ประวัติ ของ ศรีรัศมิ์_สุวะดี

พื้นฐานครอบครัวและการศึกษา

ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี มีชื่อเล่นว่า อี๊ด เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2514 เป็นบุตรคนที่สามจากทั้งหมดห้าคน[1][2][3] ของอภิรุจ สุวะดี และวันทนีย์ (สกุลเดิม: เกิดอำแพง) พื้นเพเดิมเป็นชาวจังหวัดสมุทรสงคราม[4] บิดาเป็นชาวตำบลวัดประดู่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ส่วนมารดาเป็นชาวมอญจากตำบลอำแพง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร[5] ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์มีพี่สาวและพี่ชายคือ สุดาทิพย์ ม่วงนวล[6], ณรงค์ สุวะดี[7] ส่วนน้องสาวและน้องชายคือ ปณิดา สุวะดี และณัฐพล สุวะดี อดีตราชองครักษ์เวร[8][9] ส่วนพลตำรวจโท พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ เป็นน้าของเธอ[10][11]

ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์เข้ารับการศึกษาระดับประถมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนวัดสุนทรสถิต (สามัคคีวิทยาคม) ในอำเภอบ้านแพ้ว[5][12] ระดับประถมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเทศบาลบ้านมหาชัย (อนุกูลราษฎร์) อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร[13][14] และเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนวัดน้อยใน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร[12][15][16] ภายหลังสำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพจากโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย ก่อนจะเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาการจัดการทั่วไป (หลักสูตร 4 ปี) เมื่อปี พ.ศ. 2540[4] ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2545 และสำเร็จการศึกษาปริญญาโท หลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (คหกรรมศาสตร์) ภาคพิเศษ สาขาวิชาการพัฒนาการครอบครัวและเด็ก คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยคะแนนเฉลี่ย 3.94[17][18]

เข้าสู่พระราชวงศ์

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ กับท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นพระวรชายา ปี พ.ศ. 2550

ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์เริ่มเข้าถวายการรับใช้ในพระองค์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 โดยรับผิดชอบหน้าที่การงานในฐานะข้าราชการพลเรือนในพระองค์ นอกจากนี้ยังได้ถวายงานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในด้านศิลปาชีพ[19][20]

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ได้ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย ต่อมาเข้ารับพระราชทานน้ำพระมหาสังข์จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น "หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา" เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544[21] โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกล่าวว่า

ตอนนี้อยู่เป็นครอบครัว มีกันอยู่ 4 คน มีเรา หม่อม พระองค์ภา และท่านหญิง อยู่กับหม่อมมาตั้งแต่ปี 2536 อยู่มานาน รู้จักกันมา 9-10 ปีแล้ว ดูใจกันมานานแล้ว [...] เราอยากจะสร้างครอบครัวขึ้นมาให้ดี หม่อมมีหน้าที่ดูแลเรื่องต่าง ๆ ภายในบ้าน ดูแลข้าราชบริพาร รวมทั้งถวายงานสมเด็จ (สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ) เราใช้ชีวิตกันแบบสบาย ๆ ไม่มีอะไร [...] เราอายุ 50 ปีแล้ว ไม่อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ อยากได้ครอบครัวที่ดี ที่คนพอใจเป็นประโยชน์ คบได้ ไม่ใช่เป็นการเอาอะไรมาใส่ประชาชน แต่ขอให้ประชาชนยอมรับว่าคนนี้ใช้ได้ ถ้าเป็นหม่อมในพระบรมฯ ทุกคนก็ต้องกราบไหว้ มันก็พัง— สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร, 23 มกราคม 2545[22]

พระบิดาและพระมารดาของพระองค์รวมทั้งสมาชิกในครอบครัวได้รับพระราชทานนามสกุลจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า "อัครพงศ์ปรีชา"[10] เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2545[23] หม่อมศรีรัศมิ์ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้าฝ่ายใน เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 และได้ประสูติกาลสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร พระราชโอรส เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2548[24] ภายในปีนั้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนา หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา ขึ้นดำรงพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นเจ้านายแห่งราชวงศ์ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2548[25]

ทรงขอลาออกจากฐานันดรศักดิ์

กองกิจการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (พระอิสริยยศขณะนั้น) มีหนังสือลงวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 แจ้งถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอยกเลิกชื่อสกุลพระราชทาน "อัครพงศ์ปรีชา" โดยให้ผู้ใช้ชื่อสกุลพระราชทานนี้ในปัจจุบันกลับไปใช้ชื่อสกุลเดิม[26] โดยก่อนหน้านั้นมีการกวาดล้างพระญาติใกล้ชิดของพระองค์ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการฉ้อราษฎร์บังหลวง[10] โดยทั้งหมดกลับไปใช้สกุลเดิมก่อนพระราชทานคือ "เกิดอำแพง"[27][28][29] ต่อมาข้อมูลนามสกุลนั้นผิด เมื่อตรวจสอบแล้วจึงเปลี่ยนให้ใช้ชื่อสกุลว่า "สุวะดี" อันเป็นชื่อสกุลเดิมทีแท้จริง[3][30] ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557[23] ซึ่งสำนักข่าวบีบีซีมองว่า นี่อาจเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การหย่าร้างของทั้งสองพระองค์[10]

วิกิซอร์ซ มีงานต้นฉบับเกี่ยวกับ:

วันที่ 12 ธันวาคมปีเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ (ยศในขณะนั้น) ได้ทรงนำความขึ้นกราบบังคมทูลสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร (พระอิสริยศในขณะนั้น) เป็นลายลักษณ์อักษรว่าขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557[31] การนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระราชทานเงิน 200,000,000 บาท แก่พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์เพื่อทรงใช้ในการดำรงพระชนม์ชีพและทรงดูแลครอบครัว[32] มีข่าวกระทรวงการคลังยืนยันว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (พระอิสริยศในขณะนั้น) ขอรับเงินพระราชทานจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และยังขอความร่วมมือสื่อมวลชนงดเผยแพร่เอกสารที่ไม่เหมาะสมในสื่อทุกชนิด[33]

วันที่ 13 ธันวาคม สังคมออนไลน์ส่งภาพพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ทรงทำบัตรประชาชนใหม่ต่อ ๆ กัน[34][35] พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ทรงใช้คำนำหน้านามว่า "นางสาว" และพระองค์ได้ทรงย้ายออกจากวังศุโขทัยเสด็จไปประทับอยู่ที่พระตำหนักในอำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี[36][37] อย่างไรก็ตามพระองค์จะมีคำนำหน้านามว่า "ท่านผู้หญิง" เนื่องจากพระองค์ได้ทรงรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า (ฝ่ายใน) ทั้งนี้ มติชนออนไลน์ ได้ให้ข้อมูลว่าพระองค์ได้ทรงลาออกจากการเป็นข้าราชการทหาร[38] วันที่ 17 ธันวาคม พระองค์ได้ทรงเขียนจดหมายขอบคุณสื่อมวลชนที่ติดตาม และขอปฏิบัติธรรมเงียบ ๆ กับครอบครัว[39][40] เนื่องจากมีสื่อมวลชนติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดจนรบกวนการปฏิบัติธรรมของพระองค์[41]

ใกล้เคียง

ศรีรัศมิ์ สุวะดี ศรีรังคปัฏฏณะ ศรีรัช อุดดอลา ศรีรังคนาถสวามีมนเทียร ศรีรับสุข ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช ศรีศักร วัลลิโภดม ศรีลังกามาตา ศรีราชา วงศารยางกูร ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี

แหล่งที่มา

WikiPedia: ศรีรัศมิ์_สุวะดี http://www.bbc.com/news/world-asia-30258759 http://news.ch7.com/detail/98683/%E0%B8%9E%E0%B8%A... http://www.nationmultimedia.com/2005/04/30/nationa... http://www.nationmultimedia.com/2006/04/27/special... http://www.nationmultimedia.com/2006/08/04/nationa... http://www.nationweekend.com/home/article/1177/183... http://www.nationweekend.com/home/article/1177/183... http://www.nationweekend.com/weekend/20050204/web0... http://www.nationweekend.com/weekend/20050503/web0... http://www.ryt9.com/s/tpd/1383161