เปรียบเทียบระหว่างแบบขนนกกับแบบวัสดุสังเคราะห์ ของ ลูกขนไก่

ขนนกมีลักษณะเปราะ ลักษณะเช่นนี้ของลูกขนไก่จะแตกง่ายและมักจะต้องมีการเปลี่ยนหลายครั้งในระหว่างการแข่งขัน ด้วยเหตุนี้ ลูกขนไก่แบบสังเคราะห์ที่ได้รับการพัฒนาจึงเข้ามาแทนที่แบบขนนกโดยจะมีลักษณะเป็นบานกระโปรงพลาสติก ผู้เล่นมักจะอ้างถึงลูกขนไก่แบบสังเคราะห์ว่าเป็นพลาสติก และแบบขนว่ามีลักษณะเป็นขนนก

ราคาของแบบขนนกคุณภาพดีจะมีความใกล้เคียงกับแบบพลาสติกคุณภาพดี แต่แบบพลาสติกจะมีความทนทานมากกว่า โดยปกติแล้วจะสามารถใช้ได้เป็นเวลานานในหลายแมตช์โดยไม่ด้อยไปกว่ากัน

ผู้เล่นส่วนใหญ่ที่มีประสบการณ์และความชำนาญอย่างมากจะชอบแบบขนนก และการแข่งขันแบบเอาจริงเอาจังหรือแบบลีกมักจะใช้ลูกขนไก่แบบขนนกที่มีคุณภาพสูงสุด[2] ตลอดจนมีความรู้สึกชอบต่อลูกขนไก่แบบขนนก[ต้องการอ้างอิง] และยืนยันว่าพวกเขาสามารถควบคุมการตีในแบบขนนกได้ดีกว่าแบบพลาสติก ในทวีปเอเชีย ลูกขนไก่แบบขนนกจะมีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ และแทบจะไม่ได้นำลูกขนไก่แบบพลาสติกมาใช้เลย[ต้องการอ้างอิง]

ลักษณะการเล่นลูกขนไก่แบบพลาสติกกับแบบขนนกจะแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยแบบพลาสติกจะเคลื่อนที่ไปได้ช้ากว่าในตอนเริ่มตี แต่จะลดความช้าลงเมื่อการพุ่งออกไปใกล้จะสิ้นสุดลง ดังนั้น แบบขนนกจะมีแนวโน้มเคลื่อนที่เป็นแนวดิ่งแบบเห็นภาพชัดเจน ส่วนในแบบพลาสติกจะไม่ค่อยตกลงมาในแนวดิ่งตามวิถีทแยงมุม ลูกขนไก่แบบขนนกอาจพุ่งมาด้วยความเร็วที่กว่า 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง (200 ไมล์ต่อชั่วโมง) แต่จะชะลอความเร็วเมื่อหยอดคล้อยลง ด้วยเหตุนี้ แบบขนนกจะทำให้การแข่งขันนั้นดูเหมือนเร็วกว่า[ต้องการอ้างอิง] แต่ยังช่วยให้ใช้เวลามากขึ้นในการเล่นจังหวะ เพราะแบบขนนกสามารถพุ่งไปได้เร็วกว่าเมื่อกระทบกับหน้าไม้แบดมินตัน ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อไหล่และได้รับบาดเจ็บน้อยลง[ต้องการอ้างอิง]