โบราณสถานวัดพรหมทินใต้ ของ วัดพรหมทินใต้

โบราณสถานวัดพรหมทินใต้ ประกอบไปด้วยแนวกำแพงรอบนอกทั้งสองด้าน และด้านในก็มีแนวกำแพงล้อมรอบตัวโบราณสถานและมีใบเสมา ส่วนด้านหลังนั้นมีฐานเจดีย์ 3 องค์ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินดิน ซากโบราณสถานก่อด้วยอิฐ มีประวัติการสร้างที่ยาวนานนับพันปี เป็นสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และและภายในพระอุโบสถนั้นประกอบไปด้วยพระประธานและพระพุทธรูปอื่นๆอีกหลายองค์ ตัวพระอุโบสถนั้นสร้างด้วยสังกะสีที่ชาวบ้านพรหมทินใต้ร่วมกันสร้างขึ้น ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของ ตำบลหลุมข้าว อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี และเป็นสถานที่ศึกษาหาความรู้ที่สำคัญอีกที่หนึ่ง และกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ใน พ.ศ. 2479

พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายใน

ปัจจุบันตัวของโบราณสถานวัดพรหมทินใต้นั้นชาวบ้านเรียกว่าโบสถ์เก่าที่ชาวบ้านร่วมใจกันสร้างโดยใช้สังกะสี และนำพระพุทธรูปไปประดิษฐานเอาไว้ภายใน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าหลวงพ่อโบสถ์ ซึ่งตัวโบราณสถานไม่มีการปรับแต่งหรือเพิ่มเติมแต่อย่างใด เพราะเพื่อเป็นการอนุรักษ์โบราณสถานเอาไว้ให้คงเดิมจนถึงปัจจุบัน และมีการปลูกฝังให้ลูกหลานรู้จักการอนุรักษ์และพัฒนาท้องถิ่น ทั้งทางด้านพิธีกรรมและประเพณีที่สื่บทอดกันมาแต่โบราณ

โบราณสถานวัดพรหมทินใต้ มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยทวารวดี ซึ่งโบราณสถานแห่งนี้เป็นที่ประกอบพิธีกรรม ทางศาสนา สภาพทั่วไปเป็นลักษณะเป็นพระอุโบสถดังปรากฏใบเสมาอยู่ล้อมรอบ และนอกจากนั้นยังมีองค์เจดีย์อยู่สามองค์ ต่อมาในสมัยอยุธยาได้มีการสร้างทับลงไปในตัวโบราณสถานเดิมและในปัจจุบันมีสภาพเป็นเนินดิน บริเวณรอบๆมีลำน้ำใหลผ่าน ซึ่งบริเวณเป็นที่ราบสูงของภาคกลางอยู่ทาง ทิศตะวันตกสภาพทั่วไปในปัจจุบันจะเหลือเพียงฐานของโบราณสถาน และใบเสมาอยู่ประมาณ 4-5 ใบ ในส่วนของเจดีย์ด้านหลังก็เหลือเพียงฐานเท่านั้น

การพัฒนาโบราณสถาน

ในอดีตนั้นบริเวณโดยรอบนั้นเป็นท้องทุ่งนามาก่อน หลังจากที่มีการสร้างวัดจึงได้มีการขยายพื้นที่ของวัดให้มีพื้นที่เพียงพอ และความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนจึงได้มีการซื้อที่ดินถวายให้กับวัดจึงได้มีการพัฒนาจากทุ่งนาให้เป็นวัดจนถึงปัจจุบัน และตั้งแต่มีการขุดค้นแต่งซากโบราณสถานแห่งนี้ ตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา ก็มีการพัฒนาและปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณสถานและวัตถุตลอดยังเป็นสถานที่ศึกษาประวัติความเป็นมาตั้งแต่ยุคทวารวดี อยุธยา มาจนถึงยุคปัจจุบัน ในปัจจุบันได้มีหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนให้การสนับสนุนในการพัฒนา และนอกจากนี้ยังมีการขุดค้นพบซากโครงกระดูกที่มีอายุราว 3,000 ปีอีกด้วย ประกาศขึ้นทะเบียน ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 53 หน้า 906 วันที่ 2 สิงหาคม 2479

ก่อนปี 2553 ทางวัดและชาวบ้าน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการเสนอเรื่องไปทางจังหวัดเพื่อให้ทางจังหวัดนำไปดำเนินการต่อ และโบราณสถานวัดพรหมทินใต้ได้รับการบูรณะและปรับแต่งโดยกรมศิลปากร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 และมีการขุดค้นค้นและพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน

ใกล้เคียง

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดพระธรรมกาย วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร วัดพระธาตุลำปางหลวง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร