เจอครูที่อู่ซ่อมรถ ของ ศรชัย_เมฆวิเชียร

ต่อมา ศรชัย เมฆวิเชียรมีโอกาสมาประกวดร้องเพลงที่เสียงสามยอด หลังวัดลาดพร้าว งานนี้เขาได้ที่ 2 เพราะร้องคร่อมจังหวะ อันเป็นจุดอ่อนสำคัญในการร้องเพลงของเขา จากนั้นศรชัยก็มาศึกษาเรื่องดนตรีกับครูฉลอง การะเกด และแดน สนธยา ที่ทำวง“ พัทยานายก “ พร้อมกับทำงานในอู่ซ่อมรถ

การทำงานที่อู่ซ่อมรถ ทำให้ศรชัย เมฆวิเชียร ได้เจอกับครูฉลอง ภู่สว่าง ครูเพลงชื่อดังแห่งยุคโดยบังเอิญ เนื่องจากรถของครูเกิดมาเสียแถวนั้นระหว่างที่จะไปแสดงดนตรีที่ต่างจังหวัด เพื่อนรุ่นพี่ที่แผนกช่างเครื่องยนต์ของอู่เห็นว่าข้างรถเขียนว่า “วงดนตรีฉลอง ภู่สว่าง ก็เลยมาตามและพาไปฝาก แต่ครูก็ไม่รับโดยบอกกับศรชัย เมฆวิเชียรว่า “มีงานทำอย่างนี้ดีแล้ว ไม่เสี่ยง” อีก 3 วันต่อมา ครูฉลอง ภู่สว่าง มารับรถที่อู่ เพื่อนของศรชัย เมฆวิเชียร ก็พาไปฝากอีกครั้ง คราวนี้ ครูฉลอง ภู่สว่าง ลองให้ร้องเพลง “คิดถึงพี่ไหม “ ของศรคีรี ศรีประจวบให้ฟัง หลังร้องจบครูก็ตกลงใจที่จะไม่รับ แต่ภรรยาของครู ที่ตามมาด้วยเกิดติดใจน้ำเสียง และเลยให้ครูรับเขาไว้

เมื่อมาอยู่กับครูฉลอง ภู่สว่าง ที่ช่วยแก้ไขปัญหาการร้องคร่อมจังหวะให้เขาได้แล้ว ครูก็แต่งเพลงให้เขา ครูฉลอง ภู่สว่างนั้นถนัดในแนวเพลงต่อว่าผู้หญิง แต่เห็นว่า ศรชัย เมฆวิเชียรมีหน้าตาหล่อเหลา ไม่เหมาะกับเพลงต่อว่าผู้หญิง ก็เลยแต่งเพลงแนวหวานให้ ก็เลยมอบเพลง “จูบไม่หวาน” ที่แต่เดิมกะจะแต่งให้ ชินกร ไกรลาศ ส่วนเพลงสร้างชื่อของเขานั้น ได้แก่เพลง “ลำดวนลืมดง” และเพลง ” ทหารเกณฑ์ผลัด 2 “ ก่อนจะมาดังอย่างสุดๆกับ “อ้อนจันทร์” และ”พายงัด “

สำหรับชื่อ ศรชัย เมฆวิเชียร นั้น หลวงพ่อสุด วัดกาหลง และหลวงพ่อวัดช่องลมเป็นคนตั้งให้ โดยเลียนแบบมาจากชื่อ ยอดชาย เมฆสุวรรณ [1]