ลีเมอร์ (
อังกฤษ: Lemur) เป็นอันดับฐานของ
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใน
อันดับไพรเมตหรือลิง ใช้
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lemuriformes ลักษณะโดยรวมของลีเมอร์ คือ มีรูปร่างทั่วไปคล้ายกับ
ลิง แต่ทว่ามีส่วนหัวคล้าย
หมาจิ้งจอก คือ มีจมูกและปากแหลมยาว มีดวงตากลมโต
ขนหนาฟู มีหางยาวเป็นพวงเหมือน
กระรอก โดยลีเมอร์เป็นไพรเมตที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม
Prosimian ซึ่งรวมถึง
ลิงลม,
กาเลโก และ
ทาร์เซีย เพราะมีสายวิวัฒนาการที่ใกล้เคียงกัน จากการศึกษาทางดีเอ็นเอ ซึ่งคำว่า "Prosimian" นั้น มีความหมายว่า "ก่อนลิง"
[3]คำว่า "ลีเมอร์" แปลงมาจากคำว่า
Lemures ใน
เทพปกรณัมโรมันหมายถึง "ดวงวิญญาณ, ผี หรือปีศาจ"
[4]ขนาดโดยทั่วไปโดยเฉลี่ยของลีเมอร์ขนาดเท่า
แมว น้ำหนักตัวประมาณ 9
กิโลกรัม โดยที่
ชนิดที่มีขนาดเล็กมีรูปร่างใกล้เคียงกับ
หนู มีการกระจายพันธุ์เฉพาะบน
เกาะมาดากัสการ์ทาง
ชายฝั่งแอฟริกาตะวันออกที่เดียวเท่านั้น เหตุเพราะ
สันนิษฐานว่า ที่เกาะแห่งนี้ห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่ ทำให้สัตว์หลายชนิดมีการวิวัฒนาการเป็นของตัวเองโดยเฉพาะ และไม่มี
สัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่คอยคุกคาม โดยอาศัยอยู่ใน
ป่าดิบ บน
ต้นไม้ใหญ่ หากินในเวลา
กลางวัน และนอนหลับในเวลา
กลางคืน โดยที่สันนิษฐานอีกว่า บรรพบุรุษของลีเมอร์ เดินทางมายังเกาะมาดากัสการ์ด้วยกอพรรณพืชหรือต้นไม้เมื่อ 60 ล้านปีก่อน โดยลีเมอร์ได้วิวัฒนาการตัวเองแยกมาเป็นชนิดต่าง ๆ จากถิ่นที่อยู่ที่แตกต่างกัน เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง อันเป็นผลจากการที่น้ำท่วมเกาะ ก่อให้เกิดเป็นเกาะแก่งต่าง ๆ มากมาย และลีเมอร์ชนิดต่าง ๆ ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและถูกจำกัดในเรื่องอาหาร จากพายุ
ไซโคลนที่พัดถล่มในมหาสมุทรอินเดีย โดยเฉพาะชายฝั่งแอฟริกาตะวันออก โดยเชื่อว่าบรรพบุรุษของลีเมอร์นั้นแรกเริ่มมีขนาดเล็ก และอาจเกาะกับต้นไม้ลอยน้ำมาในรูปแบบของการ
จำศีล[3]ลีเมอร์มีพฤติกรรมอยู่รวมกันเป็นฝูง จุดเด่นอีกประการของลีเมอร์ คือ
เสียงร้องที่หลากหลายและดังกึกก้องไปทั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาออกหากินใน
ยามพลบค่ำ ซึ่งอาหารของลีเมอร์ได้แก่
ใบไม้,
ผลไม้,
แมลง,
ไข่นก และสัตว์ขนาดเล็กชนิดต่าง ๆ แตกต่างออกไปตามแต่ละชนิด ด้วยการใช้ขาหน้าที่เสมือน
มือในการหยิบฉวย ขุดคุ้ย หยิบจับอาหารได้คล่องแคล่วเช่นเดียวกับสัตว์ประเภทอื่นในอันดับเดียวกัน หากแต่จะใช้หางในการเกาะเกี่ยวกับกิ่งไม้ไม่ได้ลีเมอร์ในปัจจุบัน ได้รับ
การจำแนกแล้วประมาณ 100-103
ชนิดใน 5 วงศ์ (ดูในตาราง) และหลายชนิดและหลายวงศ์ก็ได้
สูญพันธุ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยชนิดที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ได้แก่
ลีเมอร์หางวงแหวน (Lemur catta) ที่มีส่วนหางเป็นลายปล้อง ๆ สลับ
ขาว-
ดำ,
รัฟด์ลีเมอร์ (Varecia spp.) เป็นลีเมอร์ที่มีขนสีขาวรอบ ๆ
ใบหน้าแลดูคล้าย
เครา และ
อาย-อาย (Daubentonia madagascariensis) ซึ่งมีลำตัว
สีดำ มี
นิ้วมือที่ยาวใช้สำหรับเคาะหาแมลงหรือ
หนอนที่อยู่ใต้
เปลือกไม้กินเป็นอาหาร ในเวลากลางคืน เป็นต้น
[5]ตามรายงานของ
สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) ระบุว่า ว่า
ร้อยละ 91 ของลีเมอร์ 103 ชนิดที่รู้จักกำลังตกอยู่ในภาวะถูกคุกคาม โดยลีเมอร์ 23 ชนิด ถูกจัดอยู่ในภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ขั้นวิกฤต อีก 52 ชนิดถูกจัดอยู่ในภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ และอีก 19 ชนิดจัดอยู่ในภาวะมีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ ตาม
บัญชีแดงของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) โดยลีเมอร์ชนิดที่หายากที่สุด คือ
ลีเมอร์นอร์เทิร์นสปอร์ตีฟ (Lepilemur septentrionalis) ที่เหลือเพียงแค่ 18 ตัวเท่านั้น
[6]