เมนูนำทาง
ศศลักษณ์_ไหประโคน
ในวันที่ 27 เมษายน 2559 ศศลักษณ์ทำหนึ่งประตูในนัดที่แบงค็อกเปิดบ้านเอาชนะบีอีซี เทโรศาสน 3–0[2] นับเป็นประตูเดียวของเขาตลอดการลงเล่นให้กับแบงค็อก ยูไนเต็ด
ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดได้ยืมตัวศศลักษณ์ ไหประโคน จากแบงค็อก ยูไนเต็ด ด้วยสัญญา 6 เดือน และเขาจะได้สวมเสื้อหมายเลข 6[3] ต่อมาวันที่ 17 มิถุนายน 2560 ศศลักษณ์ได้ลงเล่นนัดแรกให้กับบุรีรัมย์ในฐานะตัวจริงในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะราชนาวี 2–0[4] เขามีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ไทยลีกได้สำเร็จ
ในวันที่ 25 ธันวาคม 2560 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดได้ทำการซื้อขาดศศลักษณ์ ไหประโคน จากทรูแบงค็อกเป็นที่เรียบร้อย[5] ต่อมาในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2561 ศศลักษณ์ลงเล่นเกมลีกครั้งแรกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะบางกอกกล๊าส 1–0 โดยลงมาแทนกรกช วิริยอุดมศิริในนาทีที่ 70[6] ต่อมาในวันที่ 13 มิถุนายน การแข่งขันโตโยต้า ลีกคัพ ศศลักษณ์ทำประตูแรกให้กับสโมสร ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะลำปาง เอฟซี 3–1 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[7] ต่อมาในวันที่ 30 มิถุนายน เขาทำประตูแรกในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด 2–1[8] และในวันที่ 29 กันยายน เขาทำประตูที่ 2 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะพัทยา ยูไนเต็ด 3–0 โดยมีการฉลองแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 6 หลังจบการแข่งขันนัดนั้น[9]
ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ นัดชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก ฤดูกาล 2561 เจอกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ช้าง เอฟเอคัพ 2561 ที่สนามกีฬากองทัพบกในกรุงเทพมหานคร ศศลักษณ์ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดนั้น สุดท้าย บุรีรัมย์ แซงเอาชนะ สิงห์ เชียงราย 3–1 ช่วยให้บุรีรัมย์คว้าแชมป์ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ สมัยแรก ได้สำเร็จ[10] ต่อมาในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ รอบ 64 ทีมสุดท้าย ศศลักษณ์ทำประตูช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านแซงเอาชนะพีทีที ระยอง ไปได้ 3–1 ผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[11] ต่อมาในวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ศศลักษณ์ทำประตูแรกในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปได้ 1–0[12] ต่อมาในวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ศศลักษณ์ทำประตูที่ 2 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะพีทีที ระยอง ไปได้ 5–0[13] ต่อมาในวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ศศลักษณ์ทำประตูที่ 3 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะเชียงใหม่ไปได้ 4–0[14]
ในวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 โตโยต้า ลีกคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ศศลักษณ์ทำประตูชัยในนาทีสุดท้ายของช่วงต่อเวลาพิเศษ ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปชนะเจแอล เชียงใหม่ฯ ที่สนามกีฬาสมโภชเจ็ดร้อยปี 2–1 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[15] ต่อมาในวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ช้าง เอฟเอคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ศศลักษณ์ทำหนึ่งประตู ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะระยองไปได้ 5–0 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[16] ต่อมาในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ช้าง เอฟเอคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย บุรีรัมย์บุกไปตามตีเสมอตราด 2–2 ทั้งที่ถูกนำก่อน 0–2 ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ ซึ่งศศลักษณ์เป็นผู้ยิงคนที่สี่ เขายิงข้ามคาน แต่สุดท้าย บุรีรัมย์ก็สามารถเอาชนะตราดในการยิงลูกโทษไปได้ 5–4 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ[17] ต่อมาในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2562 โตโยต้า ลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์พบกับ พีที ประจวบ ที่เอสซีจีสเตเดียมในจังหวัดนนทบุรี ผลจบลงด้วยการเสมอ 1–1 ในเวลา 120 นาที ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ ศศลักษณ์ เป็นคนยิงคนที่ 7 และเขาก็ยิงเข้าไปได้ แต่สุดท้าย บุรีรัมย์พ่ายแพ้ประจวบในช่วงลูกโทษ 7–8 ผลประตูรวม 8–9 พลาดโอกาสคว้าแชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ อย่างน่าเสียดาย[18] จบฤดูกาล ศศลักษณ์ลงเล่นในลีกครบ 30 นัด ยิงได้ 3 ประตู ช่วยให้สโมสรจบอันดับที่สองของตาราง
ในวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ศศลักษณ์ยิงหนึ่งประตูในนัดกระชับมิตร ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะขอนแก่นไปได้ 2–0[19] ต่อมาในวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2563 เกมกระชับมิตรนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะ โปลิศ เทโร ไปได้ 2–0 ศศลักษณ์ได้เปลี่ยนหมายเลขเสื้อจากเดิม 6 ไปเป็นหมายเลข 2 ซึ่งเป็นหมายเลขเก่าของธีราทร บุญมาทัน[20]
เมนูนำทาง
ศศลักษณ์_ไหประโคนใกล้เคียง
แหล่งที่มา
WikiPedia: ศศลักษณ์_ไหประโคน