วุฒิสภาโรมัน
วุฒิสภาโรมัน

วุฒิสภาโรมัน

บทความนี้ใช้ระบบคริสต์ศักราช เพราะอ้างอิงคริสต์ศักราชและคริสต์ศตวรรษ หรืออย่างใดอย่างหนึ่งวุฒิสภาโรมัน (ละติน: Senatvs Romanvs) เป็นสถาบันทางการเมืองของโรมันโบราณที่ก่อตั้งก่อนที่พระมหากษัตริย์แห่งโรมพระองค์แรกจะขึ้นครองราชย์[ต้องการอ้างอิง] (ที่กล่าวกันว่าเป็นเวลา 753 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ระบบนี้รอดการล่มสลายของราชอาณาจักรโรมันเมื่อ 509 ปีก่อนคริสต์ศักราช, การล่มสลายของสาธารณรัฐโรมันเมื่อ 27 ปีก่อนคริสต์ศักราช และการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตกในปี ค.ศ. 476 ระหว่างสมัยราชอาณาจักรวุฒิสภาก็เป็นเพียงคณะที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์แห่งโรมองค์สุดท้ายผู้โหดร้ายลูซิอัส ทาร์ควินิอัส ซูเพอร์บัส (Lucius Tarquinius Superbus) ถูกโค่นอำนาจโดยวุฒิสภาที่นำโดยลูซิอัส จูนิอัส บรูตัส (Lucius Junius Brutus)[1]ระหว่างตอนต้นของสมัยสาธารณรัฐโรมันวุฒิสภาเป็นสถาบันทางการเมืองที่อ่อนแอขณะที่ผู้บริหารระบบยุติธรรมเป็นผู้มีอำนาจ การเปลี่ยนแปลงอำนาจจากระบบพระมหากษัตริย์มาเป็นระบบธรรมนูญการปกครองอาจจะกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป และเป็นเวลาอีกหลายชั่วคนก่อนที่ระบบวุฒิสภาจะมามีอำนาจเหนือผู้บริหารระบบยุติธรรม เมื่อมาถึงกลางสมัยสาธารณรัฐวุฒิสภาก็มีอำนาจสูงสุด เมื่อมาถึงปลายสมัยอำนาจของวุฒิสภาก็ลดลงอีกที่ทำให้ต้องเกิดการปฏิรูปพี่น้องกราคัส -- ไทบีเรียส กราคัส และ กาเอียส กราคัสแต่วุฒิสภาของจักรวรรดิไม่เหมือนกับวุฒิสภาของสาธารณรัฐตรงที่ไม่มีความอิสระทางการเมืองแต่ขึ้นกับจักรพรรดิ ซึ่งทำให้สูญเสียความมีเกียรติศักดิ์และในที่สุดก็อำนาจแทบทั้งหมด หลังจากมีการปฏิรูปทางรัฐธรรมนูญโดยจักรพรรดิไดโอคลีเชียน วุฒิสภาก็หมดความหมายทางการเมืองและหลังจากนั้นก็ไม่มีโอกาสได้อำนาจที่เคยมีคืนมา เมื่อรัฐบาลย้ายออกจากกรุงโรมวุฒิสภาก็ลดลงเป็นเพียงสถาบันท้องถิ่น สถานะภาพนี้ได้รับการยืนยันโดยจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 เมื่อทรงก่อตั้งวุฒิสภาไบแซนไทน์ในคอนสแตนติโนเปิล เมื่อจักรวรรดิโรมันล่มสลายในปี ค.ศ. 476 วุฒิสภาก็ทำหน้าที่ต่อมาอยู่ระยะหนึ่งภายใต้การปกครองของบาร์บาเรียนก่อนที่จะได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งในรัชสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียนที่ 1 แต่ในที่สุดก็ยุติลง แต่วุฒิสภายังคงมีอยู่ในคอนสแตนติโนเปิลจนกระทั่งมายุติลงในที่สุดเช่นกันเมื่อรวมเวลาการมีวุฒิสภาในรูปแบบใดแบบหนึ่งแล้ว “วุฒิสภาโรมัน” ก็มีอายุการปฏิบัติงานที่รวมด้วยกันทั้งสิ้นอย่างน้อยร่วมสองพันปี