วาฬสีน้ำเงิน (
อังกฤษ: Blue whale; ชื่อวิทยาศาสตร์: Balaenoptera musculus) เป็น
วาฬบาลีน (Balaenopteridae) และถือเป็น
สัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก วาฬสีน้ำเงินที่ตัวขนาดกลางๆจะยาวประมาณ 30 กว่าเมตร แต่ถ้าขนาดเล็กจะมีความยาวน้อยกว่า 30 เมตร (วาฬสีน้ำเงินแคระ หรือ B. m. brevicauda) แต่ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมีความยาว 56 เมตร โดยวัดความยาวของช้างในปัจจุบันที่นำความยาวของช้างมาต่อกันจำนวนแปดเชือก(ช้างบางสายพันธุ์ในปัจจุบันสามารถยาวได้ถึง7.4เมตรหรือ7.5เมตร) น้ำหนักเมื่อโตเต็มที่ ประมาณ 100–200 ตัน เฉพาะ
ลิ้นก็มีน้ำหนักเกือบเท่า
ช้างหนึ่งตัว
หัวใจมีขนาดเท่า
รถยนต์คันหนึ่ง และเส้นเลือดบางเส้นกว้างขนาดที่มนุษย์พอจะลงไปว่ายน้ำได้ และครีบหางก็มีขนาดกว้างกว่าปีกของเครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก จัดเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา มีขนาดใหญ่กว่า
ไดโนเสาร์ชนิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
[5]อาศัยอยู่ใน
มหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้,
แอตแลนติกและ
มหาสมุทรอินเดีย รวมถึงในมหาสมุทรแอนตาร์กติกด้วย และแม้จะมีขนาดร่างกายใหญ่โต แต่วาฬสีน้ำเงินก็มีรูปร่างเพรียวยาวเหมาะแก่การว่ายน้ำ จึงสามารถว่ายน้ำได้เร็วถึง 20 นอตต่อชั่วโมง
[5]ลูกวาฬจะกินเฉพาะ
นมแม่ที่มี
ไขมันสูงถึง
ร้อยละ 40 มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 4 กิโลกรัม กิน
เคยและ
แพลงก์ตอนเป็นอาหาร แต่ก็อาจจะกิน
สัตว์น้ำขนาดเล็กเช่น ปลาขนาดเล็กเข้าไปด้วย สามารถดำน้ำลงไปหาอาหารได้ลึกถึง 150 เมตร และปกติจะดำน้ำนาน 30 นาที แต่มีบันทึกสูงสุดว่าดำได้นานถึง 50 นาที และพ่นน้ำได้สูงถึง 10 เมตร ทั้งนี้ วาฬสีน้ำเงินที่โตเต็มวัยเคยกินวันหนึ่งได้มากถึง 4
ตันวาฬสีน้ำเงินถูกล่าอย่างหนักเพื่อต้องการไขมันและ
น้ำมัน โดยเฉพาะในช่วง 70 ปีแรกของ
ศตวรรษที่ 20 คาดว่ามีวาฬสีน้ำเงินราวเกิน 500,000 ตัวถูกฆ่าตาย ประชากรวาฬรอบเกาะเซาท์จอร์เจียในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ถูกฆ่าแบบล้างบาง รวมทั้งพวกที่เคยหากินอยู่นอก
ชายฝั่งญี่ปุ่นด้วย ประชากรวาฬสีน้ำเงินบางกลุ่มลดจำนวนลงถึงร้อยละ 98 จนเข้าสู่สภาพของการเป็นสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์ กระทั่งถึงช่วงกลาง
ทศวรรษ 1950 จึงได้มีการอนุรักษ์ขึ้นมาอย่างจริงจัง
[6]นอกจากนี้แล้ว วาฬสีน้ำเงินยังเป็นสัตว์ที่ส่งเสียงร้องได้กว้างไกลที่สุดในโลกอีกด้วย โดยสามารถส่งได้ได้ดังถึง 1,500
กิโลเมตร ในลักษณะของ
คลื่นเสียงที่มีความหลากหลาย ซึ่งเชื่อกันว่าไม่ได้เป็นไปใน
การสื่อสารเพียงอย่างเดียว หากแต่ยังใช้การนำทางอีกด้วยปัจจุบัน มีปริมาณวาฬสีน้ำเงินในซีกโลกใต้อยู่ประมาณ 1,500 ตัว(น้อยมาก) อีกทั้งมีหลักฐานว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เปอร์เซนต่อปี แต่ยังไม่มีการประมาณจำนวนวาฬชนิดนี้ที่ดีพอในบริเวณอื่นของโลก
[7]