เมนูนำทาง
วัดพระยาไกร ประวัติวัดพระยาไกร เป็นชื่อดั้งเดิมของวัดโชตนาราม มีหลักฐานว่าสร้างก่อน พ.ศ. 2344 จนกระทั่งมีพระยาโชฎึกราชเศรษฐี (บุญมา) เจ้ากรมท่าซ้าย เป็นหัวหน้าคนจีน ควบคุมคนจีนในไทยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทำการ บูรณะปฏิสังขรณ์เสร็จแล้วได้น้อมถวายเป็นพระอารามหลวงในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้รับการสถาปนา ขึ้นเป็นพระอารามหลวงมีนามว่าวัดโชตนาราม ตามหลักฐานจดหมายเหตุ ต่อมา "วัดพระยาไกร" กลายสภาพเป็นวัดร้าง สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะท่านเจ้าสัวบุญมาคงไม่มีทายาทสืบสายสกุลทำให้ขาดผู้ดูแลอุปถัมภ์วัด หลักฐานที่ปรากฏว่าในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดนี้ก็ไม่มีเจ้าอาวาสปกครองแล้ว เสนาสนะสงฆ์ปรักหักพังชำรุดทรุดโทรมยากแก่การบูรณะรวมไปถึงพระอุโบสถอันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น (พระสุโขทัยไตรมิตร ก่อนย้ายไปวัดไตรมิตรวิทยาราม และหลวงพ่อสัมฤทธิ์ ก่อนย้ายไปวัดไผ่เงิน) ก็ชำรุดทรุดโทรมลงตามลำดับ บริเวณภายในวัดก็กลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่าเนื่องจากไม่มีผู้ดูแลรักษา จนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ในเวลานั้นเองทางบริษัท อีสท์ เอเชียติก จำกัด แห่งประเทศเดนมาร์ก ซึ่งทำธุรกิจค้าไม้สักส่งออกยังต่างประเทศมองเห็นเป็นทำเลที่ดีสำหรับตั้งโรงเลื่อยจักรของบริษัทฯ (โรงเลื่อยจักรที่ใหญ่ที่สุดในสยามในช่วงเวลานั้น) จึงได้แสดงความประสงค์ขอเช่าพื้นที่วัดโชตนารามจากทางราชการ เมื่อได้รับอนุญาตแล้วทางบริษัทฯ ก็ได้ทำการรื้อถอนเสนาสนะสงฆ์ที่ปรักหักพังเสียคงเหลือไว้แต่เพียงพระอุโบสถ อันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น 2 องค์ ไว้ภายในเท่านั้น พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (พระพุทธรูปทองคำ) ก่อนที่จะอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม รวมทั้งพระประธานในอุโบสถวัดไผ่เงินโชตนาราม ที่หล่อด้วยโลหะสำริด สมัยอาณาจักรสุโขทัย]
ใน พ.ศ. 2478 สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) ขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะแขวงล่างได้มีบัญชาให้วัดไตรมิตรวิทยาราม (ขณะนั้นยังใช้ชื่อวัดสามจีน มาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดไตรมิตรวิทยาราม เมื่อปี พ.ศ. 2482) และวัดไผ่เงิน แถวบางคอแหลม (ภายหลังจากที่ได้อัญเชิญพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ (พระประธาน)ไปแล้วได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดไผ่เงินโชตนาราม) อัญเชิญพระพุทธรูป 2 องค์นี้ไปประดิษฐานเก็บรักษาไว้เพื่อความเหมาะสม พระมงคลสุธี (ศรี ยโสธโร) เจ้าอาวาสวัดไผ่เงินในขณะนั้นได้เลือกพระพุทธรูปสัมฤทธิ์สมัยสุโขทัย และเสนาสนะอื่น ๆ จึงได้ดำเนินการขนย้ายไปยังวัดไผ่เงิน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2483 โดยมีชื่อว่า “หลวงพ่อสัมฤทธิ์” และเหตุนี้วัดไผ่เงิน จึงมีชื่อว่า "โชตนาราม" จากวัดโชตนาราม หรือวัดพระยาไกร ต่อท้ายเป็น "วัดไผ่เงินโชตนาราม" ปรากฏอยู่จนกระทั่งปัจจุบัน
วัดพระยาไกร หรือวัดโชตนาราม ในครั้งสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นวัดที่ได้รับการอุปถัมภ์ มีหลักฐานตามที่ปรากฏในจดหมายเหตุ สมัยรัชกาลที่ 3 จ.ศ.1213 [2] บันทึกไว้ว่าวัดได้รับการ "ยกให้เป็นพระอารามหลวง" นอกจากนี้ยังพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ได้รับกิจนิมนต์ไปแสดงธรรมและฉันภัตตาหารในพระราชวังตลอดรัชกาล
ใน พ.ศ. 2482 กระทรวงเศรษฐการ ประสงค์เวนคืนที่ดินบริเวณคลองเตย เพื่อสร้างท่าเรือคลองเตย อันประกอบด้วยด้วยวัดเงิน วัดไก่เตี้ย วัดหน้าพระธาตุ ตั้งอยู่ในเขตตำบลพระโขนง ตำบลคลองเตย อำเภอพระโขนง จังหวัดพระนคร [3] วัดทั้งหมดจึงต้องถูกรื้อถอน โดยทางการได้ให้วัดเงินกับวัดไผ่ล้อมเดิม มารวมกันเป็นวัดไผ่เงิน พร้อมกันนั้นกรมการศาสนามีนโยบายแจกจ่ายพระพุทธรูปที่ตกค้างอยู่ที่วัดพระยาไกร ซึ่งเป็นวัดร้างอยู่เป็นพุทธบรรณาการ พระมงคลสุธี (พระมหาศรี ยโสธโร) เจ้าอาวาสวัดไผ่เงินโชตนาราม กรุงเทพฯ ได้อัญเชิญพระพุทธปฏิมาในพระอุโบสถมาประดิษฐานที่วัดไผ่เงินโชตนาราม โดยท่านและคณะกรรมการวัดได้ "หลวงพ่อสัมฤทธิ์" เป็นพระพุทธปฏิมาที่หล่อด้วยสำริดและเป็นสำริดแก่เงินจัด ปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอกเศษ ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ชำรุด ขณะที่องค์พระพุทธปฏิมาหลวงพ่อสุโขทัยไตรมิตรที่ถูกปูนหุ้มอยู่มีรอยร้าวจาก ไหล่ถึงเอวไปถึงรากฐานเป็นร่องเล็กๆ มองเห็นเนื้อสัมฤทธิ์สีเขียว ๆ ที่ยังประดิษฐานอยู่ " นำไปประดิษฐานที่วัดไผ่เงินโชตนาราม เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2483 โดยมีชื่อว่า “หลวงพ่อสัมฤทธิ์” ตามวัตถุที่จัดสร้างเป็นทองสำริด
วัดพระยาไกร ซึ่งขณะนั้นเป็นวัดร้าง ไม่มีผู้ดูแล มีพระพุทธปฏิมาปูนปั้นสององค์ ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถองค์หนึ่งและอยู่ในพระวิหารอีกองค์หนึ่ง ประกอบกับบริษัท อีสต์เอเชียติก จำกัด ประสงค์ขอเช่าพื้นที่ของวัดเพื่อดำเนินกิจการของบริษัท ที่ประชุมคณะสงฆ์อันมีสมเด็จพระวันรัตน์ องค์สังฆนายก มีเถระบัญชาให้คณะกรรมการวัดสามจีน หรือวัดไตรมิตรวิทยาราม และวัดไผ่เงินโชตนาราม ไปอัญเชิญพระพุทธรูปสององค์นั้น ไปประดิษฐานไว้ตามสมควร ทางคณะของวัดไผ่เงินฯได้เดินทางไปถึงก่อน จึงเลือกอัญเชิญพระพุทธรูปสำริดไป เหลือพระพุทธรูปปูนปั้นไว้ให้วัดไตรมิตร [4]
วัดไตรมิตรวิทยารามเมื่อได้พระมาแล้วมิได้ทำการใด ๆ กับพระพุทธรูป เพียงปลูกเพิงสักกะสีเพื่อป้องแดดกันฝน ไว้ริมถนนด้านทิศตะวันออกของพระอุโบสถ เป็นเวลาถึง 20 ปี ด้วยยังหาที่จะประดิษฐานอันเหมาะสมมิได้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2497 จึงทำการสร้างวิหารใหม่ ด้วยตั้งใจจะประดิษฐานพระพุทธรูปองค์นี้โดยเฉพาะ เพื่อจะได้ทำการประดิษฐานพระพุทธรูป ให้ถูกต้องตามโบราณราชประเพณี แต่ในขณะเคลื่อนย้ายพระพุทธรูป เนื่องจากพระพุทธรูปมีน้ำหนักมาก สายเครื่องกว้านจึงขาดลง ทำให้พระพุทธรูปตกกระแทกพื้น ส่งผลให้ปูนที่หุ้มบริเวณพระอุระกระเทาะออก เผยให้เห็นเนื้อทองคำบริสุทธิ์ ท่านเจ้าอาวาสจึงให้ลอกปูนออกทั้งองค์ แล้วนำขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิหารนั้น พร้อมกันนั้นได้มีการจัดสร้างพระมณฑปเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปสุโขทัยมิตรเป็นการเฉพาะดังที่ปรากฏในปัจจุบัน
วัดพระยาไกรหรือวัดโชตนาราม เมื่อนานวันถูกทิ้งร้างจะด้วยเหตุผลในเรื่องของภูมิศาสตร์ของพื้นที่ที่อยู่ติดชายน้ำ ได้รับความเสียหายและยากแก่การบูรณะ จึงถูกทิ้งร้างไปในที่สุด เมื่อสภาพการณ์ถูกทิ้งร้าง จึงได้มีการย้ายเสนาสนะมารวมสร้างกับวัดไผ่เงิน และเปลี่ยนนามเป็นวัดไผ่เงินโชตนาราม แม้เสนาสนะจะไม่มี แต่ชื่อวัดและที่ดินอันเป็นที่ศาสนาสมบัติกลางยังมีอยู่ ชื่อวัดก็ยังปรากฏในทำเนียบวัดจนกระทั่ง พ.ศ. 2539 วัดพระยาไกร หรือวัดโชตนารามได้ถูกหน่วยงานราชการที่ดูแล ประกาศยุบวัด (ร้าง) ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการเมื่อ 7 สิงหาคม 2539 ตามที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 113 ตอนที่ 67 ง หน้า 20 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2539 [1]
วัดพระยาไกร หรือวัดโชตนาราม แม้จะไม่หลงเหลือวัดให้เป็นที่เคารพสักการะของชาวพุทธ อาจเรียกได้ว่า "วัดที่เหลือแต่ชื่อ" ก็คงไม่ผิด ด้วยเหตุผลของเงื่อนเวลา แต่ในเวลาเดียวกันวัดพระยาไกร ยังถูกเรียกในฐานะเป็นสถานที่ ประหนึ่งมีวัดตั้งอยู่ ดังปรากฏชื่อเป็นเขตการปกครองของกรุงเทพมหานคร "แขวงวัดพระยาไกร" เป็นชื่อของหน่วยงานราชการ เช่น สถานีตำรวจนครบาลวัดพระยาไกร หรือไปรษณีย์วัดพระยาไกร[6] ท่าเรือด่วนแม่น้ำเจ้าพระยาวัดพระยาไกร เป็นต้น
เมนูนำทาง
วัดพระยาไกร ประวัติใกล้เคียง
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดพระธรรมกาย วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร วัดพระธาตุลำปางหลวง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารแหล่งที่มา
WikiPedia: วัดพระยาไกร http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2482/A/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2523/D/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2539/D/...