ภาพยนตร์ ของ สตาร์_วอร์ส_ไตรภาคต้น

สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 1: ภัยซ่อนเร้น ฉายเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 1999 เล่าเรื่องราวของเหล่าเจไดได้พบกับ อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ วัยเด็ก และการคอรัปชั่นภายในวุฒิสภากาแลกติกโดย พัลพาทีน (ดาร์ธ ซิเดียส) สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 2: กองทัพโคลนส์จู่โจม ฉายเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2002 เล่าเรื่องราว 10 ปีหลังเหตุการณ์ในเอพพิโซด 1 อนาคินเป็นศิษย์ของโอบีวัน เคโนบีและเขามีความรักต้องห้ามกับแพดเม่ ขณะเดียวกันสงครามโคลนก็ได้เริ่มต้นขึ้น สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 3: ซิธชำระแค้น ฉายเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2005 เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในแฟรนไชส์ที่ได้เรตติง PG-13[10] เล่าเรื่องราวของอนาคินเข้าสู่ด้านมืดของพลังและกลายเป็น ดาร์ธ เวเดอร์[11]

ภาพยนตร์วันฉายผู้กำกับผู้เขียนบทภาพยนตร์เนื้อเรื่องโดยผู้อำนวยการสร้างผู้จัดจำหน่าย
19 พฤษภาคม ค.ศ. 1999 (1999-05-19)จอร์จ ลูคัสริก แม็คคาลัมทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ (ช่วงแรก)
วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์โมชันพิกเชอส์
16 พฤษภาคม ค.ศ. 2002 (2002-05-16)จอร์จ ลูคัสจอร์จ ลูคัสและโจนาธาน เฮลส์จอร์จ ลูคัส
19 พฤษภาคม ค.ศ. 2005 (2005-05-19)จอร์จ ลูคัส

เอพพิโซด 1 ภัยซ่อนเร้น

32 ปีก่อนเหตุการณ์ในภาพยนตร์ฉบับดั้งเดิม อัศวินเจไดสองคน ไควกอน จินน์และศิษย์ของเขา โอบีวัน เคโนบี พบว่า สมาพันธ์การค้า ได้ทำการปิดกั้นรอบ ๆ ดาวเคราะห์นาบู พัลพาทีน วุฒิสมาชิกของดาวนาบู ซึ่งแท้จริงแล้วเป็น ซิธลอร์ด ดาร์ธ ซิเดียส ได้วางแผนการปิดกั้นดังกล่าวอย่างซ่อนเร้นเพื่อเป็นข้ออ้างที่เขาจะได้กลายเป็นสมุหนายกของสาธารณรัฐกาแลกติก ด้วยความช่วยเหลือของราชินีของนาบู แพดเม่ อมิดาลา, ไควกอนและโอบีวันหลบหนีจากการปิดกั้นได้ พวกเขาลงจอดที่ดาวทาทูอีน เพื่อซ่อมยานอวกาศและได้พบกับทาสเด็กอายุเก้าปีมีชื่อว่า อนาคิน สกายวอร์คเกอร์ ไควกอนเชื่อว่าเขาเป็น "ผู้ที่ถูกเลือก" จึงนำตัวอนาคินมาฝึกฝนเป็นเจได[12]

ในไตรภาคต้นนั้นแต่เดิมมีแผนที่จะเติมเต็มประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับไตรภาคเดิม แต่ลูคัสตระหนักว่าพวกเขาสามารถสร้างครึ่งแรกของหนึ่งเรื่องยาวที่เน้นไปที่เรื่องราวของอนาคิน[13] ทำให้ภาพยนตร์ชุดกลายเป็นมหากาพย์สกายวอร์คเกอร์ ในปี ค.ศ. 1994 ลูคัสเริ่มเขียนบทสำหรับภาพยนตร์เรื่องแรกในไตรภาคต้น ใช้ชื่อในช่วงแรกว่า เอพพิโซด 1: เดอะบีกินนิง หลังภาพยนตร์ฉาย ลูคัสประกาศว่าเขาจะกำกับภาคต่อไปอีกสองภาค[14]

นักแสดงหลักในไตรภาคต้นประกอบด้วย เฮย์เดน คริสเตนเซน (อนาคิน สกายวอล์คเกอร์, เอพพิโซด 2 และ 3), ยวน แม็คเกรเกอร์ (โอบีวัน เคโนบี), นาตาลี พอร์ตแมน (แพดเม่ อมิดาลา) ตามลำดับ

เอพพิโซด 2 กองทัพโคลนส์จู่โจม

10 ปีต่อมา มีคนพยายามลอบสังหาร แพดเม่ อมิดาลา ซึ่งตอนนี้ทำหน้าที่เป็นวุฒิสมาชิกของนาบู อัศวินเจได โอบีวัน เคโนบี และศิษย์ของเขา อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ ได้รับมอบหมายให้ปกป้องเธอ ขณะที่โอบีวันกำลังตามหาผู้ลอบสังหาร อนาคินและแพดเม่ต่างตกหลุมรักกันอย่างลับ ๆ สมุหนายกพัลพาทีน วางแผนที่จะดึงกาแลคซีให้เข้าสู่สงครามโคลน ระหว่างกองทัพโคลนของสาธารณรัฐซึ่งนำโดยเจไดกับสมาพันธรัฐระบบอิสระซึ่งนำโดยศิษย์ของพัลพาทีน เคาต์ ดูกู [15]

ร่างแรกของ เอพพิโซด 2 นั้นเสร็จสมบูรณ์ก่อนการถ่ายทำไม่กี่สัปดาห์ ลูคัสจ้าง โจนาธาน เฮลส์ นักเขียนจาก เดอะยังอินเดียนาโจนส์ครอนิเคิลส์ มาขัดเกลาบท[16] ลูคัสไม่แน่ใจว่าจะใช้ชื่อตอนอะไรดี ลูคัสจึงพูดติดตลกเรียกภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ของจาร์ จาร์" ("Jar Jar's Great Adventure")[17] ตอนที่เขียนบท จักรวรรดิเอมไพร์โต้กลับ ลูคัสเคยกำหนดให้แลนโด คาลริสเซียน เป็นโคลนจากดาวเคราะห์ของโคลน เพราะว่าสงครามโคลนเคยถูกพูดถึงใน ความหวังใหม่[18][19] ต่อมาเขาก็มีแนวคิดเกี่ยวกับกองทัพของโคลนจู่โจม ซึ่งมาจากดาวเคราะห์ที่ห่างไกล โจมตีสาธารณรัฐและถูกต่อต้านโดยเจได[20]

เอพพิโซด 3 ซิธชำระแค้น

สามปีหลังเกิดสงครามโคลน อนาคินเริ่มไม่ไว้วางใจสภาเจไดและเริ่มเห็นภาพนิมิตของแพดเม่ซึ่งเสียชีวิตขณะคลอดบุตร พัลพาทีนหลอกอนาคินว่าพลังแห่งด้านมืดสามารถช่วยชีวิตแพดเม่ไว้ได้ อนาคินซึ่งกำลังสิ้นหวัง ยอมเป็นศิษย์ของพัลพาทีน แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ดาร์ธ เวเดอร์ พัลพาทีนออกคำสั่งให้กวาดล้างเจไดและประกาศเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสาธารณรัฐเป็นจักรวรรดิกาแลกติก เวเดอร์ปะทะกับโอบีวันด้วยการดวลกระบี่แสงที่ดาวเคราะห์ภูเขาไฟมุสตาฟา ต่อมาแพดเม่ก็เสียชีวิตหลังให้กำเนิดแฝดสอง[11]

การทำงานของ เอพพิโซด 3 เริ่มต้นก่อน เอพพิโซด 2 จะฉาย โดยถ่ายทำหนึ่งฉากในช่วงแรกของการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องที่แล้ว แต่เดิมลูคัสบอกกับศิลปินแนวคิดว่าภาพยนตร์จะเปิดด้วยภาพสงครามโคลนจากสถานที่ต่าง ๆ[21] และมีฉากที่พัลพาทีนเปิดเผยกับอนาคินว่า เขาสร้างอนาคินขึ้นมาจากมิดิคลอเรียนส์ของเขา[22] ลูคัสได้ทบทวนและจัดเรียงเรื่องราวใหม่ทั้งหมด[23] โดยให้จบองก์แรกของภาพยนตร์ ด้วยอนาคินฆ่าเคาต์ ดูกู เป็นสัญญาณเริ่มทำให้เขาเข้าสู่ด้านมืด[24] หลังถ่ายทำภาพยนตร์เสร็จในปี ค.ศ. 2003 ลูคัสเปลี่ยนแปลงเรื่องราวของอนาคินหลายอย่าง โดยอนาคินเข้าสู่ด้านมืดจากการพยายามที่จะช่วยชีวิตของแพดเม่เป็นหลัก มากกว่าเชื่อว่าเจไดกำลังวางแผนที่จะล้มล้างสาธารณรัฐ การเขียนใหม่ประสบความสำเร็จได้จากการตัดต่อจากภาพที่ได้จากการถ่ายทำและการถ่ายใหม่และถ่ายซ่อมในลอนดอนเมื่อปี ค.ศ. 2004[25]

ใกล้เคียง

สตาร์ วอร์ส สตาร์ เทรค สตาร์บัคส์ สตาร์อัลไลแอนซ์ สตาร์ทอัพ (ละครโทรทัศน์) สตาร์ วอร์ส (ภาพยนตร์) สตาร์ วอร์ส: ทีมโคตรโคลนมหากาฬ สตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส (ภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ พ.ศ. 2551) สตาร์ชิปเอนเตอร์เทนเมนต์ สตาร์ วอร์ส: อุบัติการณ์แห่งพลัง

แหล่งที่มา

WikiPedia: สตาร์_วอร์ส_ไตรภาคต้น http://www.cinemascore.com/ http://www.jeditemplearchives.com/specialreports/b... http://www.starwars.com/episode-iii/bts/production... http://www.time.com/time/covers/1101020429/story2.... http://www.time.com/time/magazine/article/0,9171,9... http://www.utc.edu/Academic/FirstYearStudies/semin... http://www.theforce.net/latestnews/story/gary_kurt... https://boxofficemojo.com/movies/?id=starwars.htm https://boxofficemojo.com/movies/?id=starwars2.htm https://boxofficemojo.com/movies/?id=starwars3.htm