วันเฮงชกมวยไทยมาก่อนที่จะหันมาชกมวยสากลอาชีพ โดยครั้งที่ชกมวยไทย วันเฮงจัดเป็นนักมวยหมัดหนัก สามารถชนะน็อกคู่ต่อสู้ได้ทั้งที่ตกเป็นรองอย่างมาก เคยได้แชมป์ของเวทีมวยลุมพินี และมวยไทยมาราธอน วีโก้ สมาร์ท สนามที่ 3 ในรุ่นไลท์ฟลายเวท (108 ปอนด์) มาก่อน จึงได้รับการสนับสนุนให้มาชกมวยสากลอาชีพ

วันเฮงขึ้นชกมวยสากลอาชีพครั้งแรกเมื่อ 26 มกราคม พ.ศ. 2550 ชนะคะแนน โรเอล กาเด จากนั้น ครองแชมป์โลกเยาวชนรุ่นมินิมัมเวท WBC ได้ในการชกสากลอาชีพครั้งที่ 3 เท่านั้น โดยเป็นฝ่ายชนะน็อค หม่า ยิหมิง ยก 1 ป้องกันตำแหน่งไว้ได้ 8 ครั้ง จึงสละ และขึ้นครองแชมป์เงารุ่นมินิมัมเวท WBC เมื่อ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ชนะคะแนน เจย์สัน โตโรนี จนได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกใน พ.ศ. 2557

วันเฮง ได้แชมป์โลกมาจากการเอาชนะทีเคโอ (ยอมแพ้ไม่ออกจากมุม) ในต้นยกที่ 10 ออสวัลโด โนโวอา เจ้าของตำแหน่งชาวเม็กซิโก ในการชกภาคบังคับ ซึ่งวันเฮงเป็นรองแชมป์โลกอันดับ 1 ที่เวทีมวยชั่วคราว หน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ซึ่งตรงกับวันลอยกระทงในปีนั้น[2] และป้องกันแชมป์ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ต่อมาในวันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ในการชกป้องกันแชมป์รุ่นสตรอว์เวทครั้งที่ 9 วันเฮงชนะทีเคโอ เลรอย เอสตราดา ผู้ท้าชิงชาวปานามาไปได้ในยกที่ 5 ที่จังหวัดนครราชสีมาทำให้สถิติการชกของวันเฮงเทียบเท่ากับยอดมวยอย่าง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ด้วยการชนะ 50 ไฟต์รวดเป็นการชนะน็อก18 ครั้ง

วันเฮงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะศิลปศาสตร์ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตอ่างทอง ชีวิตส่วนตัวชื่นชอบสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี[3]