ประวัติ ของ วิทวัส_ท้าวคำลือ

วิทวัส ท้าวคำลือ เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2536 ที่จังหวัดเชียงใหม่[1] เป็นบุตรคนกลาง ในบรรดาบุตรชายสามคน ของวทัญญู (บิดา) และเร็จวรรณา (มารดา)[4] ซึ่งเป็นครอบครัวที่นับถือคริสต์ศาสนา จบการศึกษาระดับมัธยม แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ที่โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ผ่านการฝึกฝนร้องเพลงจากโรงเรียนดนตรีมีฟ้า และมีความสามารถในการเล่นไวโอลิน ปัจจุบันศึกษาที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตภาคอินเตอร์ [5]

กรณีวิพากษ์วิจารณ์

ก่อนจะผ่านการคัดเลือกให้เข้าประกวดเอเอฟ 7 เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 วิทวัสลงข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่สั่งให้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง โดยเริ่มปรากฏเป็นประเด็นถกเถียงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่เริ่มการประกวด จากสมาชิกของกลุ่มยุทธการลงทัณฑ์ทางสังคมในเฟซบุ๊ก[6] จากนั้นลุกลามไปยังเว็บบอร์ดอีกหลายแห่ง รวมถึงเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ในวันที่ 6 กรกฎาคม[5][7][8][9][10]

บริษัท ทรูวิชันส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตรายการทรูเอเอฟ ออกจดหมายเปิดผนึกชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม โดยมีใจความสำคัญว่า การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองของผู้เข้าแข่งขันนั้น เกิดขึ้นก่อนที่จะเข้าร่วมรายการ รวมทั้งเป็นสิทธิเสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคล และเห็นว่าผู้สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน ก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอยู่แล้ว[11] ต่อมาเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม มีกระแสข่าวลือออกมาอีกว่า วิทวัสเคยลงข้อความ ที่มีเนื้อหาดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อค่ำวันที่ 23 พฤษภาคม อีกด้วย ฝ่ายมารดาของวิทวัสปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง โดยเห็นว่าน่าจะมีผู้ไม่หวังดีมาตัดต่อภาพ พร้อมทั้งยืนยันว่าครอบครัวทุกคนจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์[12]

งดขึ้นแสดงคอนเสิร์ต

ต่อมาวันที่ 10 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรก ของผู้เข้าประกวดทุกคน ในเวลา 19:30 น. บิดาและมารดาของวิทวัส เปิดแถลงข่าวที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี สถานที่แสดงคอนเสิร์ต โดยกล่าวว่า พวกตนแจ้งกับทรูวิชันส์เพื่อไม่ให้วิทวัสขึ้นเวทีแสดงคอนเสิร์ตในวันนี้ โดยให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการให้บุตรชายต้องอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นในสังคม[4] โดยเมื่อเศรษฐา ศิระฉายา พิธีกรประจำการแข่งขัน ประกาศถึงเหตุการณ์ดังกล่าวบนเวที บรรดาแฟนคลับของวิทวัส ต่างก็แสดงความไม่พอใจ แต่ก็มีผู้ชมอีกส่วนหนึ่งแสดงความยินดี[13]

ทั้งนี้ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของทรูวิชันส์ ตัวแทนของผู้จัดประกวด ตอบคำถามผู้สื่อข่าว หลังการแถลงข่าวว่า ในส่วนของคะแนนโหวตระหว่างการแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้ จะมีการบันทึกไว้เช่นเดิม แม้วิทวัสจะไม่ได้ขึ้นเวทีก็ตาม และจะนำไปรวมกับความเห็นในสัปดาห์ถัดไป โดยไม่ถือเป็นการผิดกฎกติกาของการประกวด หรือมีความได้เปรียบเสียเปรียบกันแต่อย่างใด ซึ่งเป็นการพิจารณาตามสถานการณ์ ซึ่งมีความล่อแหลมอยู่พอสมควร จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง ของวทัญญูและเร็จวรรณาดังกล่าว[14] ซึ่งวิทวัสเองยังไม่ทราบว่าตนเองจะไม่ได้ขึ้นเวที และขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่า เขาจะได้อยู่ในการประกวดต่อไปหรือไม่ เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย[15]

ส่วนศรัทธา ศรัทธาทิพย์ และอรวรรณ เย็นพูนสุข ครูใหญ่ของการประกวด เชื่อว่าวิทวัสคงทราบ ว่าเหตุใดจึงไม่ได้ขึ้นเวที อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 11 กรกฎาคม คงต้องเข้าไปอธิบายให้ทั้ง 12 คนเข้าใจตรงกัน สำหรับกรณีมีผู้เห็นว่ายุติธรรมหรือไม่ เมื่อวิทวัสไม่ได้ขึ้นเวที แต่ยังมีคะแนนโหวต ตนคิดว่าผู้เข้าประกวดคนอื่น น่าจะรู้สึกดีเสียมากกว่า ที่มีโอกาสขึ้นร้องเพลง ขณะที่วิทวัสไม่ได้ขึ้นเวที แต่ตนเห็นว่า การที่วทัญญูและเร็จวรรณาแถลงข่าวไปนั้น ก็เป็นเรื่องนอกเหนือกติกาตั้งแต่แรกแล้ว[13]

แถลงข่าวออกจากการประกวด

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม เวลา 14:30 น. ที่ห้องไลเบอรี่ โรงแรมเอตัส ถนนสุขุมวิท 15 (ซอยร่วมฤดี) วทัญญู เร็จวรรณา และวิทวัส ท้าวคำลือ พร้อมด้วยทนายความ แถลงข่าวร่วมกัน โดยประกาศว่า วิทวัสขอถอนตัวจากการประกวด ทรู อะคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซันที่ 7 เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับการกระทำของตนเอง[16] และต้องการให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ขึ้นในสังคม ทั้งนี้ บิดาของวิทวัสยอมรับว่า บุตรชายลงข้อความแสดงความเห็นทางการเมืองในเฟซบุ๊กจริง ส่วนตัวรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น หากมีโอกาส ตนจะขอพาวิทวัสเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เพื่อเข้าขออภัยกับเรื่องดังกล่าวด้วย[17]

ส่วนที่มีผู้กล่าวหาว่า บุตรชายตนลงข้อความดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยนั้น ตนสอบถามได้ความว่า วิทวัสมิได้กระทำดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งยังพบว่าข้อความดังกล่าวเป็นการตัดต่อ ตนจึงแจ้งความไว้ที่ สถานีตำรวจภูธรอำเภอสันทรายแล้ว[17] รวมทั้งตนยังขอร้องกับทรูวิชั่นส์ เพื่ออนุญาตให้บุตรชายขึ้นแสดงคอนเสิร์ต ร่วมกับเพื่อนๆ ผู้เข้าประกวด ในวันที่ 17 กรกฎาคม เป็นครั้งสุดท้ายด้วย[16] ส่วนวิทวัสกล่าวยอมรับว่าลงข้อความตำหนินายอภิสิทธิ์จริง และรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำไป เนื่องจากตนเป็นวัยรุ่น จึงนับว่ายังไม่มีวิจารณญาณมากพอ พร้อมทั้งขอโอกาสให้ตนได้แก้ตัว เพราะในชีวิตของทุกคน ต่างก็เคยทำผิดมาแล้ว[17] ทั้งนี้ บิดาและมารดาของวิทวัส ยังแสดงประกาศนียบัตร โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนทางดนตรี จากสหรัฐอเมริกา แก่ผู้สื่อข่าวด้วย[16]

ทั้งนี้ หลังการแถลงข่าว ทีมงานทรูวิชั่นส์ ก็ส่งวิทวัสกลับไปยังบ้านเอเอฟ ที่ทรูวิชั่นส์สตูดิโอ หมู่บ้านแมกโนเลีย ถนนบางนา-ตราด อีกครั้งหนึ่ง[18] โดยในวันที่ 15 กรกฎาคม ทรูวิชั่นส์ออกแถลงการณ์ มีเนื้อหาที่สำคัญคือ ผู้ผลิตรายการเคารพการตัดสินใจของนายวทัญญู นางเร็จวรรณา และบุตรชาย พร้อมทั้งไม่ขัดข้องที่วิทวัส จะขอขึ้นเวทีแสดงคอนเสิร์ตวันเสาร์นี้ และยังแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งขอชื่นชมในความกล้าหาญของวิทวัสที่แสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง โดยหวังว่าสังคมจะให้อภัยและให้โอกาสในการปรับปรุงและพิสูจน์ตนเองแก่วิทวัสต่อไป นอกจากนี้ ผู้ผลิตรายการยังตัดสินใจมอบคืนค่าลงคะแนนที่ผู้ชมให้แก่วิทวัส ตั้งแต่วันที่ 5-17 กรกฎาคม ในรูปของค่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบทรูมูฟ ตามมูลค่าที่ผู้ชมแต่ละคนลงคะแนนไป[19]

ใกล้เคียง

วิทวัจน์ สุนทรวิเนตร์ วิทวัส ท้าวคำลือ วิทวัส รชตะนันทน์ วิทวัส สิงห์ลำพอง วิวัฒนาการของมนุษย์ วิวัฒนาการ วิวัฒนาการกระดูกหูสำหรับได้ยินของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม วิวัฒนาการของตา วิวัฒนาการของการเห็นเป็นสีในไพรเมต วิวัฒนาการของคอเคลีย