วัดผ่องพลอยวิริยาราม เป็น
วัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่าย
ธรรมยุติกนิกาย ตั้งอยู่ใน
แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร ในปัจจุบันมีพระครูปภัสสราธิคุณเป็นเจ้าอาวาสวัดผ่องพลอยวิริยารามเดิมมีชื่อว่า
วัดใหม่วิริสังฆาราม ก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2510 ตามเจตนารมณ์ของคุณตาผ่องและคุณยายพลอย บัวรอด ผู้เป็นเจ้าของที่ดินมรดก โดยนายสะอาดและนางสุภาพ ศรีพงษ์ ซึ่งเป็นทายาทของคุณตาผ่องและคุณยายพลอย บัวรอด ได้บริจาคที่ดินมรดกจำนวนประมาณ 9 ไร่ ตามความประสงค์ของบิดาและมารดา และนายสายและนางล้วนรัตน์ หุตะเจริญ บริจาคที่ดินสมทบอีกประมาณ 1 ไร่เศษ รวมเป็นที่ดินทั้งสิ้น 10 ไร่ 42 ตารางวาผู้บริจาคที่ดินสร้างวัดมีความศรัทธาในพระญาณวิริยาจารย์ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร; ปัจจุบันคือ
สมเด็จพระญาณวชิโรดม เจ้าอาวาส
วัดธรรมมงคลเถาบุญญนนทวิหาร) ให้สร้างวัด พระญาณวิริยาจารย์จึงได้อนุญาตให้คณะผู้ศรัทธาสร้างวัดได้ตามความประสงค์ ในครั้งนั้นพื้นที่ยังคงเป็นที่รกร้างท้องนา ไม่มีผู้คนหนาแน่นเหมือนปัจจุบัน การเดินทางเข้าออกก็มีความลำบากพอสมควร โดยได้เริ่มจัดสร้างกุฏิไม้ทรงไทย ยกพื้นสูง หน้าจั่ว หลังละ 3 ห้อง จำนวน 23 หลัง และศาลาการเปรียญทรงไทยหน้าจั่ว ครึ่งไม้ครึ่งปูน กว้าง 14 ยาว 40 เมตร 1 หลัง ผู้ดำเนินการหลักคือนายสะอาดและนางสุภาพจากนั้นได้ทำการดำเนินขอจัดตั้งวัดและได้รับอนุญาตให้สร้างหรือจัดตั้งวัดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2511 และกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศตั้งเป็นวัดโดยถูกต้องตามกฎหมายเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2513
[1] ในชื่อว่า "วัดผ่องพลอยวิริยาราม" เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่คุณตาผ่องและคุณยายพลอย บัวรอดพระญาณวิริยาจารย์เป็นผู้ควบคุมดูแลการก่อสร้างทั้งหมด จากนั้นได้จัดสร้างอุโบสถ พระญาณวิริยาจารย์ได้นำพาคณะทูลเชิญเสด็จ และเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2513
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางศิลาฤกษ์และเททองหล่อพระปฏิมาประธานอุโบสถวัด ในครั้งนั้น สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฎฐยี) ร่วมเสด็จมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ด้วยจากนั้นวัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2516 โดยมีจอมพล ถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีขณะนั้นเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ และสมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฎฐายี) ได้เสด็จมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์อีกครั้งหนึ่ง บริเวณพื้นที่วิสุงคามสีมาที่ได้รับพระราชทานกว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร อุโบสถมีลักษณะทรงไทยภายในวัดมีรูปปั้นจำลอง
พระพุทธโสธรซึ่งเป็นที่สักการะของประชาชนทั่วไป สภาพภายในบริเวณวัดมีความร่มรื่นจากพันธุ์ไม้นานาชนิดในลักษณะวัดชนบท และยังเป็นแหล่งศึกษาพระพุทธศาสนา รวมไปถึงการปฏิบัติกรรมฐานอีกด้วย
[2] วัดมีกิจกรรมของสถาบันพลังจิตตานุภาพของ
สมเด็จพระญาณวชิโรดม (วิริยังค์ สิรินฺธโร) เจ้าอาวาส
วัดธรรมมงคลเถาบุญญนนทวิหาร นับเป็นสาขาที่ 10