื่อว่าลีดส์อิชธีส์ก็ยังตกเป็นเหยื่อของปลากินเนื้อขนาดใหญ่รวมถึง
สัตว์เลื้อยคลานทะเลยุคเดียวกันด้วย เช่น
ไลโอพลัวเรอดอน เป็นต้น
[2]