แรงบันดาลใจ ของ ลูธิเอน

หลุมศพของโทลคีนและภรรยา ซึ่งจารึกข้างใต้ชื่อว่า Beren และ Luthien

ในจดหมายฉบับหนึ่งที่โทลคีนเขียนถึงลูกชาย คริสโตเฟอร์ โทลคีน ลงวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1972 ได้ขอร้องให้จารึกชื่อของ ลูธิเอน บนหินประดับหลุมศพของเอดิธ ภรรยาของเขา โทลคีนกล่าวว่า "แม่เป็น (และแม่ก็รู้ว่าเป็น) ลูธิเอนของพ่อ"[1] โทลคีนยังเขียนหมายเหตุท้ายจดหมายว่า "แม่รู้เรื่องตำนานนี้ดีมาตั้งแต่แรก และยังได้อ่านบทกวีที่ตีพิมพ์เป็นลำนำของอารากอร์นด้วย" ชื่อนี้น่าจะมีที่มาจากคำภาษาอังกฤษเก่าว่า ลูฟิเอน (Lufien) ซึ่งหมายถึง "ความรัก" ตำนานของเบเรนและลูธิเอนมีองค์ประกอบของนิทานพื้นบ้านหลายแห่ง เช่นจากนิทานเวลช์เรื่อง Culhwch and Olwen และอื่นๆ อีก ในนิทานพื้นบ้านเหล่านั้น ผู้ปกครองที่ไม่ยินดีจะกำหนดภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ให้ผู้สู่ขอไปกระทำ ซึ่งในที่สุดก็ทำได้สำเร็จ ตำนานในฉบับของโทลคีนนั้นฝ่ายหญิงมีส่วนช่วยให้กระทำภารกิจนั้นสำเร็จด้วยซ้ำ ตำนานเบเรนและลูธิเอนยังสะท้อนความเชื่อและความศรัทธาของโทลคีนที่มีต่อคาทอลิก ลูธิเอนเป็นสื่อสัญลักษณ์คล้ายพระเยซูคริสต์ นางยอมเสียสละตนเอง สูญเสียความเป็นอมตะ และตายในฐานะมนุษย์พร้อมกับเบเรน พระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นนิรันดร์ (เป็นอมตะ) ได้สละชีวิตของพระองค์เพื่อมนุษยชาติ ความรักของลูธิเอนที่มีต่อเบเรนกระทั่งยอมเสียสละความเป็นอมตะของเธอจึงนับเป็นการกระทำอันยิ่งใหญ่ แม้ตัวโทลคีนเองจะบอกหลายครั้งว่า เขาไม่ชอบนิยายที่มีสัญลักษณ์แฝงคติ แต่การตีความบางอย่างก็ละเอียดอ่อน และแนวคิดทางคาทอลิกหลายประการอาจจะสะท้อนออกมาในงานเขียนของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจให้เป็นสัญลักษณ์ใดๆ เลยก็ได้